“วันนอร์” ย้ำหาก 13 ก.ค.เลือก “พิธา” นั่งนายกฯ ไม่ได้เลือกใหม่ 19 ก.ค. เผยหารือ “พรเพชร” ทุกฝ่ายพร้อม-เหมาะสม ยันเสนอชื่ออีกรอบได้ ด้าน “สนง.เลขาสภาฯ” แจ้งสื่อร่วมทำข่าวพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งปธ-รองปธ.สภาฯพรุ่งนี้
เมื่อวันที่ 6 ก.ค.66 เวลา 15.00 น.นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ว่าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ร่วมหารือกับว่าที่รองประธานสภาฯ ทั้ง 2 คน พร้อมกับสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร หลังหารือเสร็จสิ้นนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ว่าที่รองประธานสภาฯ คนที่ 2 รีบเดินออกจากห้องประชุมโดยไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน หลังเป็นคนเปิดประเด็นเลือกนายกฯ 3 รอบก็เพียงพอแล้ว
ขณะที่นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ว่าที่รองประธานสภาคนที่1 เดินออกมาทีหลัง ก็เลี่ยงให้สัมภาษณ์สื่อเช่นเดียวกัน และกล่าวเพียงว่า ไม่ได้มาประชุมอะไรกันมาก เพียงแค่มาซักซ้อมทำความเข้าใจ กับพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้ง ประธานสภาฯ และรองสภาฯ
จากนั้นเวลา 16.20น. นายวันนอร์ ให้สัมภาษณ์ถึงการโหวตนายกรัฐมนตรี ว่า รัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดว่าจะเลือกกี่ครั้ง หากครั้งแรกได้ก็ถือว่าจบ แต่ถ้าไม่ครบ 376 เสียงก็จะเชิญฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาปรึกษากันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ เพราะขณะนี้ประชาชนรอรัฐบาลใหม่ จึงต้องทำให้เกิดความสมดุล และเหมาะสม
เมื่อถามว่า นายพิเชษฐ์ ระบุว่าหากโหวตครั้งแรกไม่ผ่าน จะนัดครั้งต่อไปเป็นวันที่ 19 ก.ค. เป็นไปได้หรือไม่ นายวันนอร์ กล่าวว่า หากวันที่ 13 ก.ค.ไม่จบ วันที่ 19 ก.ค.ก็เป็นเวลาที่เหมาะสม และเลขาธิการสภาฯมีเวลาทำหนังสือแจ้งสมาชิกเชิญประชุมได้ แต่ยังต้องดูหน้างานอีกครั้ง และโดยปกติสภาฯ ก็ประชุมวันพุธ และพฤหัสฯ อยู่แล้ว ดังนั้นวัที่ 19 ก.ค. ซึ่งเป็นวันพุธ ก็เหมาะสมดี และได้ปรึกษานายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา แล้วก็เห็นด้วย ส่วนต่อไปจะะเป็นเมื่อไหร่ก็ดูหน้างาน ส่วนที่จะต้องเว้นไว้ 7 วันนั้น ในข้อบังคับไม่ได้กำหนด ที่เว้นไว้ว่า 7 วันนั้น เพราะเราต้องการให้สมาชิกมาประชุมโดยพร้อมกัน เพราะสภาฯประชุมทุกวันพุธ พฤหัสฯ วุฒิสภาประชุมทุกวันจันทร์ อังคาร และครม.)ก็ไม่ได้ประชุม ดังนั้นวันพุธน่าจะเป็นวันที่ทุกฝ่ายพร้อมที่สุด
เมื่อถามว่า ส.ว.อยากให้เว้นระยะเวลาการประชุมรัฐสภาไว้ 14 วัน ข้อห่วงใยนี้ทางส.ว.ส่งสัญญาณมาบ้างหรือไม่ นายวันนอร์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ขึ้นอยู่กับหน้างาน และความเหมาะสม ส่วนตัวอยากให้เกิดความเรียบร้อย และความพร้อมให้มากที่สุด เพราะวันพุธ 19 ก.ค.เหมาะสม เพราะเป็นวันประชุมสภาฯ น่าจะเกิดความพร้อมเพียงที่สุด
“ผมอยากให้เกิดความเรียบร้อยมากที่สุด และมีความพร้อมมากที่สุด เพราะเป็นวาระสำคัญในการนายกฯ เลือกผู้นำประเทศ จึงต้องทำให้มีความพร้อม และโปร่งใสมากที่สุด”นายวันนอร์ กล่าว
เมื่อถามว่า จะให้โหวตชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กี่ครั้ง นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ตนไม่สามารถจะบอกได้เพราะไม่แน่ อาจจะผ่านในวันที่ 13 ก.ค.เลยก็ได้ หรืออาจจะผ่านในวันที่ 19 ก.ค.ก็ได้ ซึ่งการเสนอชื่อผู้เป็นนายกฯให้โหวตในครั้งต่อไป ยังสามารถเสนอชื่อนายพิธาซ้ำได้อีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 16.33 น. สำนักงานเลขาธิการ
สภาผู้แทนราษฎร ได้แจ้งมายังสื่อมวลชนผ่านไลน์ว่า ตามที่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 1 ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปี ครั้งที่หนึ่ง) ได้มีมติเลือก นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร นายปดิพัทธ์ สันติภาดา เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง และนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน เป็นรองประธาน สภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง นั้น
ทั้งนี้ ขอเชิญ สื่อมวลชน ร่วมทำข่าวพิธีรับ พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ในวันพรุ่งนี้ (7 ก.ค. 66) เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุม 604 ชั้น 6 (โซน N) อาคารรัฐสภา
/////////
วันที่ 6 ก.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวของส.ว.ที่ก่อนหน้านี้มีส.ว.ร่วม 20 คน ประกาศจะสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี ตามเสียงข้างมากที่ได้รับฉันทามติจากประชาชน แต่หลังจากที่พรรคก้าวไกลยังยืนยันจะเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ต่อสภาฯ เกิดความลังเล พร้อมกลับลำไม่โหวตสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้เหลือเสียงส.ว.ที่พร้อมหนุนขณะนี้ไม่ถึง 10 คน มีแนวโน้มค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า นายพิธาจะได้รับเสียงสนับสนุนเป็นนายกฯจากส.ส.และส.ว.ไม่ถึง 376 เสียง ในการประชุมรัฐสภาในวันที่ 13 ก.ค.เพื่อโหวตนายกรัฐมนตรี
ด้านนายทรงเดช เสมอคำ ส.ว.กล่าวว่า เดิมเคยมีหลักการโหวตให้พรรคการเมืองที่รวมเสียงส.ส.ข้างมากได้เกิน 250 เสียง เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ถ้านายพิธา ยังมีจุดยืนแก้ไขมาตรา112 ก็ไม่สามารถโหวตให้เป็นนายกฯได้ เพราะมาตรา 112 แตะต้องไม่ได้ไม่ว่าจะยกเลิกหรือแก้ไข ดังนั้นถ้าพรรคก้าวไกลยังมีนโยบายแก้ไขมาตรา112 ก็จะไม่โหวตให้แน่นอน แต่จะต้องยกเลิกการแก้ไขมาตรา 112 เท่านั้น ค่อยว่ากัน
ขณะที่นางประภาศรี สุฉันทบุตร ส.ว. กล่าวยืนยันว่าจากที่เคยโพสต์ข้อความว่าสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกมนตรีนั้น ขณะนี้ยังไม่เปลี่ยนแปลง ยังสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯเช่นเดิม เนื่องจากจะโหวตให้พรรคเสียงข้างมาก หากนายพิธาไม่ได้รับเลือกเป็นนายก ฯแล้วพรรคอันดับสองเสนอแคนดิเดดเป็นนายกฯก็จะเลือกนายกฯจากพรรคอันดับ2 แต่หากยังไม่ได้รับเลือกอีก แล้วพรรคเสียงข้างน้อยเสนอตัวเป็นนายกฯ ตนจะไม่เลือก
เมื่อถามว่าแสดงว่า ไม่ติดใจในเรื่องการแก้ไขมาตรา112 ของพรรคก้าวไกล นางประภาศรีกล่าวว่ าเรื่องมาตรา 112 หรือเรื่องหุ้นไอทีวีเป็นเรื่องขององค์กรที่เกี่ยวข้องจะพิจารณา ส.ว.ไม่มีหน้าที่ไปตัดสินเรื่องเหล่านี้
///////?
“ส.ว.” แห่ถอนเพียบไม่โหวตให้ “พิธา” นั่งนายกฯ ด้าน “ประภาศรี” หนักแน่นโหวตให้ ชี้ม.112 ส.ว.ไม่มีหน้าที่ตัดสิน
“ส.ว.” แห่ถอนเพียบไม่โหวตให้ “พิธา” นั่งนายกฯ “ทรงเดช” กลับลำไม่หนุนหากไม่ยกเลิกม.112 ด้าน “ประภาศรี” หนักแน่นโหวตให้ ชี้ ส.ว.ไม่มีหน้าที่ตัดสินม.112
วันที่ 6 ก.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวของส.ว.ที่ก่อนหน้านี้มีส.ว.ร่วม 20 คน ประกาศจะสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี ตามเสียงข้างมากที่ได้รับฉันทามติจากประชาชน แต่หลังจากที่พรรคก้าวไกลยังยืนยันจะเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ต่อสภาฯ เกิดความลังเล พร้อมกลับลำไม่โหวตสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้เหลือเสียงส.ว.ที่พร้อมหนุนขณะนี้ไม่ถึง 10 คน มีแนวโน้มค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า นายพิธาจะได้รับเสียงสนับสนุนเป็นนายกฯจากส.ส.และส.ว.ไม่ถึง 376 เสียง ในการประชุมรัฐสภาในวันที่ 13 ก.ค.เพื่อโหวตนายกรัฐมนตรี
ด้านนายทรงเดช เสมอคำ ส.ว.กล่าวว่า เดิมเคยมีหลักการโหวตให้พรรคการเมืองที่รวมเสียงส.ส.ข้างมากได้เกิน 250 เสียง เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ถ้านายพิธา ยังมีจุดยืนแก้ไขมาตรา112 ก็ไม่สามารถโหวตให้เป็นนายกฯได้ เพราะมาตรา 112 แตะต้องไม่ได้ไม่ว่าจะยกเลิกหรือแก้ไข ดังนั้นถ้าพรรคก้าวไกลยังมีนโยบายแก้ไขมาตรา112 ก็จะไม่โหวตให้แน่นอน แต่จะต้องยกเลิกการแก้ไขมาตรา 112 เท่านั้น ค่อยว่ากัน
ขณะที่นางประภาศรี สุฉันทบุตร ส.ว. กล่าวยืนยันว่าจากที่เคยโพสต์ข้อความว่าสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกมนตรีนั้น ขณะนี้ยังไม่เปลี่ยนแปลง ยังสนับสนุนนายพิธาเป็นนายกฯเช่นเดิม เนื่องจากจะโหวตให้พรรคเสียงข้างมาก หากนายพิธาไม่ได้รับเลือกเป็นนายก ฯแล้วพรรคอันดับสองเสนอแคนดิเดดเป็นนายกฯก็จะเลือกนายกฯจากพรรคอันดับ2 แต่หากยังไม่ได้รับเลือกอีก แล้วพรรคเสียงข้างน้อยเสนอตัวเป็นนายกฯ ตนจะไม่เลือก
เมื่อถามว่าแสดงว่า ไม่ติดใจในเรื่องการแก้ไขมาตรา112 ของพรรคก้าวไกล นางประภาศรีกล่าวว่ าเรื่องมาตรา 112 หรือเรื่องหุ้นไอทีวีเป็นเรื่องขององค์กรที่เกี่ยวข้องจะพิจารณา ส.ว.ไม่มีหน้าที่ไปตัดสินเรื่องเหล่านี้