‘ประเสริฐ’ มอง ‘ก้าวไกล’ ชงแก้ 272 หวังการทลายกำแพงโหวตนายกฯ บอกไม่ใช่เรื่องง่าย ย้ำโหวตครั้งที่ 2 ไม่มีอะไรใหม่ผลคงเปลี่ยนไม่มาก จ่อคุยลดเพดานแก้ม.112
เมื่อวันที่ 14 ก.ค.66 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ระบุว่า พรรคก้าวไกลจะยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.272 เพื่อตัดอำนาจส.ว.ในการโหวตนายกฯ พรรคพท.มีความเห็นอย่างไรว่า เรื่องการแก้ไขม.272 พรรค พท. เคยยื่นแก้ไขแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ไม่ผ่านการพิจารณาในรัฐสภา ฉะนั้นการที่พรรคก้าวไกลได้เปิดประเด็นนี้ขึ้นมา ตนเข้าใจว่า คงจะเป็นการทลายกำแพง โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นที่มีการโหวตนายกฯ เพราะทางส.วได้ตั้งกำแพงเรื่องกฎหมายอาญา ม.112 ทางพรรคก้าวไกลคงจะหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาเพื่อให้การโหวตเลือกนายกฯ เป็นเรื่องเฉพาะของสภาฯ
เมื่อถามว่า ก่อนหารือกับพรรคก้าวไกล พรรค พท. จะหารือภายในเกี่ยวกับประเด็นนี้หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า “มี”
เมื่อถามว่า หากยื่นตอนนี้คิดว่าจะสามารถแก้ไข ม.272 ได้หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า หากทำได้ถือเป็นเรื่องดี แต่ข้อเท็จจริงคือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรานี้ ต้องใช้เสียงรัฐสภาเกินกว่ากึ่งหนึ่ง และในกึ่งหนึ่งนั้น ต้องมีเสียงของส.ว. 84 เสียง ดังนั้นเรื่องนี้ที่ผ่านมา เราเคยทำมาแล้วมันไม่ง่าย ไม่เคยได้เสียงของส.ว.เพียงพอ ครั้งนี้ตนเข้าใจว่าส.ว.จะตั้งกำแพงในเรื่องนี้ไว้สูง การแก้ไขคงไม่ได้ง่ายนักตามที่คิดไว้
เมื่อถามถึงกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า พรรคก้าวไกลเตรียมเป็นฝ่ายค้าน นายประเสริฐ กล่าวว่า นายปิยบุตรเป็นคนหนึ่งที่แสดงความคิดเห็นแล้วส่งผลต่อพรรคก้าวไกล คำพูดของนายปิยบุตรต้องรับฟัง ส่วนมีความเป็นไปได้หรือไม่นั้น เราต้องเข้าใจว่านายปิยบุตร อยู่ในคณะก้าวหน้า ไม่ได้อยู่ในพรรคก้าวไกล ฉะนั้น หากจะให้แน่นอนต้องฟังความคิดเห็นของหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค หรือคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ที่จะสื่อออกมา
เมื่อถามว่า หากพรรคก้าวไกลยอมถอยไปเป็นฝ่ายค้าน พรรค พท. จะทำอย่างไรต่อ นายประเสริฐ กล่าวว่า จริงๆ ไม่มีแผนสอง เพียงแต่จะคุยกันวันนี้ว่าจะต้องเอาอย่างไรต่อ
เมื่อถามว่า พรรค พท. จะเอาความเห็นของนายปิยบุตร มาเป็นข้อสอบถามหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า คงต้องเอาทุกความเห็นที่เกิดขึ้น หลังจากที่คุยกันสองพรรคแล้วต้องไปแจ้ง 8 พรรคด้วย
เมื่อถามว่า ในเอ็มโอยูมีการระบุว่ าการสนับสนุนนายพิธา ต้องให้ถึงที่สุด นายประเสริฐ ย้อนถามกลับว่า “ถึงที่สุดนี่ขนาดไหน”
เมื่อถามต่อว่า ในเอ็มโอยูไม่ได้มีการระบุเรื่องการแก้ไข ม.112 แต่พรรคก้าวไกลจะไปดำเนินการเอง ห่วงหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เอ็มโอยูฉบับแรกของ 8 พรรค ในช่วงท้ายระบุว่าหากจะเสนอที่นอกเหนือจากนี้ก็ให้เป็นเรื่องของเฉพาะที่พรรคก้าวไกลจะไปดำเนินการเอง ไม่เกี่ยวกับพรรคอื่น
เมื่อถามว่า เหนื่อยหรือไม่หากดูจากเมื่อววานนี้แล้ว นายประเสริฐ กล่าวว่า เหนื่อย เพราะกำแพงที่พรรคก้าวไกลต้องก้าวข้ามให้ได้คือ ม.112 เพราะทางส.ว.หรือพรรคขั้วเก่า เขาก็พูดประเด็นนี้เป็นทางเดียวกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทางก้าวไกลต้องกลับไปทำการบ้าน
เมื่อถามว่า วันนี้ (14 ก.ค.) ทางพรรคก้าวไกลได้นัดพรรค พท. หารือถึงการเลือกนายกฯ ครั้งที่ 2 หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า มีการพูดคุยกันได้นัดหมายเวลา 17.00 น. คงจะมีการพูดคุยเรื่องแนวทางการโหวตเลือกนายกฯในสัปดาห์หน้า ซึ่งขณะนี้ตนได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่สภาฯ ทราบว่าน่าจะเป็นวันที่ 19 ก.ค.
เมื่อถามว่า การโหวตเลือกนายกฯวันที่ 13 ก.ค. มีเสียงส.ว.สนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯพรรคก้าวไกล 13 เสียง การโหวตครั้งที่ 2 คิดว่า 13 เสียงนี้จะยังอยู่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า น่าจะยังอยู่ ตนคิดว่าคนที่โหวตสนับสนุนนายพิธา คงตั้งใจมาแล้วและมีเจตนามองการเมืองอีกมุมหนึ่ง
เมื่อถามว่า หลังจากนี้พรรค พท.ต้องออกแรงช่วยเพิ่ม เพื่อให้ได้เสียงส.ว.มากขึ้นหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า จริงๆ ที่พรรคก้าวไกลทำมา คิดว่าเขาพยายามทำเต็มที่แล้ว ฉะนั้นขอคุยกับทางพรรคก้าวไกลก่อนว่า แนวทางจะเป็นอย่างไร
เมื่อถามย้ำว่ าจะมีอะไรไปแนะนำให้ได้เสียงเพิ่มขึ้นหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า จริงๆ แล้ว ถ้าการโหวตเป็นไปอย่างวันที่ 13 ก.ค. แล้วจะโหวตอีกครั้งวันที่ 19 ก.ค. หากไม่มีข้อมูลใหม่ หรือไม่มีอะไรเพิ่มเติม ตนคิดว่าาการโหวตน่าจะเป็นลักษณะใกล้เคียงกับวันที่ 13 ก.ค. คงไม่เปลี่ยนแปลงอะไรมาก
เมื่อถามว่า การอภิปรายของรัฐสภาฯเมื่อวันที่ 13 ก.ค.พุ่งเป้าไปที่กฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นหลัก หากอยากได้เสียงเพิ่มขึ้นพรรคก้าวไกลควรปรับท่าทีหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ตนคงพูดแทนพรรคก้าวไกลในเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะมีการสอบถามในรัฐสภาหลายครั้งถึงเรื่องดังกล่าวและทางพรรคก้าวไกลก็ไม่มีการแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้อย่างไร คงเป็นเรื่องที่พรรคก้าวไกลต้องคิดเอง
เมื่อถามย้ำว่า ในการพูดคุยกันของสองพรรคจะมีการหารือถึงการลดเพเดานเรื่อง ม.112 หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า คงจะคุยกันในหลายประเด็น เพราะการอภิปรายในรัฐสภาวันที่ 13 ก.ค. เรื่องหลักคือเรื่อง ม.112 ทางพรรคก้าวไกลคงรู้โจทย์แล้ว
เมื่อถามว่า การโหวตรอบ 2 มีกระแสข่าวว่า จะมีการเสนอชื่อพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แข่ง กังวลหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า จริงๆ เป็นเรื่องที่ 8 พรรคร่วม ต้องนำมาประเมินร่วมกัน เพราะขณะนี้ทราบว่า มีการเคลื่อนไหวอยู่ในการที่จะรวบรวมเสียง ฉะนั้นเรื่องนี้เราประมาทไม่ได้ เพราะเป็นประเด็นที่สามารถเกิดขึ้นได้และจะต้องมีการพูดคุยกันหลังจากที่พรรคก้าวไกล และพรรค พท.ได้มีการพูดคุยกันแล้ว รวมถึงต้องมีการนำไปหารือต่อพรรคร่วมทั้ง 8 พรรคต่อไป
เมื่อถามว่า การเสนอชื่อนายกฯรอบ 2 ในมุมของ 8 พรรคร่วมจะเป็นชื่อนายพิธา คนเดียวหรือไม่ หรือจะมีมุมอื่นร่วมด้วย นายประเสริฐ กล่าวว่า ขอให้ได้ข้อสรุปในวันนี้ก่อน
เมื่อถามย้ำว่า หากท้ายที่สุดแล้วการโหวตครั้งที่ 2 ไปต่อไม่ได้ มองว่าพรรค ก้าวไกลจะยอมถอยให้มีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯจากพรรคอื่นหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ขอให้ได้มีการพูดคุยกับพรรคก้าวไกล ก่อนว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป วันนี้อาจจะเร็วเกินไปที่จะให้ความเห็น