อธิบดีกรมราชทัณฑ์แจงรับส่งตัว8 แกนนำกปปส.เข้าเรือนจำกลางดึก เวลากระชั้นชิดไม่ทันตัดผม ยันปฏิบัติต่อผู้ต้องขังทุกคนเท่าเทียม
เมื่อวันที่ 27 ก.พ. นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงกรณีไม่ตัดผมแกนนำกลุ่ม กปปส. หลังรับตัวมาควบคุมในเรือนจำว่า แนวปฏิบัติโดยทั่วไป เมื่อบุคคลใดต้องโทษเข้ามาในเรือนจำและทัณฑสถาน เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจค้นตัวตามหลักสิทธิมนุษยชน พร้อมดำเนินการตรวจคัดกรองโรคโดยแพทย์และเจ้าหน้าที่พยาบาลก่อนจะมีเจ้าหน้าที่เข้าอบรบชี้แจงระเบียบการปฏิบัติตน รวมถึงการใช้ชีวิตในเรือนจำ ซึ่งในกรณีของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และพวกรวม 8 คน เรือนจำก็ได้ดำเนินการตามระเบียบ และขั้นตอนตามที่กล่าวข้างต้นอย่างไม่มีข้อยกเว้นอย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครได้รับตัวนายสุเทพและพวก คือ เวลาประมาณ 20.30 น. ของวันที่ 24 ก.พ.64 ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นตัวและคัดกรองตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้วเสร็จ ในเวลาประมาณ 22.45 น. ซึ่งสมควรแก่เวลาที่ต้องแยกขัง
นายอายุตม์ กล่าวอีกว่า วันต่อมาเวลาประมาณ 8.30-10.30 น. นายสุเทพ พร้อมกับพวกได้ออกพบทนายความ จากนั้นทั้งหมดได้ออกพบแพทย์ตรวจอาการตามที่ได้แจ้งไว้กับเจ้าหน้าที่พยาบาลจนดำเนินการแล้วเสร็จในเวลาประมาณ14.45 น. โดยเวลาดังกล่าวเป็นเวลากระชั้นชิดกับเวลาที่ผู้ต้องขังต้องเตรียมตัวขึ้นเรือนนอน จึงยังไม่ได้ดำเนินการตัดผมของนายสุเทพพร้อมกับพวก จนกระทั่งวันที่ 26 ก.พ. เวลา 8.30 น. เรือนจำได้รับการประสานงานว่าให้นำตัวนายสุเทพและแกนนำกลุ่ม กปปส. ทั้งหมดไปยังที่ทำการพัศดีเวร เพื่อรอการปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นเวลาต่อเนื่อง จึงเป็นเหตุที่นายสุเทพพร้อมกับพวก ยังไม่ได้รับการตัดผมตามระเบียบกรมราชทัณฑ์
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ตนขอให้สังคมและประชาชนทุกฝ่ายเชื่อมั่นต่อการปฏิบัติงานของกรมราชทัณฑ์ในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน และเป็นมาตรฐาน ตามหลักสิทธิมนุษยชน และไม่มีการเลือกปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง โดยยึดถือกฎ ระเบียบ และวินัยต่างๆ ที่ข้าราชการกรมราชทัณฑ์ทุกคนพึงยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด