ESG เป็นแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน ซึ่งย่อมาจาก Environment, Social, และ Governance
ปัจจุบัน ESG ได้รับความนิยมจากนักลงทุนทั่วโลกในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นแนวคิดที่นักลงทุนใช้ประกอบการพิจารณาลงทุน โดยจะให้ความสำคัญกับการทำธุรกิจ ที่คำนึงถึงความรับผิดชอบ 3 ด้านหลัก คือ สิ่งแวดล้อม สังคม การกำกับดูแล
สำหรับ OR ซึ่งดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ “Empowering All toward Inclusive Growth” เติมเต็มโอกาส เพื่อทุกการเติบโตร่วมกัน โดยมีการตั้งเป้าหมาย ใน 3 มิติ สังคม (People – Living Community) สิ่งแวดล้อม (Planet – Healthy Environment) และผลการดำเนินการ (Performance – Economic Prosperity) อยู่แล้วนั้น ESG จึงไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับ OR แต่เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินธุรกิจของ OR อยู่แล้ว
โออาร์ ไม่ได้เป็นเพียงธุรกิจที่มุ่งเน้นการแสวงหาผลกำไร แต่ยังเป็นอีกเสาหลักของสังคมในยุคนี้ ที่ได้ไม่ได้มองว่าผู้คนเป็นแค่ส่วนหนึ่งของธุรกิจ แต่เป็นสิ่งสำคัญที่เราอยากให้เติบโตไปด้วยกัน ด้วยการดำเนินธุรกิจ 4 พันธกิจหลัก ได้แก่
- Seamless Mobility การสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจพลังงานแบบผสมผสานเพื่อการเคลื่อนที่อย่างไร้รอยต่อ
- All Lifestyles การสร้างทางเลือกสำหรับการดำเนินชีวิตแบบครบวงจร เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุกรูปแบบ
- Global Market การขยายฐานธุรกิจ เพื่อสร้างความสำเร็จและการยอมรับในตลาดโลก
- OR Innovation การแก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อยกระดับสู่นวัตกรรมใบแบบฉบับของ โออาร์
OR SDG = ESG in Action
OR เป็น 1 ในองค์กรต้นแบบ และเป็นองค์กรกลุ่มแรกในประเทศไทย ที่มีการตั้งเป้าหมายความสำเร็จครบทั้ง 3 มิติ สังคม (People – Living Community) สิ่งแวดล้อม (Planet – Healthy Environment) ผลการดำเนินการ (Performance – Economic Prosperity) และเพื่อบรรลุเป้าหมายทั้ง 3 มิติซึ่งสอดคล้องกับ ESG OR ได้กำหนดแนวทาง SDG (Small, Diversified, Green) ซึ่งเป็นคำที่ล้อมาจาก Sustainable Development Goals (SDGs) เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ โดยเป็นการตอบโจทย์เป้าหมายสร้างอนาคตที่ยั่งยืนระยะยาว ให้เกิดขึ้นได้ในระยะเวลาสั้น (Quick Win) ผ่านเป็นการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม
- S – SMALL สร้างโอกาสเพื่อคนตัวเล็ก ผ่านการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชน
- D – DIVERSIFIED โอกาสเพื่อการเติบโตทุกรูปแบบ ผ่านศักยภาพของ OR ที่จะเป็น Platform ในการกระจายโอกาสทางธุรกิจที่หลากหลายและครอบคลุม พร้อมเติบโตไปด้วยกัน
- G – GREEN โอกาสเพื่อสังคมสะอาด ผ่านการส่งเสริมธุรกิจทุกประเภทของ OR ให้เป็นธุรกิจสีเขียว เพื่อสนับสนุนให้เกิดสังคมคาร์บอนต่ำอย่างยั่งยืนและบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2573 ตลอดจนมุ่งสู่การบรรลุการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Carbon) ภายในปี 2593
ตัวอย่าง OR SDG การดำเนินการสร้าง “ความยั่งยืน” ให้เป็นจริง
S – SMALL โอกาสเพื่อคนตัวเล็ก
- โครงการไทยเด็ด โครงการที่ดำเนินการจากการคัดสรรสินค้าดีและเด่นในท้องถิ่นจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนและ SMEs มาวางจำหน่ายในมุมไทยเด็ดและร้านค้าไทยเด็ดในสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น เพื่อช่วยเหลือผู้คนในชุมชนและเพื่อชูอัตลักษณ์ที่สะท้อนถึงเรื่องราวและความภูมิใจของคนในพื้นที่ เพิ่มโอกาสในการส่งต่อสินค้าถึงมือผู้บริโภคทั่วประเทศไทยได้อย่างทั่วถึงผ่านการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไทยเด็ดจำนวนกว่า 250 รายการ ที่ผ่านการคัดเลือกและวางจำหน่ายในสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น กว่า 97 แห่ง
- โครงการส่งเสริมการผลิตพืชอินทรีย์ – ร่วมมือกับ GC (บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) และ โอ้กะจู๋ (บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด มอบพลาสติกคลุมโรงเรือนให้แก่เกษตรกร เพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรให้ดีขึ้น กว่า 65 โรงเรือน
- โครงการส่งเสริมการปลูกและผลิตกาแฟคุณภาพ ภายใต้ระบบอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ – พัฒนาพื้นที่เขาหัวโล้นจากการปลูกไร่ข้าวโพดในอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ พัฒนาความรู้กาแฟให้แก่ชุมชน และรับซื้อเมล็ดกาแฟในราคาที่เป็นธรรม
- Café Amazon for Chance ส่งเสิร่มความเท่าเทียมให้แก่ผู้ด้อยโอกาส ทั้งผู้พิการทางการได้ยิน ผู้พิการทางการเรียนรู้ ผู้สูงอายุ ผู้พิการทหารผ่านศึก คนไร้ที่พึ่ง รวมทั้งกลุ่มเปราะบางที่มีปัญหาความยากจน ให้มีรายได้จากการทำงานในร้าน Café Amazon for Chance ซึ่งเปิดให้บริการแล้วกว่า 122 สาขา และมีแผนจะขยายให้ครบ 500 สาขาภายในปี 2569
D – DIVERSIFIED โอกาสเพื่อการเติบโตทุกรูปแบบ
ที่ผ่านมา โออาร์ ได้ขยายการลงทุนสู่ธุรกิจต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายของสินค้าและบริการ รองรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ และเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น ร้านสะดวกซักภายใต้แบรนด์ Otteri Wash & Dry ที่ให้บริการเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าแบบอุตสาหกรรม, ร้าน Pacamara แบรนด์ร้านกาแฟ Specialty Coffee, โอ้กะจู๋ แบรนด์ร้านอาหารเพื่อสุขภาพ, ONO Sushi แบรนด์ร้านอาหารญี่ปุ่นที่เข้าถึงง่าย และ Kamu แบรนด์ชานมไข่มุกสัญชาติไทยที่สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคน
นอกจากนั้น ยังร่วมลงทุนและร่วมเป็นพันธมิตรกับสตาร์ตอัป และ SME ช่วยต่อยอดธุรกิจของผู้ประกอบการรายย่อย รวมทั้งใช้จุดเด่นของแต่ละฝ่ายมาช่วยเสริมความแข็งแกร่งซึ่งกันและกัน รวมไปถึง Start-Up ที่ โออาร์ ได้ให้โอกาส โดยเข้าร่วมลงทุนและให้คำปรึกษาแก่บริษัท Hackathon รวม 100 ราย ทั่วประเทศ ได้แก่ Pomelo แพลตฟอร์มและแบรนด์แฟชั่นชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, Carsome แพลตฟอร์มซื้อ-ขาย รถยนต์มือสองออนไลน์ และ freshket แพลตฟอร์มจำหน่ายวัตถุดิบครบวงจร เป็นต้น
G- GREEN โอกาสเพื่อสังคมสะอาด
- EV Station PluZ OR มุ่งเน้นการออกแบบระบบนิเวศสำหรับธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อตอบสนองต่อทิศทางการใช้พลังงานสะอาดผ่านการขยายสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV Station PluZ กว่า 7,000 หัวชาร์จ (DC Fast Charger) ภายในปี 2573 ซึ่งเปิดให้บริการทั้งในและนอกสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น โดยปัจจุบัน EV Station PluZ มีการขยายครบ 77 จังหวัดทั่วประเทศไทยแล้ว
- Café Amazon Circular Living การนำวัสดุใช้แล้วภายในร้าน Café Amazon และโรงคั่วกาแฟ มาผ่านกระบวนการ Upcycling ผลิตเป็นวัสดุตกแต่งร้าน และการนำขวด PET มาย่อยเป็นชิ้นเล็ก ๆ ผ่านกระบวนการทำเป็นเส้นใยฟูการตัดเย็บผ้ากันเอนของบาริสต้าและเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งร้าน นอกจากนี้ OR ยังผนึกกำลังกับ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ผ่านความร่วมมือด้านการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า อาทิ ร่วมกันต่อยอดขยายผลการบริหารจัดการพลาสติกที่ใช้แล้วแบบครบวงจร ด้วย Youเทิร์น Platform ของ GC และโครงการแยก แลก ยิ้ม ของ OR เพื่อนำไปเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลและผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มพร้อมช่วยลดปัญหาขยะพลาสติกควบคู่ไปกับลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นต้น
- Café Amazon Go Green การนำแนวคิดเรื่อง Bio Economy มาใช้ โดยเริ่มใช้ Supply Use รูปแบบ Bio-based ด้วยการใช้แก้วร้อน Bio แก้วเย็น PLA และหลอด Bio ห่อกระดาษ ซึ่งทั้งหมดผลิตจากพืชและย่อยสลายได้ทางชีวิภาพ รวมไปถึงการใช้ถุงกระดาษใส่เบเกอรี่แทนถุงพลาสติก
- โครงการ แยก แลก ยิ้ม ตั้งจุดแยกขยะในสถานีบริการ PTT Station เพื่อรวบรวมขยะที่สามารถ Reuse และ Recycle ได้ไปขาย และนำเงินที่ได้จากการขายขยะไปสร้างสาธารณประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นการมอบทุนการศึกษา อุปกรณ์ การเรียน อุปกรณ์กีฬา รวมถึงการมอบเครื่องมืออุปโภค และการสร้างสาธารณูปโภคให้กับชุมชนต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันจำนวนสถานีที่เข้าโครงการแยก แลก ยิ้ม มากกว่า 2,000 สถานี โดยตั้งแต่ปี 2559 ซึ่ง OR เริ่มโครงการฯ ปัจจุบันมีรายได้จากการขายขยะและนำไปสร้างประโยชน์ให้ชุมชนแล้วกว่า 28 ล้านบาท นอกจากนี้ OR ยังจัดโครงการอบรมการบริหารจัดการขยะ เพื่อเป็นเครื่องมือในการพัฒนาครูและและนักเรียนภายในพื้นที่ให้เกิดความเข้าใจและสร้างความตระหนักรู้ในการรักษาสิ่งแวดล้อม เกิดแนวคิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ในการจัดการขยะรอบตัว