Synthetic Fuels : The Future of Clean Renewable Energy
“….ปัจจุบันการเปลี่ยนผ่านพลังงานของประเทศไทย มุ่งเน้นไปที่ 2 แนวทางหลัก ได้แก่ การเปลี่ยนไปใช้พลังงานไฟฟ้า สำหรับการขนส่งทางถนน และการผลิตกำลังไฟฟ้า….”
เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels: Synfuels คือ เชื้อเพลิงที่มนุษย์สร้างขึ้น Man – Made Fuels เช่น น้ำมันเบนซินสังเคราะห์ Synthetic Gasoline หรือดีเซลสังเคราะห์ Synthetic Diesel ซึ่งผลิตขึ้นโดยการเปลี่ยนวัตถุดิบที่เป็นวัสดุคาร์บอนสูง Carbon – Rich Materials หลายประเภท เช่น ก๊าซธรรมชาติ Natural Gas, ถ่านหิน Coal, ชีวมวล Biomass, ปิโตรเลียมโค้ก Petroleum Coke, ขยะทางการเกษตร Agricultural Waste และขยะมูลฝอยของชุมชน Municipal Solid Waste เป็นต้น ให้เป็นก๊าซสังเคราะห์ Syngas ที่ประกอบไปด้วยคาร์บอนมอนอกไซด์ Carbon Monoxide: CO และไฮโดรเจน Hydrogen: H2 โดยจะถูกนำไปแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงที่ใช้งานได้ Usable Fuels ต่อไป ..

ทั้งนี้ เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels จะปล่อยคายคาร์บอนเป็นกลาง Carbon – Neutral ได้โดยใช้คาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide: CO2 ที่จัดเก็บมาจากชั้นบรรยากาศ หรือแหล่งอุตสาหกรรม และไฮโดรเจน Hydrogen: H2 ที่ผลิตขึ้นโดยการแยกน้ำด้วยกำลังไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน Electrolysis of Water Powered by Renewable Energy หรือไฮโดรเจนจากขยะทางการเกษตร Hydrogen: H2 from Agricultural Waste ในกระบวนผลิต .. เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels เหล่านี้ ยังสามารถแสวงการใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่แล้ว และถูกมองว่าเป็นวิธีการลดคาร์บอนที่ดีในการขนส่ง Good Way to Decarbonize Transportation โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งาน เช่น การบิน และการขนส่งทางเรือ Aviation & Shipping ซึ่งชุดแบตเตอรี่ไม่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้จริง ..
เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels มักถูกเรียกกันติดปากว่า เชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ e – Fuels or Electrofuels .. พวกมัน คือ เชื้อเพลิงเหลว หรือก๊าซ Liquid or Gaseous Fuels ประเภทหนึ่งที่ถูกสังเคราะห์ทางชีวเคมี Biochemically Synthesized เพื่อเลียนแบบคุณสมบัติของเชื้อเพลิงฟอสซิลทั่วไป Mimic the Properties of Conventional Fossil Fuels เช่น น้ำมันเบนซิน Petrol, ดีเซล Diesel หรือน้ำมันก๊าด Kerosene .. ความแตกต่างหลักอยู่ที่วิธีการผลิต ซึ่งมุ่งหมายที่จะปล่อยคาร์บอนเป็นกลาง Carbon – Neutral หรือคาร์บอนต่ำ Low – Carbon นั่นเอง ..
กระบวนการทั่วไปสำหรับการผลิตเชื้อเพลิงสังเคราะห์ หรือเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ General Process for Creating Synthetic Fuels or e – Fuels ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนสำคัญ โดยใช้กำลังไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน หรือกำลังไฟฟ้าคาร์บอนต่ำ Renewable or Low – Carbon Electricity ได้แก่ :-
1. การผลิตไฮโดรเจน Hydrogen Production : น้ำ Water: H2O จะถูกแยกออกเป็นไฮโดรเจน Hydrogen: H2 และออกซิเจน Oxygen: O2 ผ่านกระบวนการอิเล็กโทรไลซิส Electrolysis ซึ่งใช้พลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ Solar Energy หรือพลังงานลม Wind Energy ทำให้เกิด “ไฮโดรเจนสีเขียว Green Hydrogen: H2“ .. ทั้งนี้ ไฮโดรเจน Hydrogen: H2 สามารถผลิตขึ้นได้จากขยะเกษตรกรรมผ่านกระบวนการทางเคมีความร้อน Thermochemical Processes เช่น แก๊สซิฟิเคชัน Gasification และไพโรไลซิส Pyrolysis หรือกระบวนการทางชีวภาพ Biological Pathways เช่น การหมักแบบมืด Dark Fermentation ที่ไม่ใช้อากาศ Anaerobic และไม่ต้องใช้แสง Light – Independent มาพร้อมด้วย ..
2. การดักจับคาร์บอน Carbon Capture : คาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide: CO2 ถูกจับโดยตรงจากชั้นบรรยากาศ Direct Air Capture: DAC หรือจากแหล่งกำเนิดทางอุตสาหกรรม Industrial Sources ..
3. การสังเคราะห์ Synthesis : คาร์บอนไดออกไซด์ที่ดักจับไว้ได้ และไฮโดรเจนสีเขียว Captured CO2 & Green Hydrogen: H2 จะถูกนำมาทำปฏิกิริยาร่วมกัน ซึ่งมักใช้กระบวนการต่าง ๆ เช่น การสังเคราะห์แบบฟิชเชอร์ – ทรอปช์ Fischer – Tropsch Synthesis หรือการสังเคราะห์เมทานอล Methanol: CH3OH Synthesis เพื่อสร้างไฮโดรคาร์บอนสังเคราะห์ Synthetic Hydrocarbons ..
เนื่องจาก คาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide: CO2 ที่ใช้ในการผลิตมีความสมดุลกับคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide: CO2 ที่ปล่อยคายออกมาเมื่อเชื้อเพลิงถูกเผาไหม้ ดังนั้น เชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ e – Fuels จึงถือเป็นตัวเลือกที่มีคาร์บอนต่ำ Low – Carbon Option หรือถือได้ว่า พวกมัน คือ อีกหนึ่งตัวเลือกเชื้อเพลิงที่เป็นกลางทางคาร์บอน Carbon – Neutral Option นั่นเอง ..
อย่างไรก็ตาม การผลิตเชื้อเพลิงสังเคราะห์ To Produce Synthetic Fuels สามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ตามกระบวนการผลิตหลัก Primary Production Processes ได้แก่ กระบวนการทางอ้อม กระบวนการทางตรง และกระบวนการเชื้อเพลิงชีวภาพ Indirect, Direct & Biofuel Processes .. กระบวนการทางอ้อม Indirect Processes ใช้ก๊าซสังเคราะห์เป็นตัวกลาง Synthesis Gas: Syngas Intermediate ขณะที่กระบวนการทางตรง Direct Processes คือ กระบวนการที่เชื้อเพลิงถูกสร้างขึ้นผ่านปฏิกิริยาเคมีขั้นตอนเดียว และกระบวนการเชื้อเพลิงชีวภาพ Biofuel Processes จะเปลี่ยนชีวมวล Biomass ให้เป็นเชื้อเพลิงเหลว หรือก๊าซ Liquid or Gaseous Fuels ..
สำหรับรายละเอียดของกระบวนการผลิตแต่ละประเภท สรุปสั้น ๆ เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายได้ดังนี้ :-
– กระบวนการทางอ้อม Indirect Processes : กระบวนการเหล่านี้ เช่น กระบวนการฟิชเชอร์ – ทรอปช์ Fischer – Tropsch Process จะเริ่มเปลี่ยนวัตถุดิบ เช่น ถ่านหิน Coal, ก๊าซธรรมชาติ Natural Gas หรือชีวมวล Biomass ให้เป็นก๊าซสังเคราะห์ Syngas ซึ่งเป็นส่วนผสมของคาร์บอนมอนอกไซด์ Carbon Monoxide: CO และไฮโดรเจน Hydrogen: H2 ซึ่งมักจะมีคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide: CO2 และมีเทน Methane: CH4 ร่วมอยู่ด้วย จากนั้นก๊าซสังเคราะห์ Syngas เหล่านี้ จะถูกเร่งปฏิกิริยาให้เป็นกลายเชื้อเพลิงเหลว Catalytically Converted into Liquid Fuels ด้วยการนำก๊าซสังเคราะห์ Syngas ไปใช้ผลิตสารเคมี Produce Chemicals เช่น แอมโมเนีย Ammonia: NH3 และเมทานอล Methanol: CH3OH ซึ่งสามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิลได้เป็นอย่างดีมาพร้อมด้วย ..
– กระบวนการทางตรง Direct Processes : กระบวนการเหล่านี้ เกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาเคมีขั้นตอนเดียวเพื่อผลิตเชื้อเพลิงสังเคราะห์ One – Step Chemical Reaction to Produce the Synthetic Fuels ตัวอย่างเช่น เทคโนโลยีเปลี่ยนก๊าซเป็นของเหลว Gas – to – Liquids: GTL Technologies ซึ่งก๊าซธรรมชาติ Natural Gas จะถูกเปลี่ยนให้เป็นเชื้อเพลิงเหลว Liquid Fuels โดยตรง เป็นต้น ..
– กระบวนการเชื้อเพลิงชีวภาพ Biofuel Processes : หมวดหมู่นี้ มุ่งเน้นไปที่การแปลงชีวมวล Biomass หรืออินทรีย์สารจากพืช และสัตว์ Organic Matter from Plants & Animals ให้เป็นเชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels และส่วนหนึ่ง ก็คือ เชื้อเพลิงชีวภาพ Biofuels นั่นเอง .. เทคโนโลยีประกอบด้วยการแปลงชีวมวลเป็นเชื้อเพลิงเหลว หรือเชื้อเพลิงก๊าซ Converting Biomass into Liquid Fuels or Gaseous Fuels หรือการใช้เอนไซม์เพื่อสร้างเชื้อเพลิงเหลว Using Enzymes to Create Liquid Fuels ..
ทั้งนี้ เชื้อเพลิงชีวภาพสำหรับเชื้อเพลิงสังเคราะห์ Biofuels for Synthetic Fuels ผลิตจากชีวมวลผ่านกระบวนการต่างๆ เช่น ไพโรไลซิส Pyrolysis ซึ่งสลายชีวมวลให้เป็นน้ำมันดิบชีวภาพ Breaks Biomass into Bio – Crude และกระบวนการเปลี่ยนให้เป็นก๊าซ Gasification ซึ่งสร้างก๊าซเชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthesis Gas หรือซินแก๊ส Syngas จากชีวมวล Biomass และขยะของเสีย Waste .. ซินแก๊ส Syngas ซึ่งเป็นส่วนผสมของคาร์บอนมอนอกไซด์ Carbon Monoxide: CO และไฮโดรเจน Hydrogen: H2 เหล่านี้ จะถูกทำความสะอาด และแปลงเป็นเชื้อเพลิงเหลวด้วยกระบวนการเร่งปฏิกิริยา เช่น กระบวนการฟิชเชอร์ – ทรอปช์ Fischer – Tropsch Process รวมถึงวิธีการอื่น ๆ ได้แก่ การทำให้วัตถุดิบเปียกเป็นของเหลวให้เป็นเชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels ด้วยความร้อนใต้พิภพ Hydrothermal Liquefaction of Wet Feedstocks to e – Fuels และการเปลี่ยนน้ำตาลให้เป็นเอทานอลทางชีวเคมี Biochemical Conversion of Sugars into Ethanol: C2H6O เป็นต้น ..

คาดหมายได้ว่า เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels กำลังมีบทบาทสำคัญในอนาคตของการลดคาร์บอน Future of Decarbonization โดยทำหน้าที่เป็นเชื้อเพลิงทางเลือกที่เป็นกลางทางคาร์บอนแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล Carbon – Neutral Alternative to Fossil Fuels โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนต่าง ๆ เช่น การบิน Aviation, การขนส่งทางทะเล Shipping และอุตสาหกรรมหนัก Heavy Industry ซึ่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้พลังงานไฟฟ้า Electrification เป็นเรื่องท้าทาย ..
แม้ว่า เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels จะมิได้เข้ามาทดแทนรถยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicles: EVs สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล Passenger Cars แต่เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels ก็เป็นเส้นทางสำคัญในการเปลี่ยนผ่านสำหรับเครื่องยนต์สันดาปภายในที่มีอยู่เดิม Vital Transition Pathway for Existing Combustion Engines โดยใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ Utilizing Existing Infrastructure และลดการปล่อยมลพิษตลอดอายุการใช้งาน Reducing Lifecycle Emissions .. อุปสรรคสำคัญในการนำไปใช้อย่างแพร่หลาย คือ ต้นทุนการผลิตที่สูง High Production Costs และความต้องการพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนราคาถูก Cheap Renewable Electricity ในปริมาณมหาศาล เพื่อขับเคลื่อนการผลิต ซึ่งปัญหาดังกล่าวจะต้องได้รับการแก้ไขต่อไป ..
แนวโน้มการใช้เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels ให้เป็นเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์สันดาปภายใน Fuel in Internal Combustion Engines: ICEs ..
เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels หรือ “เชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ e – Fuels” มีบทบาทสำคัญในอนาคตของเครื่องยนต์สันดาปภายใน Internal Combustion Engines: ICEs โดยเป็นหนทางสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในยานยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในทั้งรุ่นปัจจุบันที่มีใช้งานอยู่ และรุ่นใหม่ Existing & New ICE Vehicles โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนต่าง ๆ เช่น การบิน และการขนส่งทางทะเล Aviation & Shipping ซึ่งการใช้ชุดแบตเตอรี่นั้น ไม่เหมาะสมในทางปฏิบัติ .. เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels ผลิตจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานลม หรือพลังงานแสงอาทิตย์ Wind or Solar Energy โดยจะดักจับคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide: CO2 ในชั้นบรรยากาศ และผสมกับไฮโดรเจน Hydrogen: H2 จากกระบวนการอิเล็กโทรไลซิสในน้ำ Water Electrolysis ทำให้เกิดเชื้อเพลิงแบบหยดลงที่แทบไม่มีคาร์บอน Nearly Carbon – Neutral Drop – In Fuels .. แม้ว่า เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels มิได้เข้ามาทดแทนรถยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicles: EVs ได้ทั้งหมด แต่ก็ทำหน้าที่เป็น “เชื้อเพลิงสะพาน Bridge Fuels” ที่สำคัญ ช่วยให้สามารถใช้เทคโนโลยีเครื่องยนต์สันดาปภายใน Internal Combustion Engines: ICEs Technologies ได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่อนาคตพลังงานที่ยั่งยืน Transition to a Sustainable Energy Future Takes Place ไปพร้อมด้วย ..
เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels ถูกนำมาใช้มากขึ้นในเครื่องยนต์สันดาปภายใน Internal Combustion Engines: ICEs อย่างมีนัยสำคัญ เพื่อแก้ปัญหาการปล่อยคาร์บอน Decarbonization Solution รวมทั้งการเข้ากันได้ดีกับเครื่องยนต์ และโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ในปัจจุบัน Compatibility with Existing Engines & Infrastructures .. แนวโน้มการใช้งานเชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels ในเครื่องยนต์สันดาปภายใน Internal Combustion Engines: ICEs ดังกล่าวนี้ ตามมาด้วยการลงทุนจำนวนมาก Large Investments จากแบรนด์รถยนต์หรู Luxury Car Brands และบริษัทฯ พลังงาน Energy Companies ..
ทั้งนี้ การมุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากแหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานลม และพลังงานแสงอาทิตย์ในการผลิต ตลอดจนการพัฒนาเทคโนโลยีการดักจับ และแปลงก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ CO2 Capture & Conversion Technologies นั้น แม้ว่า ต้นทุนที่สูงในปัจจุบันจะเป็นอุปสรรคต่อการนำรถยนต์นั่งเชื้อเพลิงสังเคราะห์ e – Fuel Cars มาใช้อย่างแพร่หลาย แต่การวิจัยที่กำลังดำเนินการอยู่มีเป้าหมายเพื่อลดราคา Reduce Prices และทำให้รถยนต์เหล่านี้ กลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เป็นกลางทางคาร์บอนแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล Carbon – Neutral Alternative to Fossil Fuels ให้สำเร็จได้ในที่สุดต่อไป ..
ทั้งนี้ บทบาท และประโยชน์หลักของการใช้เชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ในเครื่องยนต์สันดาปภายใน Key Roles & Benefits for Using e – Fuel in Internal Combustion Engines: ICEs นั้น ประกอบไปด้วย :-
– การลดคาร์บอนในยานพาหนะที่มีอยู่ Decarbonization of Existing Fleet : เชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ e – Fuels ช่วยลดคาร์บอนในยานพาหนะที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก และได้รับการคาดหมายว่า พวกมัน คือ กุญแจสำคัญสำหรับการรักษาเครื่องยนต์สันดาปภายใน Internal Combustion Engines ในยานพาหะสำหรับงานหนัก Heavy – Duty Vehicles ไว้ได้ ..
– สะพานสู่การปรับเปลี่ยนไปใช้พลังงานไฟฟ้า Bridge to Electrification : เชื้อเพลิงเหล่านี้ ทำหน้าที่เป็นเทคโนโลยีระยะเปลี่ยนผ่าน ช่วยให้สามารถใช้ยานพาหนะที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน ICE Vehicles ได้ ในขณะที่โครงสร้างพื้นฐาน และเทคโนโลยีสำหรับยานพาหนะไฟฟ้า Infrastructure & Technology for Electric Vehicles: EVs ยังคงอยู่ระหว่างพัฒนาอย่างต่อเนื่องให้มีสมรรถนะสูงกว่านี้ ..
– การประยุกต์ใช้ในภาคส่วนที่มีความท้าทาย Application in Challenging Sectors : เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับอุตสาหกรรมที่มีความต้องการกำลังขับสูงซึ่งยากต่อการเปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้า Difficult to Electrify เช่น อุตสาหกรรมการบิน และการขนส่งทางทะเล Aviation & Maritime Transportation เป็นต้น ..
– การใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ Utilizing Existing Infrastructure : เชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ e – Fuels สามารถใช้กับยานพาหนะที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน ICE Vehicles ที่มีอยู่ได้โดยแทบไม่ต้องดัดแปลงใด ๆ และสามารถผสานรวมเข้ากับเครือข่ายการส่งจ่ายเชื้อเพลิงที่มีอยู่แล้วได้อย่างราบรื่น Integrate Seamlessly into Existing Fuel Distribution Networks ..
– การจัดเก็บพลังงานหมุนเวียน Storage of Renewable Energy : เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels คือ วิธีในการจัดเก็บพลังงานหมุนเวียนส่วนเกิน Store Surplus Renewable Energy และขนส่งผ่านโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ ทำให้พลังงานหมุนเวียน Renewable Energy มีความหลากหลายมากขึ้น ..
ปัจจุบัน เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels ที่เป็นก๊าซชีวมวล Biomass Gas คือ ตัวอย่างก๊าซเชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthesis Gas ที่ได้จากกระบวนการแก๊สซิฟิเคชั่น Gasification โดยมีชีวมวลเป็นวัตถุดิบตั้งต้น บางครั้งเรียกกันว่า Producer Gas หรือ Syngas หมายถึง เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels ประเภทหนึ่ง ซึ่งได้รับการคาดหมายว่า พวกมัน และส่วนผสมของพวกมัน จะสามารถแทนที่เชื้อเพลิงฟอสซิลทั้งที่เป็นของแข็ง ของเหลว และก๊าซเชื้อเพลิง เช่น ถ่านหิน น้ำมันเบนซิน ดีเซล เป็นต้น สำหรับการจุดระเบิด และเผาไหม้ในห้องเครื่องยนต์สันดาปภายในรูปแบบดั้งเดิม Traditional Internal Combustion Engine: ICE Room ต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดีด้วย Carbon Footprint ต่ำกว่า และสอดคล้องกับแนวคิดคาร์บอนเป็นกลาง Carbon Neutrality Concept ..
จนถึงวันนี้ ก๊าซเชื้อเพลิงสังเคราะห์ Syngas ถูกใช้งานในหลายพื้นที่ของภาคอุตสาหกรรม เช่น การผลิตเหล็ก เหล็กกล้า Iron & Steel Manufacturing, อุตสาหกรรมเซรามิก Ceramic และอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์อื่นๆ Other Chemical Industries .. ก๊าซเชื้อเพลิงสังเคราะห์ Syngas ที่อุดมไปด้วยคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide: CO2 คือ วัตถุดิบที่สำคัญสำหรับผลิตภัณฑ์ทางเคมีหลายชนิด เช่น เชื้อเพลิง Fuels และพลาสติก Plastics เป็นต้นมาพร้อมอีกด้วย .. ตัวอย่างล่าสุด เช่น บริษัท Linde AG ประเทศเยอรมนี กำลังทดสอบกระบวนการ New Dry Reforming Process หรือ Mixtures of Hydrogen: H2 & Carbon Monoxide: CO สำหรับโรงงานนำร่องแห่งใหม่ที่เมือง Pullach และเพื่อจุดประสงค์นี้ นักวิทยาศาสตร์ของพวกเขา ยังสามารถเปลี่ยนวิธีการแปลงสภาพด้วยไอน้ำมาตรฐาน Standard Steam Reforming Method ได้ด้วยเทคนิคใหม่ ๆ อีกมากมายหลายวิธีมาพร้อมด้วย ..
เป็นที่ชัดเจนว่า เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels ที่เป็น Syngas จากชีวมวล Biomass, ขยะพลาสติก Plastic Waste และขยะมูลฝอย Solid Waste นั้น คือ เชื้อเพลิงที่มีคาร์บอนเป็นกลาง Carbon – Neutral Fuels ซึ่งได้รับการคาดหมายว่า พวกมันกำลังกลายเป็นเชื้อเพลิงที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับเครื่องยนต์เผาไหม้ภายในรูปแบบดั้งเดิมสำหรับอนาคต Conventional Internal Combustion Engines: ICEs for the Future .. ก่อนหน้านี้ เคยมีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายสำหรับเครื่องยนต์สันดาปภายในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนที่จะถูกแทนที่ด้วยน้ำมันเบนซิน .. พัฒนาการทางเทคโนโลยี ความสำเร็จ และความท้าทายสำหรับการประยุกต์ใช้ก๊าซเชื้อเพลิงสังเคราะห์ Syngas ในโรงไฟฟ้า รวมทั้งแนวโน้มของเทคโนโลยีเครื่องยนต์ Trends in Engine Technologies และศักยภาพของก๊าซเชื้อเพลิงสังเคราะห์ Potential of Syngas Fuels ในเทคโนโลยีเครื่องยนต์ปัจจุบัน พบว่า ผลิตภัณฑ์ของการแปรสภาพเป็นแก๊ส Production of Gasification จะแตกต่างกันไป และแปรผันไปตามวัตถุดิบที่เป็นสารตั้งต้นนำเข้ามาในกระบวนการ ..

อย่างไรก็ตาม การปรับจังหวะการฉีดอัดเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ในจังหวะที่เหมาะสม Optimizing the Fuel Injection Timing into the Combustion Chamber ถือเป็นความจำเป็นที่ขาดไม่ได้ เพื่อให้กำลังขับ และแรงบิด เป็นไปตามความต้องการของผู้ใช้งานไปพร้อมด้วย .. ทั้งนี้ สรุปตรง ๆ ได้ว่า เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels ที่เป็น Syngas นั้น มีคุณสมบัติไม่ต่างอะไรไปจากเชื้อเพลิงดีเซล Diesel Fuels มากนัก ดังนั้น จึงได้รับการคาดหมายว่า ด้วยการปรับจูนสัดส่วนปริมาณสัมพันธ์ และจังหวะการฉีดอัดเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ปัจจุบันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels ที่เป็น Syngas มีแนวโน้มสามารถใช้แทนที่เชื้อเพลิง Diesel, Kerosene & Gasoline สำหรับเครื่องยนต์สันดาปภายในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ไม่มีข้อสงสัย ..
ขณะที่นานาประเทศกำลังเตรียมแผนงานยกเลิกการพึ่งพาแหล่งพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลในระบบเศรษฐกิจของพวกเขาด้วยความมุ่งมั่น .. ตัวอย่างการแปลงขยะพลาสติกให้เป็นเชื้อเพลิง Converting Plastic Waste into Fuels ด้วยเทคโนโลยีพลังงานจากขยะ Waste to Energy: WtE Technologies มีศักยภาพที่จะทำให้เกิดงานใหม่ได้มากกว่า 30,000 ตำแหน่ง และผลผลิตทางเศรษฐกิจ ได้รับการคาดหมายว่าจะอยู่ที่ประมาณ 9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี .. วิธีการใหม่นี้ อาจมีต้นทุนถูกกว่าวิธีการรีไซเคิล ซึ่งปัจจุบัน ขยะพลาสติกเพียง 5 % เท่านั้นที่รีไซเคิลได้ รวมทั้งการรีไซเคิลถุงพลาสติก และขยะพลาสติก 1 ตัน มีค่าใช้จ่ายสูงถึง 4,000 เหรียญสหรัฐฯ และสุดท้ายมักจะนำไปสู่การเผา Incineration หรือจบงานทิ้งลงในหลุมฝังกลบ Landfill Disposal เพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายที่สูงเหล่านี้ ..
การรีไซเคิลทางชีวเคมี Biochemical Recycling เพื่อผลิตเชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels ที่เป็น Syngas หรือเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมเคมี Used in the Chemical Industry นั้น ดำเนินการได้ง่ายกว่ามาก เมื่อทำให้ทุกอย่างร้อนขึ้นที่อุณหภูมิสูงด้วยกระบวนการไพโรไลซิส และแก๊สซิฟิเคชัน Pyrolysis & Gasification Processes โดยไม่จำเป็นต้องแยกขยะล่วงหน้า ..
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Purdue University ได้ค้นพบเทคนิคอื่นที่เรียกว่า Hydrothermal Processing .. กระบวนการนี้ ใช้พอลิโพรพิลีน Polypropylene: (C3H6)n ใส่ไปในเครื่องปฏิกรณ์ที่เต็มไปด้วยน้ำ และทำให้ร้อนจนถึงอุณหภูมิที่สูงมาก ตั้งแต่ 350 – 500 oC .. สิ่งนี้จะดำเนินต่อไปนานถึง 5 ชั่วโมงที่แรงดันสูง ซึ่งที่ความร้อน และความดันสูงนี้ น้ำจะย่อยสลายพลาสติกทุกประเภท และเปลี่ยนพวกมันให้เป็นเชื้อเพลิงสังเคราะห์เหลว Liquid Synthetic Fuels ..
และเพราะว่า พลาสติกส่วนใหญ่ทำมาจากน้ำมัน Most Plastics Are Made from Petroleum ดังนั้น กระบวนการเหล่านี้ จึงนำพลาสติกเหลือทิ้งเหล่านั้น กลับสู่รูปแบบเดิมของพวกมัน ซึ่งหมายถึง เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels รูปแบบต่าง ๆ ที่เหมาะสำหรับเครื่องยนต์สันดาปภายใน Fuel in Internal Combustion Engines: ICEs นั่นเอง ..
ในภาพรวม เครื่องยนต์สันดาปภายใน Internal Combustion Engines: ICEs คือ กระดูกสันหลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และสังคม ของมนุษยชาติในยุคอุตสาหกรรมมาโดยตลอด และพวกมันจะยังคงอยู่ต่อไป ไม่ได้หายไปจากระบบขนส่ง หรือระบบสาธารณูปโภคปัจจุบันแต่อย่างไร .. คาดหมายได้ว่า เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels หรือ e – Fuels ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงเหลว Liquid Fuels ที่สังเคราะห์ขึ้นจากไฮโดรเจน Hydrogen: H2 และคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide: CO2 ที่ดักจับได้ รวมทั้งเชื้อเพลิงก๊าซสังเคราะห์ Synthesis Gas: Syngas นั้น กำลังเป็นที่ยอมรับในระดับนโยบายว่าเป็น “ทางรอด Survival Path” สำหรับเครื่องยนต์สันดาปภายใน Internal Combustion Engines: ICEs โดยเฉพาะยานยนต์ และโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงฟอสซิลที่มีอยู่เดิม Existing Fossil Fuel – Powered Vehicles & Power Plants .. เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuel & Gas กำลังดึงดูดความสนใจนักลงทุนทั้งรายใหญ่ และรายย่อยให้เพิ่มขึ้นอย่างมาก เพื่อทำให้อุตสาหกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่เครื่องบินไอพ่น Jet Planes, เรือ Boats ไปจนถึงรถยนต์ Automobiles นั้น เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น More Environmentally Friendly โดยไม่จำเป็นต้องคิดใหม่ ปรับแต่ง หรือเปลี่ยนเครื่องยนต์ไปจากรูปแบบเดิม ๆ มากนัก เนื่องเพราะพวกมันสามารถจุดระเบิดในห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์เหล่านี้ได้ด้วยการปรับจูนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ..
เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels หรือเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ e – Fuels ในประเทศไทย ..
ปัจจุบัน การเปลี่ยนผ่านพลังงานของประเทศไทย Thailand’s Energy Transition มุ่งเน้นไปที่ 2 แนวทางหลัก ได้แก่ การเปลี่ยนไปใช้พลังงานไฟฟ้า Electrification สำหรับการขนส่งทางถนน Road Transportation และการผลิตกำลังไฟฟ้า Power Generation ประการหนึ่ง กับเชื้อเพลิงชีวภาพ Biofuels สำหรับการบิน Aviation และเครื่องยนต์สันดาปภายในที่มีอยู่ Existing ICEs อีกประการหนึ่ง .. แม้ว่า เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels หรือ e – Fuels จะยังอยู่ในระยะเริ่มต้นของการพิจารณาเชิงกลยุทธ์ แต่ก็ได้รับการยอมรับว่า พวกมัน คือ ทางเลือกสำคัญในอนาคตของไทยสำหรับภาคส่วนที่ลดการใช้พลังงานได้ยาก Future Option for Hard – to – Abate Sectors ..
ภาพรวมของเชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels หรือ e – Fuels ในประเทศไทยในบริบทเชิงนโยบาย และความจำเป็นของการผลิตเชื้อเพลิงสังเคราะห์ e – Fuels ของไทยนั้น เกิดขึ้นจากเป้าหมายระดับชาติของไทยด้านสภาพภูมิอากาศที่ท้าทาย Thailand’s Challenging National Climate Goals ได้แก่ ความเป็นกลางทางคาร์บอน Carbon Neutrality ภายในปี 2593 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์สุทธิ Net – Zero GHG Emissions ภายในปี 2608 ..
ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์ชาติ National Strategy ของไทย มุ่งเน้นไปที่ 3 ประเด็นยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ :-
1. การขยายพลังงานหมุนเวียนครั้งใหญ่ Massive Renewable Energy Expansion : ร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า Power Development Plan: PDP มีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดในสัดส่วนการผลิตกำลังไฟฟ้าอย่างมีนัยสำคัญ สูงสุด 51 % ภายในปี 2578 .. พลังงานสะอาดส่วนเกินในอนาคต หรือพลังงานสะอาดเฉพาะทางนี้ คือ ปัจจัยพื้นฐานสำหรับเส้นทางพลังงานไฟฟ้าสู่พลังงานทางเลือกรูปแบบอื่น หรือ Power – to – X: PtX Pathways ทั้งหมด โดยเฉพาะการเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าให้เป็นเชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels และก๊าซเชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthesis Gas: Syngas จากแหล่งพลังงานแสงอาทิตย์ Solar Energy และพลังงานชีวภาพจากขยะอินทรีย์ของเหลือทิ้งจากชุมชน และภาคการเกษตร Bioenergy from Organic Waste, Community Waste & Agricultural Sector ..
2. การเปลี่ยนไปใช้พลังงานไฟฟ้าในภาคการขนส่งทางถนน Electrification in Road Transport : นโยบาย “30@30” ตั้งเป้าให้การผลิตยานยนต์ภายในประเทศ 30 % เป็นยานยนต์ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ Zero Emission Vehicles: ZEVs ภายในปี 2573 โดยให้ความสำคัญกับยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ Battery Electric Vehicles: BEVs เป็นอย่างมาก ขณะที่ยังคงไว้ซึ่งยานยนต์เครื่องยนต์เผาไหม้ภายในสำหรับงานหนัก Heavy – Duty Internal Combustion Engine Vehicles ไว้ด้วยการใช้เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels และก๊าซเชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthesis Gas: Syngas จากพืช และขยะ Plants & Waste รวมถึงไฮโดรเจน Hydrogen: H2 ทดแทนเชื้อเพลิงฟอสซิล Fossil Fuels ที่เป็นน้ำมันดีเซล น้ำมันก๊าด และน้ำมันเบนซิน Diesel, Kerosene & Gasoline เป็นต้น ..
3. ไฮโดรเจน และระบบดักจับ ใช้ประโยชน์ และจัดเก็บคาร์บอน Hydrogen: H2 & CCUS : ประเทศไทย Thailand กำลังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และกฎระเบียบที่จำเป็นสำหรับการใช้ไฮโดรเจน Hydrogen: H2 Use และกำลังศึกษา รวมทั้งวางแผนงานประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการดักจับ ใช้ประโยชน์ และจัดเก็บคาร์บอน Carbon Capture, Utilisation & Storage: CCUS Technology โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ประโยชน์จากแหล่งปิโตรเลียม Existing Petroleum Resources และโรงกลั่นที่มีอยู่ Existing Refineries ซึ่งไฮโดรเจน Hydrogen: H2 และคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide: CO2 คือ 2 องค์ประกอบหลักที่จำเป็นสำหรับการผลิตเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ e – Fuel Production ..
ทั้งนี้ เชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ e – Fuels สอดคล้องกับประเด็นยุทธศาสตร์ชาติ National Strategy นี้ ในฐานะทางออกสำหรับการบิน Aviation ด้วย e – Kerosene เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดของ Sustainable Aviation Fuel: SAF ทั่วโลก รวมทั้งการเดินเรือ Maritime เพื่อลดคาร์บอนในการขนส่งทางเรือ และท่าเรือ Decarbonizing Shipping & Ports ตลอดจนสอดคล้องต่อความต้องการความมั่นคงทางพลังงานของชาติ National Energy Security เพื่อลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลนำเข้า Reducing Dependence on Imported Fossil Fuels โดยใช้ประโยชน์จากกำลังไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนภายในประเทศ Domestic Renewable Electricity ..
สำหรับจุดสนใจตลาด Market Focus ของไทยนั้น เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels, เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน Sustainable Aviation Fuel: SAF และเชื้อเพลิงชีวภาพ Biofuels คือ สะพานเชื่อมสำหรับการเปลี่ยนผ่านพลังงาน Energy Transition .. ปัจจุบัน กลยุทธ์ด้านเชื้อเพลิงภายในประเทศของไทย สำหรับภาคส่วนต่าง ๆ เช่น การบิน มุ่งเน้นไปที่เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน Sustainable Aviation Fuel: SAF ที่ผลิตจากชีวมวล Biomass ภายในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อเพลิงชีวภาพ Biofuels ซึ่งถือเป็นทางเลือกทดแทนแทนเชื้อเพลิงเครื่องบินจากฟอสซิล Alternative to Fossil – Based Jet Fuels ..
การผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพสำหรับการบิน Bio – SAF Production นั้น บริษัทพลังงานรายใหญ่ในประเทศ เช่น บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น Bangchak Corporation กำลังบุกเบิกโรงงานผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพแห่งแรกของประเทศ โดยใช้วัตถุดิบภายในประเทศ เช่น น้ำมันปรุงอาหารใช้แล้ว Used Cooking Oil: UCO และเอทานอล Ethanol: C2H6O จากกากน้ำตาล .. รัฐบาล กำลังส่งเสริมแนวทางนี้ โดยมีเป้าหมาย เช่น สัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงสำหรับเชื้อเพลิงชีวภาพ Biofuels Share ให้ได้อยู่ที่อย่างน้อย 8 % ภายในปี 2579 .. นอกจากนี้ ปตท. หรือ PTT Public Company Limited ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของไทย ก็กำลังศึกษาเทคโนโลยีการผลิตเชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels ที่เป็นเมทานอลสีเขียว Green Methanol: CH3OH จากบริษัทต่าง ๆ เช่น ThyssenKrupp Uhde เป็นต้นมาพร้อมด้วยเช่นกัน ..
อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนผ่านสู่เชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ Transition to e – Fuels ยังถือเป็นความท้าทาย เนื่องจากวัตถุดิบชีวภาพมีจำกัด และเมื่อข้อบังคับด้านเชื้อเพลิงสะอาดทั่วโลกมีมากขึ้น .. ในที่สุดประเทศไทยจึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยน หรือบูรณาการกับเชื้อเพลิงชีวภาพเหลวด้วย Power – to – Liquid Technologies เพื่อเพิ่มปริมาณเชื้อเพลิงชีวภาพ Increasing Biofuel Production .. ความต้องการ และอุปทานที่ขยายตัวขึ้นสำหรับเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน Scale Up Its Sustainable Aviation Fuel: SAF Demand & Supply ในปริมาณมากระยะยาวนั้น จำเป็นต้องใช้เชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความสามารถในการปรับขนาดกำลังการผลิตให้สูงขึ้นได้ Higher Scalability of e – Fuel Production นั่นเอง ..

แม้ว่า การผลิตเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์เชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ Large – Scale Commercial e – Fuel Production ในประเทศไทย จะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่กิจกรรมต่าง ๆ กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีผู้เล่นหลัก และโครงการริเริ่ม สรุปได้ดังนี้ :-
– บริษัทพลังงานแห่งชาติ National Energy Companies : กลุ่ม ปตท.รวมถึง พีทีที โกลบอล เคมิคอล PTT Global Chemical, ไออาร์พีซี Integrated Refinery & Petrochemical Complex: IRPC และกลุ่มบางจาก Bangchak Group ถือเป็นผู้เล่นหลักที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน และกำลังสำรวจเชื้อเพลิงสะอาด รวมถึงโครงการแปลงพลังงานหมุนเวียนเป็นพลังงานรูปแบบอื่น ๆ หรือ Power – to – X: PtX Projects และโครงการผลิตเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ e – Fuel Production Projects ที่มีศักยภาพในอนาคต ..
– การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. Electricity Generating Authority of Thailand: EGAT : พวกเขา ดำเนินการสำรวจเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น ระบบจัดเก็บพลังงานด้วยชุดแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ Large – Scale Battery Energy Storage: BESS และในอนาคต คือ การใช้พลังงานไฟฟ้าส่วนเกิน เพื่อผลิตไฮโดรเจน Use of Surplus Electricity to Produce Hydrogen: H2 ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในกระบวนผลิตเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ Precursor for e – Fuels นั่นเอง ..
– หน่วยงานภาครัฐ Government Agencies : กระทรวงพลังงาน Ministry of Energy และสำนักงานนโยบาย และแผนพลังงาน หรือ สนพ. Energy Policy & Planning Office: EPPO กำลังเร่งพัฒนากฎระเบียบ และโครงสร้างพื้นฐานสำหรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น ไฮโดรเจน Hydrogen: H2 , เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels หรือ e – Fuels และเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน Sustainable Aviation Fuel: SAF ..
– องค์กรธุรกิจเอกชน Private Sectors : บริษัท Toyota ได้จับมือร่วมกับ CP Group เพื่อผลิตพลังงานไฮโดรเจน Producing Hydrogen: H2 Energy จากมูลไก่ ขยะทางการเกษตร และขยะอาหารในท้องถิ่น Local Chicken Manure, Agricultural Waste & Food Waste ซึ่งนี่เป็นการช่วยลดคาร์บอนไปในตัว โดยได้เริ่มดำเนินการขึ้นในประเทศไทยแล้วมาตั้งแต่ปี 2567 ซึ่งทั้ง 2 บริษัทฯ นี้ กำลังกลายเป็นกลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ในการใช้ประโยชน์จากไฮโดรเจน เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ Utilizing Hydrogen to Reduce Carbon Dioxide: CO2 Emissions ในภาคการขนส่งของไทย .. ทั้งนี้ ไฮโดรเจนจากมูลสัตว์ และขยะการเกษตร Hydrogen: H2 from Animal manure & Agricultural Waste เหล่านี้ นอกจากจะถือเป็นประเภทหนึ่งของเชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels ที่เป็น Syngas หรือ ก๊าซเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ e – Fuel Gas ในตัวของมันเองแล้ว พวกมัน คือ สารตั้งต้นในกระบวนผลิตเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ Precursor for e – Fuels รูปแบบอื่น ๆ มาพร้อมอีกด้วย ..
โดยสรุป บทบาทของเชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels เชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ e – Fuels ในประเทศไทยนั้น พบว่า สถานะของก๊าซเชื้อเพลิงสังเคราะห์ Syngas และเชื้อเพลิงชีวภาพ Biofuels คือ ความจำเป็นในระยะกลางถึงระยะยาวที่สำคัญ Crucial Medium – to – Long – Term Necessity และมีความต้องการมากกว่าความเป็นจริงเชิงพาณิชย์ในปัจจุบัน Greater Demand than Current Commercial Reality ..
ทั้งนี้ การลดคาร์บอนในการขนส่งในระยะแรกเกิดขึ้นผ่านการนำรถยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicles: EVs และการนำเชื้อเพลิงชีวภาพ Bio – SAF มาใช้ .. จนถึงวันนี้ ชัดเจนว่า เชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ e – Fuels คือ โซลูชันข้อไขที่ปรับขนาดได้อย่างสมบูรณ์แบบสำหรับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์สุทธิ Net – Zero ในอุตสาหกรรมการบิน และการขนส่งทางเรือ Aviation & Shipping .. ขณะที่ ปัจจัยสนับสนุน และความสำเร็จนั้น ขึ้นอยู่กับความสามารถของไทยในการเปลี่ยนไปใช้กำลังไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนขนาดใหญ่ราคาถูกอย่างรวดเร็ว Thailand’s Ability to Rapidly Deploy Cheap, Large – Scale Renewable Electricity และการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพรองรับการผลิตไฮโดรเจน และดักจับคาร์บอนไดออกไซด์ Establish Efficient Hydrogen: H2 & CO2 Capture Infrastructure ซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นแล้วในประเทศไทย ..
ปัจจุบัน ประเทศไทยThailand ได้เริ่มสำรวจ และวิจัยเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ Explore & Research e – Fuels โดยมีโครงการริเริ่มต่าง ๆ เช่น ความร่วมมือระหว่างบริษัท Tripetch Isuzu, Mitsubishi Corporation และ PTT มาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2566 เป็นต้นมา เพื่อศึกษาศักยภาพในการลดคาร์บอนในภาคการขนส่ง Decarbonizing the Transportation Sector .. แม้ว่า เชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ e – Fuels จะเป็นเชื้อเพลิงสังเคราะห์ที่ปล่อยคาร์บอนเป็นกลาง Synthetic, Carbon – Neutral Path สำหรับเครื่องยนต์สันดาปภายในที่มีอยู่แล้ว Existing Internal Combustion Engines: ICEs แต่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายจากต้นทุนการผลิตที่สูง โครงสร้างพื้นฐานที่จำกัด และความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบ ตามข้อมูลของ KPMG International Limited .. นอกจากนี้ ยังมีการสำรวจ และนำเชื้อเพลิงทางเลือกอื่น ๆ เช่น เชื้อเพลิงชีวภาพ Biofuels รวมถึงเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน Sustainable Aviation Fuel: SAF มาใช้อย่างรวดเร็วมากขึ้นในอนาคตอันใกล้ เพื่อลดการปล่อยมลพิษ Reduce Emissions และเตรียมความพร้อมสำหรับกฎระเบียบที่เข้มงวดยิ่งขึ้น Prepare for Stricter Regulations ให้สำเร็จได้ในที่สุดจากนี้ไป ..
คาดการณ์ตลาดเชื้อเพลิงสังเคราะห์ทั่วโลก Global Synthetic Fuel Market ..
อ้างถึงข้อมูลการสำรวจตลาดของ Precedence Research พบว่า ตลาดเชื้อเพลิงสังเคราะห์ทั่วโลก Global Synthetic Fuel Market มีมูลค่าประมาณ 6.27 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2567 และคาดว่าจะเติบโตถึงประมาณ 4.73 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2577 ด้วยอัตราการเติบโตต่อปี Compound Annual Growth Rate: CAGR หมายถึง อัตราผลตอบแทนสำหรับตลาดเชื้อเพลิงสังเคราะห์ทั่วโลก Global Synthetic Fuel Market ที่เติบโตจากยอดดุลเริ่มต้นไปถึงยังยอดดุลสิ้นสุด รวมสมมติฐานว่ากำไรจะถูกนำกลับมาลงทุนหมุนเวียนใหม่ทุกสิ้นปีของช่วงอายุการลงทุน อยู่ที่ค่า CAGR 22.40 % ในช่วงระยะเวลาที่คาดการณ์ ปี 2568 – 2577 ..
อย่างไรก็ตาม จากรายงานหลายฉบับที่ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน แต่ก็คาดการณ์สอดคล้องกันว่า ตลาดเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก Global e – Fuels Market จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดในทศวรรษหน้า ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านจากโครงการนำร่องขนาดเล็กไปสู่การนำไปใช้งานในเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่อย่างมีนัยสำคัญสำหรับอนาคตจากนี้ไป ทั้งนี้ ภาพรวมการคาดหมายจากรายงานต่าง ๆ หลายฉบับ สรุปเป็นประเด็นสำคัญ ได้แก่ ขนาดธุรกิจในตลาดเชื้อเพลิงสังเคราะห์ทั่วโลก Global Synthetic Fuel Market ที่คาดการณ์ไว้ในปี 2573 – 2577 อยู่ระหว่าง 4.5 – 8.792 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้วยอัตราการเติบโตต่อปี อยู่ที่ค่า CAGR ที่คาดการณ์ไว้ระหว่าง 21 – 34 % ตลอดช่วงระยะเวลา ปี 2573 – 2578 ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตต่อปีของตลาดที่สูงมาก .. กลุ่มตลาดหลัก ได้แก่ ประเภทน้ำมันก๊าดสำหรับการบิน e – Kerosene for Aviation และแอมโมเนียสำหรับการเดินเรือ e – Ammonia: NH3 for Maritime โดยภูมิภาคหลัก Leading Region เป็นยุโรป Europe หรืออเมริกาเหนือ North America ขณะที่ภูมิภาคที่ตลาดเติบโตเร็วที่สุดนั้น ได้แก่ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก Asia – Pacific Region ..

ทั้งนี้ ในปี 2566 ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก Asia Pacific Region มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุด อยู่ที่ประมาณ 40 % และคาดว่าจะมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในช่วงระยะเวลาคาดการณ์ เนื่องจากความต้องการรถยนต์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในอินเดีย India, จีน China และญี่ปุ่น Japan คาดว่า ตลาดเชื้อเพลิงอิเล็กทรอนิกส์ e – Fuels Market ในภูมิภาคจะเติบโตอย่างมากในช่วงระยะเวลาคาดการณ์ .. ความต้องการรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นกำลังสร้างความต้องการน้ำมันเชื้อเพลิงทั่วโลก โดยชาติในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เช่น จีน China ได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นผู้บริโภคเชื้อเพลิงสังเคราะห์รายใหญ่ และมีการผลิตเชื้อเพลิงสังเคราะห์ในปริมาณที่สูง ..
นอกจากจีนแล้ว อินเดีย India ก็คาดว่าจะมีการเติบโตที่ดีในช่วงระยะเวลาคาดการณ์เช่นกัน ความต้องการรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น และความต้องการเชื้อเพลิงสังเคราะห์ Increasing Demand for Automobiles & Synthetic Fuels เพื่อเป็นเชื้อเพลิงทางเลือก Alternative Fuels ทดแทนเชื้อเพลิงจากน้ำมันดิบ Crude Oil Based Fuels จะเติบโตได้ดีในตลาดอินเดีย .. แรงงานราคาถูก Low Cost Labor และวัตถุดิบราคาถูก Cheap Raw Materials ในประเทศต่าง ๆ เช่น อินเดีย India และจีน China เป็นต้นนั้น คือ ประเด็นชี้ขาดที่จะช่วยกระตุ้นตลาดเชื้อเพลิงสังเคราะห์ Boost to the Synthetic Fuels Market ส่งผลให้ปริมาณเชื้อเพลิงสังเคราะห์ที่ผลิตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก Synthetic Fuel Produced in the Asia – Pacific Region มีแนวโน้มสูงกว่าเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น ๆ เช่น อเมริกาเหนือ North America หรือยุโรป Europe เนื่องจากแรงงานราคาถูก และวัตถุดิบที่หาได้ง่าย นั่นเอง ..
คาดหมายว่า ตลาดอเมริกาเหนือ North American Market จะเติบโตได้ดีในช่วงคาดการณ์เช่นกัน .. ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตลาดอเมริกาเหนือ North American ครองตลาดเชื้อเพลิงสังเคราะห์ เนื่องจากมีการลงทุนจำนวนมากเพื่อความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในภูมิภาคอเมริกาเหนือ ตลาดจึงจะเติบโตได้ดี .. การลงทุนจากภาครัฐ และเอกชน Investments from the Public & Private Sector เพื่อส่งเสริมการผลิตเชื้อเพลิงสังเคราะห์ในภูมิภาคอเมริกาเหนือ จะนำไปสู่การผลิตเชื้อเพลิงสังเคราะห์ที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคนี้ ..
อย่างไรก็ตาม ตลาดยุโรป European Market จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงคาดการณ์มาพร้อมด้วยเช่นกัน เนื่องจากอุตสาหกรรมยานยนต์ที่กำลังเติบโตในภูมิภาคยุโรป ตลาดเชื้อเพลิงสังเคราะห์ Market for Synthetic Fuels จึงได้รับการคาดหมายว่าจะเติบโตตามมาได้อย่างมีนัยสำคัญ .. ความตระหนักรู้เกี่ยวกับความพร้อมของเชื้อเพลิงสังเคราะห์ และประโยชน์ของการใช้เชื้อเพลิงสังเคราะห์เหล่านี้ จะผลักดันการเติบโตของตลาดในภูมิภาคเหล่านี้ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก .. หลายประเทศในยุโรป จึงส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงสังเคราะห์สำหรับการขนส่ง เชื้อเพลิงสังเคราะห์ถูกนำมาใช้ทดแทนก๊าซ และน้ำมันเชื้อเพลิงฟอสซิล Gas & Oil Fossil Fuels ในหลายประเทศในภูมิภาค เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน Reduce the Carbon Emission และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นศูนย์สุทธิ Reach the Target of Net Zero Carbon Emissions ..
จนถึงวันนี้ เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels คือ อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับทดแทนตลาดเชื้อเพลิงที่มีอยู่เดิม Alternative to the Existing Fuel Market .. เชื้อเพลิงสังเคราะห์นั้น อยู่ในรูปของเหลว หรือก๊าซ Synthetic Fuels are in the Form of Liquid or Gas โดยเชื้อเพลิงเหล่านี้ ไม่ได้มาจากน้ำมันดิบ Not Derived from Crude Oil .. เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels ได้มาจากส่วนผสมของไฮโดรเจน Hydrogen: H2 และคาร์บอนมอนอกไซด์ Carbon Monoxide: CO ซึ่งเป็นก๊าซสังเคราะห์ Synthetic Gases .. ส่วนผสมของก๊าซทั้ง 2 ชนิดนี้ เป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียน Renewable Source of Energy .. การใช้เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Use of Synthetic Fuels ทำให้เศรษฐกิจมีความเป็นอิสระมากขึ้น เนื่องจากไม่จำเป็นต้องพึ่งพาน้ำมันดิบ Not Rely on Crude Oil อีกต่อไป ..
ตลาดน้ำมันดิบ Crude Oil Market มีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา ต้นทุนเชื้อเพลิงที่ได้จากน้ำมันดิบ Cost of Fuel Derived from Crude Oil ก็เปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน .. การใช้เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Use of Synthetic Fuels ทำให้ระบบเศรษฐกิจได้มาซึ่งพลังงานสะอาดที่ไม่มีการปล่อยมลพิษที่เป็นอันตราย Green Energy Which Has No Harmful Emissions .. กระบวนการผลิตเชื้อเพลิงสังเคราะห์เหลว Process of Manufacturing Liquid Synthetic Fuels เกี่ยวข้องกับการผลิตไฮโดรเจนจากน้ำ และขยะการเกษตร Hydrogen: H2 Production from Water & Agricultural Waste จากนั้นไฮโดรเจน Hydrogen: H2 ที่ผลิตได้จะถูกผสมกับคาร์บอนเพื่อผลิตเชื้อเพลิงเหลว Produce the Liquid Fuels .. การรวมกันของคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Monoxide: CO และไฮโดรเจน Hydrogen: H2 ทำให้เกิดเชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels .. คาร์บอน Carbon สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้โดยใช้กระบวนการทางอุตสาหกรรม Industrial Processes และยังดักจับได้ด้วยการใช้ตัวกรองมาพร้อมอีกด้วย ..
ประเด็นสำคัญในตลาด ได้แก่ วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตเชื้อเพลิงสังเคราะห์ หรือเชื้อเพลิงจากพลังงานหมุนเวียนซึ่งทำให้เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ‘เชื้อเพลิงสีเขียว Green Fuels’ .. ทั้งนี้ เนื่องจากเชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels ที่อยู่ในรูปแบบของเชื้อเพลิงเหลว หรือก๊าซเชื้อเพลิง Liquid Fuels or Fuel Gas มีการจัดเก็บ และการจัดจำหน่าย คล้ายคลึงกับเชื้อเพลิงจากปิโตรเลียม Petroleum Based Fuels .. เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels จึงสามารถนำไปใช้กับโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่แล้วในตลาดได้ ซึ่งถือเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดที่โดดเด่น ส่งผลให้เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels ใช้งานง่าย และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากสิ่งแวดล้อมไปพร้อมด้วย ..
การใช้เชื้อเพลิงเหล่านี้ในรถยนต์ที่มีอยู่เดิมนั้น ไม่จำเป็นต้องดัดแปลงเครื่องยนต์ จึงไม่จำเป็นต้องลงทุนเป็นจำนวนมากสำหรับโครงสร้างพื้นฐานใหม่ ขณะที่เมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงปิโตรเลียมแล้ว เชื้อเพลิงสังเคราะห์มีความสะอาดที่เหนือชั้นกว่า เนื่องจากสารมลพิษ เช่น โลหะ Metal และกำมะถัน Sulfur จากเชื้อเพลิงปิโตรเลียม Petroleum Fuels สามารถดักจับไว้ได้ในโรงงานสังเคราะห์ Synthetic Plants รวมทั้งวัตถุดิบชีวมวลหลายชนิด Various Biomass Feedstocks สามารถนำมาใช้ในการผลิตเชื้อเพลิงสังเคราะห์ได้ และนี่คืออีกเหตุผลหนึ่งที่คาดว่า ตลาดจะเติบโตได้เป็นอย่างดีในช่วงระยะเวลาที่คาดการณ์ ..

สรุปส่งท้าย ..
เทคนิคกระบวนการแปรสภาพแก๊ส Gasification Process และกระบวนการไพโรไลซิส Pyrolysis Process เป็นกระบวนการให้ได้มาซึ่งเชื้อเพลิงสังเคราะห์เหลว Liquid Synthetic Fuels และแก๊สเชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuel Gas: Syngas ที่พัฒนาขึ้นใหม่ด้วยการใช้วัตถุดิบตั้งต้นที่เป็นขยะพลาสติก Plastics Waste, เศษวัสดุที่ตกค้างจากการคัดแยกคาร์บอนจากสารอินทรีย์ Residual Materials from the Separation of Carbon from Organic Matter, ขยะชีวมวล Biomass Waste และชิ้นส่วนยางใช้แล้วทิ้ง Discarded Rubber Parts ตลอดจนวัสดุที่หั่นย่อยเหลือทิ้งในอุตสาหกรรมยานยนต์ Waste Materials from the Automotive Industry นั้น กำลังเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นอย่างมากสำหรับแหล่งเชื้อเพลิงสะอาดกว่าที่ใช้ในเครื่องยนต์สันดาปภายใน Internal Combustion Engines: ICEs ทดแทนน้ำมันดีเซล น้ำมันก๊าด และน้ำมันเบนซิน Diesel, Kerosene & Gasoline ในทศวรรษหน้า ..
