วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWS"เสรี" เชื่อ "อุ๊งอิ๊ง" นำคณะ "เพื่อไทย" บุกไปขอขมา "ก้าวไกล" มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“เสรี” เชื่อ “อุ๊งอิ๊ง” นำคณะ “เพื่อไทย” บุกไปขอขมา “ก้าวไกล” มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง

“เสรี” เชื่อ “อุ๊งอิ๊ง” นำคณะ “เพื่อไทย” บุกไปขอขมา “ก้าวไกล” มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ข้องใจยกหูคุยกันก็ได้ไม่ต้องยกก๊วนกันไป ไม่ติดหากดึงพรรคส้มร่วมโหวตด้วย รอดูแคนดิเดตนายกฯเป็นใครกันแน่

วันที่ 10 ส.ค.2566 ที่รัฐสภา นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงกรณีที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นำแกนนำพรรคเพื่อไทย ขอขมาแกนนำพรรคก้าวไกลว่า เป็นเรื่องการแสดงออกทางการเมืองที่พรรคเพื่อไทยพยายามจะหาแนวร่วมให้ได้มากที่สุด ซึ่งส่วนตัวต้องดูต่อไปว่าจะรวมเสียงกันได้มากน้อยเพียงใด การที่แต่ละพรรคการเมืองจะตั้งนายกรัฐมนตรีได้เราก็ต้องได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย อยู่ที่ว่าแต่ละฝ่ายที่มีในแต่ละพรรค จะยืนอยู่บนหลักการของตนเองได้มากน้อยเพียงใด ข้อเสนอและการตัดสินใจมีการเปลี่ยนไปมาตลอดในตอนนี้ สว.ก็ต้องคอยดูว่าพรรคการเมืองแต่ละพรรครวมเสียงการเมืองให้ได้มากที่สุด ถ้าสามารถที่จะรวมเสียงของก้าวไกลได้ด้วย มันก็ไม่ต้องมาพึ่งพาอาศัยเสียงของ สว. ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละพรรคจะยืนหยัดในหลักการในจุดยืนของตัวเองอย่างไร

เมื่อถามว่าฝั่ง สว. ไม่ติดขัดเลยใช่หรือไม่ หากจะมีการรวมเสียงพรรคก้าวไกลมาให้พรรคเพื่อไทยในการโหวตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไป นายเสรี กล่าวว่า ตนไม่ขัดข้อง เพราะเป็นเรื่องที่แต่ละพรรคสามารถตกลงกันได้อยู่แล้ว และขึ้นอยู่กับว่าแต่ละพรรคจะแสดงออกกับประชาชน ไปบอกประชาชน ยืนในหลักการ และจะให้เหตุผลกับประชาชนว่าอย่างไร

“วันนึงร่วม วันนึงไม่ร่วม วันนี้กลับมาร่วม จะให้เหตุผลกับประชาชน หรือจะกลับไปกลับมาจนถึงวันลงคะแนนหรืออย่างไรก็ต้องมีความชัดเจนให้ประชาชนเขาเห็นก่อน ผมไม่รู้ว่าความตั้งใจของเพื่อไทยจะอยู่ระดับไหน แต่การแสดงออกทุกอย่างต้องมีเป้าหมาย และเป้าหมายที่จะทำก็คือต้องไม่ใช่ประโยชน์กับพรรคของตัวเอง ไม่ใช่อยู่ดีๆก็จะเดินไปขอโทษหรือขออภัยในสิ่งที่ผ่านมา ผมว่ามันแค่โทรศัพท์คุยกันก็ได้ แต่การที่จะเดินทางไปพูดคุยเพื่อต้องการจะให้ปรากฏ ผมว่ามันก็ต้องมีเป้าหมาย ไม่ใช่จู่ๆ จะไปขออภัยในความเสียใจ ผมว่าถ้าแค่นั้นมันอาจจะไม่เพียงพอ” นายเสรี กล่าว

เมื่อถามว่าจะเป็นการลับลวงพรางหรือไม่ อาจจะมีการเชิญมาร่วมรัฐบาลภายหลัง นายเสรี กล่าวว่า เรื่องที่จะดึงพรรคก้าวไกลนั้น ไม่จำเป็นต้องเดินทางกันไป เดี๋ยวนี้มีโซเชียลได้ สามารถโทรศัพท์ได้ สามารถทำการลับๆง่ายกว่า แต่ถึงขนาดลงทุนเดินไป ตนคิดว่ามันอาจจะมีอะไรมากกว่านั้น อันดับแรกเป็นการสร้างความมั่นใจจะให้เห็นว่าไม่จำเป็นต้องใช้เสียง สว. แล้ว เพราะมีเสียงพรรคก้าวไกลช่วยอยู่ ก็อาจจะเป็นได้

นายเสรี กล่าวว่า การรวมพรรคแต่ละพรรคพรรคที่มีจำนวนมาก 3 พรรค ได้แก่พรรคภูมิใจไทย พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย เป็นตัวแปร หากใน 3 พรรคการเมืองนี้เสียงยังแตกอยู่ ยังต่างฝัก ต่างฝ่าย ยืนในหลักการของตัวเองอยู่ มันก็จะต้องใช้เสียง สว. แต่หากสามารถเป็นหลักในการรวมกันได้ ก็อาจจะได้ 376 เสียง ทำให้การจัดตั้งรัฐบาลปรากฏคะแนนได้ชัดขึ้น

เมื่อถามว่าจะมีการโหวตให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า ก็แล้วแต่และพรรคการเมือง ยังมีเวลา มีอนาคต อาจจะเปลี่ยนอีกคนหนึ่ง ก็เกิดขึ้นบ่อยๆ อยู่แล้วอยู่ที่ข้อมูลที่จะปรากฏในสาธารณะว่าเป็นคนที่มีคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้าม หรือนโยบายแนวทางอะไรที่ทำให้สังคมยอมรับได้ หรือไม่ได้ ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลที่เสนอชื่อ

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่การพูดคุยกันระหว่างพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยเมื่อวานนี้ จะเป็นการปิดสวิตช์ สว. นายเสรี กล่าวว่า หากตกลงกันได้ก็ดี เพราะอย่างน้อยที่สุดมันก็เป็นเรื่องของ สส. ต้องไปจัดการกันเอง แล้ว สว. ก็พ้นภารกิจหน้าที่ตรงนี้ได้ไม่ยาก ขึ้นอยู่กับบรรดาพรรคการเมืองจะไปตัดสินใจที่จะรวมคะแนนกันอย่างไร ซึ่งมวลชนที่สนับสนุนแต่ละพรรคการเมืองก็เป็นเรื่องสำคัญ โดยพรรคก้าวไกลก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img