วันอาทิตย์, ตุลาคม 6, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWSศูนย์ราชการแทบแตก แห่กรี๊ด''พิธา''หล่อตรงปก  อยากให้เป็นนายกเร็วๆ 
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ศูนย์ราชการแทบแตก แห่กรี๊ด”พิธา”หล่อตรงปก  อยากให้เป็นนายกเร็วๆ 

ศูนย์ราชการแทบแตก แห่กรี๊ด ‘พิธา’ หล่อตรงปก  อยากให้เป็นนายกเร็วๆ  ด้านเจ้าตัว ปัดแจกลายเซ็น ‘เรืองไกร’ ที่มายื่นค้านหนังสือ”ก.ก. “แย้งกกต.พิจารณาเชือด ‘ทิม’ 

เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ที่ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและแคนดิเนตนายกรัฐมนตรี พร้อมสมาชิกพรรคก้าวไกล เดินทางเข้าพบผู้บริหารสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA โดยมีกลุ่มแฟนคลับ พนักงาน ข้าราชการ และประชาชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ที่ทำงานและมาติดต่อหน่วยงานภายในอาคารบี ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ มารอให้กำลังใจ ส่งเสียงเชียร์ “ตัวจริงหล่อมาก นายกหล่อมาก อยากให้เป็นนายกไว” และต้องการถ่ายภาพร่วมกับนายพิธา ขณะที่ประชาชนบางส่วนเมื่อทราบว่านายพิธาเดินทางมาถึงก็รีบออกมาและเดินไปส่งนายพิธาถึงลิฟท์ทางขึ้นสำนักงาน GISTDA 

ทั้งนี้ระหว่างที่นายพิธาเดินผ่านสำนักงานกกต. ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงเรื่องที่กกต.กำลังมีการประชุมพิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติตนเอง แต่นายพิธา ปฏิเสธที่จะตอบ ระบุเพียงว่า “วันนี้ได้รับเชิญจากทาง GISTDAให้มาพูดคุย” 

แต่เมื่อสื่อถามว่า นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อยากขอให้ลายเซ็น นายพิธา กล่าวว่า  “เอาไปทำอะไรครับ ผมไม่ทราบเรื่อง ปกติลายเซ็น ไม่ให้พร่ำเพรื่อ ปกติก็ให้พี่น้องประชาชน ก็จะไม่เหมือนกับที่เซ็นเป็นหลักฐานทางเอกสาร ฉะนั้นถ้าจะเอาไปตรวจคงไม่มีประโยชน์ ให้เดานะ” เมื่อผู้สื่อข่าวอธิบายว่า นายเรืองไกร อยากให้เซ็นหนังสือวิถีก้าวไกล นายพิธา กล่าวว่า  “อ๋อ ไม่ล่ะครับ วันนี้ผมตั้งใจมาประชุมกับ GISTDA ซึ่งน่าจะติดต่อมาหลังเลือกตั้งแต่ก็ยังไม่โอกาสมา เป็นเรื่องเกี่ยวกับภัยแล้งที่เกิดขึ้น ก็จะคุยว่าจะสามารถใช้เทคโนโลยีมาแก้ปัญหาภัยแล้งได้หรือเปล่า”

เมื่อถามว่า นายเรืองไกรบอกว่าเอกสารที่พรรคยื่นคัดค้านกกต.เป็นการใช้กฎหมายผิดมาตรา นายพิธา กล่าวว่า คิดว่าฝ่ายกฎหมายของเราเช็คมาอย่างดีแล้ว อย่างไรก็ตามคงต้องให้กกต.วินิจฉัยว่าถูกหรือไม่ โดยผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ฝ่ายกฎหมายได้เตรียมมาพอสมควร ไม่ได้เร่งรีบทำอย่างแน่นอน  ซึ่งคาดเดากันมาในหลายเรื่องอย่างที่สื่อหลายสำนักสัมภาษณ์ว่า มีความคล้ายกันกับคดีวีลัค มีเดียของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ฉะนั้น ฝ่ายกฎหมายของเราได้เตรียมตัวและเตรียมพร้อมไว้แล้ว  ซึ่งถ้ามีกรณีเร่งรัดผิดขั้นตอนใกล้วันเลือกนายกฯ ก็เป็นเรื่องที่เราคาดเดาไว้เรียบร้อยแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายพิธา ขึ้นไปถึงห้องประชุมของสำนักงาน GISTDA เจ้าหน้าที่ GISTDA ต่างก็ผละจากโต๊ะทำงานมาส่งเสียงเชียร์ต้อนรับนายพิธากันอย่างคึกคัก  ขณะที่สำนักงาน GISTDA แจ้งว่า การหารือระหว่างผู้บริหารสำนักงานกับนายพิธาจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ จากนั้นจะมีการแถลงข่าว

เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะที่นายพิธา กำลังจะเดินทางมาถึง นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ก็ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อกกต.เพื่อคัดค้านหนังสือของนายพิธา ที่ส่งถึงกกต.เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ที่ผ่านมาโต้แย้งกระบวนการพิจารณาพิจารณากรณีที่จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานะของนายพิธาว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยระบุว่า หนังสือที่นายพิธา ส่งถึงกกต.อ้างมาตราข้อกฎหมายไม่ถูกต้อง และเห็นว่าการดำเนินการของกกต.ชอบด้วยกฎหมายแล้ว โดยกกต.ดำเนินการสอบสวนในลักษณะเดียวกับที่ดำเนินการกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กรณีถือหุ้นวีลัค และศาลรัฐธรรมนูญก็มีคำวินิจฉัยในคดีดังกล่าวไว้เป็นบรรทัดฐานแล้วว่า กระบวนการพิจารณากกต.ชอบด้วยกฎหมาย 

นายเรืองไกร กล่าวว่า ก่อนที่กกต.จะส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีของนายพิธา ไม่จำเป็นต้องต้องเชิญนายพิธามาชี้แจงก่อน เพราะเป็นกรณีการยื่นตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82  ไม่ใช่การดำเนินการตามมาตรา 151 พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ที่ตนก็เห็นว่า ถ้าเป็นกรณีนี้จำเป็นต้องเชิญผู้ถูกกล่าวหามาชี้แจงก่อน และการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติส.ส. ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคแรกที่ให้สิทธิส.ส.เข้าชื่อยื่นผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็ไม่ได้มีการให้ผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงก่อน ซึ่งส.ส.พรรคก้าวไกลก็เคยใช้ขั้นตอนนี้ในการยื่นเรื่องผ่านประธานสภาฯให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานะของรมว.คมนาคม มาแล้ว และการพิจารณาของกกต.ก็ไม่เร่งรีบเพราะตนยื่นเรื่องนี้ตั้งแต่ 10 พ.ค.  และถ้าเทียบกับกรณียุบไทยรักชาติใช้เวลาแค่ 2 อาทิตย์เอง

นายเรืองไกร กล่าวว่า ที่ตนมายื่นหนังสือเองในวันนี้แทนการยื่นทางไปรษณีย์ไม่ใช่เป็นเพราะทราบว่านายพิธาจะเดินทางมายังอาคารศูนย์ราชการ แต่ทราบว่ากกต.จะมีประชุมพิจารณาเรื่องนี้ต่อในวันนี้ จึงเกรงว่าหากส่งหนังสือทางไปรษณีย์จะมาถึงสำนักงานกกต.ไม่ทัน จึงต้องเดินทางมายื่นเอง อย่างไรก็ตาม เมื่อจะนายพิธาเดินทาง ก็อยากจะพบ อยากจะขอลายเซ็นในหนังสือวิถีก้าวไกล ที่ตนซื้อมา และได้อ่านแล้ว นายพิธาก็เขียนดี เหมือนกับที่นายธนาธร และนายปิยบุตร เขียน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการเลือกตั้ง ได้เริ่มประชุมในเวลา 10.00 น.  เป็นการประชุมต่อ เนื่องจากเมื่อวานนี้กรณีนายพิธา ถือครองหุ้นบริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน) เข้าข่ายลักษณะต้องห้ามไม่ให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3)  และเป็นเหตุให้สมาชิกภาพ ส.ส.สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ  มาตรา 101 (6) เพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82  ซึ่งเมื่อวันที่ 10 ก.ค.  กกต.ยังไม่ได้ได้ลงมติว่าจะส่งเรื่องดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญ เพียงแต่เป็นการติดตามความคืบหน้าของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ได้รายงานให้ที่ประชุมรับทราบ จึงนัดประชุมอีกครั้งในวันนี้ (10 ก.ค.) แต่ยังไม่มีคำยืนยันว่าจะมีการลงมติหรือไม่ เนื่องจาก กกต.มีการนัดประชุมล่วงหน้าในวันที่ 13 ก.ค.อีกครั้ง จึงมีความเป็นไปได้ว่า กกต.จะใช้เวลาในการพิจารณา ประกอบกับการที่นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.ระบุว่าการพิจารณาเรื่องดังกล่าวขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของคำร้องที่ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื้อหาและข้อกฎหมาย โดยการพิจารณาของ กกต.ไม่ได้ระบุว่าจะต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จเมื่อใด

ทั้งนี้ในการพิจารณาของ กกต.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 เป็นแนวทางในการพิจารณาเพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ส่วนการพิจารณาตามมาตรา 151 ที่ กกต.ตั้งคณะกรรมการไต่สวนไปก่อนหน้านี้ เป็นเรื่องของการดำเนินคดีทางอาญา แต่ทั้งสองกรณีเป็นเรื่องเกี่ยวกับการถือครองหุ้นสื่อที่จะต้องพิสูจน์ข้อมูลและหลักฐานว่านายพิธา ถือหุ้นจริงหรือไม่ และหุ้นนั้นเป็นกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชลหรือไม่.

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img