ตัวอย่าง เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels ที่เป็นก๊าซเชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthesis Gas: Syngas ที่ถูกสร้างขึ้นจากขยะพลาสติก Plastic Waste นั้น หมายถึง ก๊าซเชื้อเพลิงบริสุทธิ์ ซึ่งส่วนประกอบหลักที่ติดไฟได้ คือ คาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Monoxide: CO, ไฮโดรเจน Hydrogen: H2 และไฮโดรคาร์บอนเบา Light Hydrocarbons ขณะที่ส่วนประกอบก๊าซเฉื่อย เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide: CO2 และไนโตรเจน Nitrogen: N2 ส่วนใหญ่จะถูกดูดซับเข้าสู่ Syngas ผ่านการใช้อากาศ และน้ำ เป็นตัวทำให้เกิดก๊าซ หรือ Gasifying Agents ด้วยค่าพลังงานความร้อนอยู่ในช่วงระหว่าง 2 – 2.4 KWh/Nm³ ในขณะที่ปริมาณฝุ่นที่เกิดขึ้น น้อยกว่า 1 mg/Nm3 เมื่อถูกเผาไหม้ที่อุณหภูมิสูงถึง 1,900 °C ..
ทั้งนี้ ก๊าซเชื้อเพลิงสังเคราะห์ Syngas เหมาะสำหรับรองรับกระบวนการเผาไหม้ที่ใช้อุณหภูมิสูงเพื่อทดแทนความต้องการเชื้อเพลิงฟอสซิลที่เป็น Diesel & Gasoline เช่น ในโรงไฟฟ้า ในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ ในโรงงานหล่อแก้ว หรือในอุตสาหกรรมการผลิตเหล็ก และเหล็กกล้า เป็นต้นมาพร้อมด้วย .. โรงงานระดับขนาดที่จัดการขยะของเสียได้ประมาณ 50,000 ตันต่อปี จะสามารถสร้างแก๊สเชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuel Gas: Syngas ได้มากถึง 15,000 Normal Cubic Meter of Air: Nm3 ต่อชั่วโมง ซึ่งส่งผลให้มีผลผลิตต่อปีเฉลี่ย อยู่ที่ 250,000 MWh เทียบเคียงเท่ากับพลังงานจากแหล่งเชื้อเพลิงฟอสซิลที่เป็นก๊าซธรรมชาติ Natural Gas ประมาณ 20,000 ตัน ..

โรงงานขนาดใหญ่แห่งแรก ๆ ได้รับการออกแบบเพื่อใช้ขยะพลาสติกเป็นวัตถุดิบมากถึง 50,000 ตันต่อปีที่กล่าวถึงนี้นั้น จะต้องใช้ปูนขาวหยาบ Coarse – Ground Lime ประมาณ 3,000 – 4,000 ตันต่อปี .. อากาศ และไอน้ำ จะถูกเป่าเข้าไปในกระบวนการ Gasification ร่วมกับสารหล่อเย็น Coolant Agents ในเตาเผาแบบเพลาแนวตั้ง Shaft Kiln ของโรงงาน และรองรับโดยการเผาไหม้ของโหลดพื้นฐานเริ่มต้น วัสดุจะผ่านการออกซิเดชันบางส่วน Partial Oxidation รวมทั้ง ปฏิกิริยาในกระบวนการทำให้เป็นแก๊ส และไพโรไลซิส Gasification & Pyrolysis Reactions ด้วยอุณหภูมิภายในปฏิกรณ์ระหว่าง 450 – 1,200 °C ซึ่งหลังจากที่ก๊าซเชื้อเพลิงสังเคราะห์ Syngas ถูกทำความสะอาดด้วยตัวกรองก๊าซร้อน และทำให้เย็นลงแล้ว ก็จะสามารถนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์เผาไหม้ภายใน Fuel in Internal Combustion Engines: ICEs เช่น น้ำมันดีเซล Diesel Fuel สำหรับกระบวนการทางอุตสาหกรรมได้อย่างหลากหลาย ..
โดยสรุปแล้ว เชื้อเพลิงสังเคราะห์ Synthetic Fuels คือ แนวทางที่มีแนวโน้มดีในอนาคตสำหรับการลดคาร์บอนโดยเฉพาะในเครื่องยนต์เผาไหม้ภายใน Fuel in Internal Combustion Engines: ICEs ที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยนำเสนอทางเลือกที่สะอาดกว่า และเป็นกลางทางคาร์บอน Providing a Cleaner & Carbon – Neutral Alternative ซึ่งสามารถผสานรวมเข้ากับโครงสร้างพื้นฐานปัจจุบันได้อย่างราบรื่น แม้ว่าต้นทุนที่สูงในปัจจุบันจะจำกัดการใช้งานในตลาดมวลชน แต่การลงทุนที่เพิ่มขึ้น และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี กำลังผลักดันการพัฒนาเชื้อเพลิงสังเคราะห์ให้เป็นโซลูชันข้อไขสำคัญสำหรับภาคส่วนต่าง ๆ ที่เผชิญกับความท้าทายที่สำคัญเกี่ยวกับการเปลี่ยนไปใช้พลังงานไฟฟ้า Critical Solution for Sectors that Face Significant Electrification Challenges ..
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความท้าทาย และแนวโน้มในอนาคตที่อาจผันแปร Challenges & Potential Future Trends ได้แก่ ต้นทุนการผลิตที่สูง ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการนำไปใช้อย่างแพร่หลายในตลาด รวมถึงขนาดการผลิต และความจำเป็นที่จะต้องมีความก้าวหน้าที่สำคัญในเทคโนโลยีการดักจับคาร์บอนไดออกไซด์ Carbon Dioxide: CO2, การผลิตไฮโดรเจน Hydrogen: H2 Production และเทคโนโลยีการสังเคราะห์ Synthesis Technologies เพื่อให้บรรลุการผลิตขนาดใหญ่ Large – Scale Production ที่จำเป็นต่อการลดการปล่อยมลพิษทั่วโลก ..
ความพร้อมใช้ของเชื้อเพลิงสังเคราะห์ในอนาคต Future Availability of Synthetic Fuels ต้องการนโยบายภาครัฐที่มีการดำเนินการอย่างจริงจัง Active Government Policies และการยอมรับตระหนักรู้ของสาธารณะชนอย่างกว้างขวาง Widespread Public Awareness เกี่ยวกับบทบาทของเชื้อเพลิงสังเคราะห์ Role of e – Fuels เทียบกับการใช้พลังงานไฟฟ้า Electrification ผนวกกับการกำกับดูแลจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง คือ สิ่งจำเป็นสำคัญที่ขาดไม่ได้ต่อความสำเร็จของการใช้งานเชื้อเพลิงสังเคราะห์ Success in Synthetic Fuel Applications เหล่านี้ ทั้งนี้เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านพลังงานในระบบเศรษฐกิจ และสังคม Energy Transition in the Economy & Society System ของมนุษยชาติ และของโลกใบนี้ ซึ่งรวมถึงประเทศไทยมาพร้อมด้วยนั้น บรรลุความสำเร็จได้อย่างงดงามในที่สุดจากนี้ไป ..
………………….
คอลัมน์ : Energy Key
By โลกสีฟ้า ..
สนับสนุนโดย…..บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)

ขอบคุณเอกสารอ้างอิง :-
Synthetic Fuel | Wikipedia :-
https://en.wikipedia.org/wiki/Synthetic_fuel
Can e – Fuels Save the Combustion Engine? | WSJ :-
https://www.wsj.com/articles/can-e-fuels-save-the-combustion-engine-11621037390
e – Fuels, Sustainability & Sports Cars – Manufacturers Weigh in on the Issues | evo.co.uk :-
Generating hydrogen and synthetic methane | Storengy :-
https://www.storengy.com/en/our-jobs/renewable-gases/generating-hydrogen-and-synthetic-methane
Syn – Gas: A Versatile and Renewable Fuel | Waste to Energy Systems :-
https://www.wastetoenergysystems.com/syn-gas-a-versatile-and-renewable-fuel
Why Synthetic Fuels Are Necessary in Future Energy Systems | Frontier :-
https://www.frontiersin.org/articles/10.3389/fenrg.2017.00019/full
Global Synthetic Fuel Market Size | Precedence Research :-
https://www.precedenceresearch.com/synthetic-fuel-market
Power to X Technology : Future Fuels Accelerating Decarbonisation :-
https://photos.app.goo.gl/f82CctT33C7ZdrN19
Synthetic Fuel Gas : Gasification of Plastic Waste & Biomass to SynGas or from Power to X Technology :-



















