วันพุธ, พฤศจิกายน 27, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight‘จตุพร’ทำนายมี.ค.เปลี่ยนแปลงใหญ่ ยัน‘จุดจบอาจไม่ตรงกับหลายคนคิด’
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘จตุพร’ทำนายมี.ค.เปลี่ยนแปลงใหญ่ ยัน‘จุดจบอาจไม่ตรงกับหลายคนคิด’

“ตู่-จตุพร” ทำนาย “มี.ค.” เกิดเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของประเทศ ชนิดทุกคนคาดไม่ถึง ติงรัฐถ้าแทรกแซงการชุมนุม จะทำเกิดการปะทะ เชื่อเริ่มต้นมีรุนแรงแล้ว ครั้งต่อไปรุนแรงกว่า ขอรัฐใช้สติ จับตา 8 มี.ค.นี้ แกนนำจะได้ประกันตัวหรือไม่ เพราะสะท้อนถึงแนวโน้มสถานการณ์การชุมนุมได้

เมื่อวันที่ 1 มี.ค.64 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟชบุ๊คไลฟ์ peace talk วิเคราะห์ถึงเหตุการณ์สลายชุมนุมกลุ่ม REDEM เมื่อคืน 28 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า จุดเริ่มต้นเกิดจากการแทรกแซง แล้วนำไปสู่การใช้กำลังเข้าสลาย สะท้อนถึงการสลายการชุมนุมอย่างรุนแรงในครั้งต่อไปจะตามมาอีก การชุมนุมเมื่อคืนเดินทางไปที่บ้านพักของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ในค่ายทหารที่ ร 1 รอ. นั้น ถ้าพิจารณาการเตรียมรับมือผู้ชุมนุมของตำรวจแล้ว ส่อถึงการหนีไม่พ้น การอยากมีเรื่องไปได้ อีกอย่างถ้าตำรวจเลิกวิธีคิดแบบใช้ตู้คอนเทนเนอร์เป็นกำแพงแล้ว แรงปะทะของผู้ชุมนุมจะไม่รุนแรง ตลอดจนถ้าฝ่ายของรัฐ ตั้งเป้าประสงค์ไม่ต้องการจะมีเรื่อง ความกดดันจะไม่เกิดขึ้นเช่นกัน

นายจตุพร กล่าวว่า เชื่อว่า ผู้ชุมนุมต่อให้มีโรคแทรกกันอย่างไร การเดินไปชุมนุมที่หน้ากรมทหารราบที่ 1. รอ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างมากแค่ตั้งเวทีปราศรัยหน้าค่ายทหาร แล้วก็แยกกันไป แต่การตั้งจุดสกัดเป็นตอนๆ พร้อมทั้งใช้มาตรการฉีดน้ำ ยิงแก๊สน้ำตา แล้วกระสุนยาง แล้วมีกลุ่มคนใส่หมวกขาว สวมชุดบ่งบอกกถึงคนในเครื่องแบบ ก่อเหตุปะทะ จึงน่าคิดในความแปลกเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม การชุมนุมในช่วงปลายนั้น ถึงมีแกนนำก็ไม่สามารถหยุดการแทรกแซงได้ โดยเฉพาะกลุ่มบุคคลที่ใช้หมวกขาวแบบผู้ชุมนุม ดังนั้นการแทรกแซงจึงรุนแรงขึ้น ส่อถึงการเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้ตลอดของการชุมนุมในอนาคต ซึ่งไม่เป็นผลดีอะไรกับประเทศชาติ

นายจตุพร กล่าวต่อว่า ในวันที่ 8 มี.ค.นี้ แกนนำราษฎรชุดหนึ่ง ครบกำหนดนัดไปพบอัยการเพื่อฟังคำสั่งฟ้องศาลหรือไม่ ถ้าอัยการสั่งฟ้องแล้ว โอกาสจะเกิดเหตุการณ์ต่างๆ จึงมีมากมาย และแกนนำจะได้รับการประกันตัวหรือไม่ ถ้าเข้าไปอยู่ในเรือนจำแล้ว ยิ่งเป็นเรื่องยาก โดยประสบการณ์ส่วนตัวของตนเองทำให้คิดเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ตนเข้าใจว่า การถูกคุมขังขณะที่คำพิพากษาไม่ถึงที่สุดนั้น ต้องมีสิทธิยื่นประกันตัวได้ แล้วต้องรอลุ้นกันต่อไป ดังนั้นแกนนำที่จะไปพบอัยการในวันที่ 8 มี.ค.นี้ ต้องลุ้นกันมากกว่าอีก ซึ่งส่อถึงแนวโน้มของสถานการณ์ชุมนุมกันได้

cr : FB Peace TV

นายจตุพร กล่าวว่า ปรากฏการณ์ 28 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น เชื่อว่าครั้งหน้า ถ้าทุกอย่างเอื้ออำนวยแล้ว การปะทะก็จะเกิดขึ้นมาอีก ถึงที่สุดแล้ว ตนเน้นเสมอว่า ไม่ควรจะมีใครมาตายด้วยการชุมนุมทางการเมือง เพราะเชื่อว่า ยังมีหนทางแสวงหาสันติกันได้ สันติวิธีแก้ปัญหาได้ตรงจุด แต่สิ่งนี้จึงขึ้นอยู่กับว่า ใครจะมีสติมากกว่ากัน รวมทั้งถ้ารัฐขาดสติ ก็อย่าหวังว่าประชาชนจะมีสติ ถ้ารัฐไม่ประสงค์จะมีเรื่องสักอย่าง เรื่องก็ไม่มีวันจะเกิดขึ้น อย่าเอาตู้คอนเทนเนอร์มาสกัดเลย ปล่อยให้ทุกอย่างไหลไปตามธรรมชาติ เพราะการชุมนุมทางการเมืองเป็นเช่นนั้น

“ถ้าคิดว่ามีอำนาจเหนือกว่า มีกำลังเหนือกว่าแล้วจะชนะ หลายคนก็คิดเช่นนั้น แต่ไม่ใช่ว่าทุกคราวจะชนะ ทุกคราวจจะแพ้ เพราะแพ้-ชนะ สลับกันเสมอ ผมเชื่อว่า มี.ค.นี้ เป็นเดือนการเปลี่ยนแปลง จึงต้องติดตาม แต่จะเปลี่ยนกันแบบไหนชนิดที่ใครคาดไม่ถึงก็ได้ จุดจบอาจไม่ตรงกับหลายคนคิด แต่มี.ค.จะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของประเทศไทย”นายจตุพรกล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img