“ชลน่าน” ยันแบ่งเค้กรมต.ลงตัว รอเปิดชื่อหลังโปรดเกล้าฯ มั่นใจเสียงหนุน “เศรษฐา” พอ ไม่ต้องเตรียมแผนรองรับ ลั่นลาออกแน่ ขอให้จบกระบวนการตั้งรัฐบาลก่อน
วันที่ 21 ส.ค.2566 เวลา 13.40 น.ที่รัฐสภา พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล นำโดยพรรคเพื่อไทย ,พรรคภูมิใจไทย ,พรรคชาติไทยพัฒนา, พรรคประชาชาติ ,พรรคเพื่อไทรวมพลัง , พรรคชาติพัฒนากล้า,พรรคพลังประชารัฐ,พรรครวมไทยสร้างชาติ,พรรคเสรีรวมไทย,พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคท้องที่ไทย แถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาล
โดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้วหัวหน้าพรรค เพื่อไทย อ่านแถลงการณ์ว่า พรคเพื่อไทยและพรรคการเมืองรวม 11 พรรค จำนวน 314 เสียง ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล โดยไม่มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และไม่มีพรรคก้าวไกลเข้าร่วมรัฐบาล ทั้งนี้ ได้มีมติร่วมกันเสนอชื่อ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยต่อรัฐสภา เพื่อให้ความเห็นชอบเป็นนายกรัฐมนตรี ในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา
ในช่วงตอบคำถามประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญจะแก้ไขใหม่ทั้งฉบับ หรือมีการงดเว้นหมวด1และหมวด2 จะมีการตั้งส.ส.ร.หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ได้แถลงไปเจตจำนงค์ของพรรคร่วมจะเป็นกรแก้ไขเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยมีส.ส.ร.ส่วนหมวด1และหมวด2มีความชัดเจนตามที่ได้มีกรแถลงการณ์ไป ส่วนที่มาจากสสร.จะมาจากกรแต่งตั้งหรือไม่อย่างไรนั้นการพูดคุยเราพูดคุยในหลักการสำคัญส่วนสสร.จะมาจากช่องทางใดจำนวนเท่าไหร่จะต้องคุยรายละเอียดอีกทีซึ่งจะเป็นวาระแรกในการประชุมครม.นัดแรกตามที่ได้แถลงและเราจำทำงานคู่ขนานกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
เมื่อถามว่าการแบ่งโควตารัฐมนตรีที่แบ่งก่อนโหวตนายกฯนั้นจากที่เราได้แถลงการณ์ไปเราได้กำหนดสัดส่วนพรรคการเมืองไว้เป็นที่เรียบร้อยถึงจำนวนโควตาส่วยนรายละเอียดของตัวรัฐมนตรีซึ่งพรรคการเมืองแต่ละพรรคจะต้องไปดำเนินการในส่วนนั้นเราได้พูดคุยเป็นที่ตกลงแต่ไม่สามารถมานำเสนอตรงนี้ได้เพราะต้องผ่านกระบวนการกรนำรายชื่อขึ้นไปตรวจสอบคุณสมบัติก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯต่อไป
เมื่อถามว่า แสดงว่าตอนนี้คือรู้แล้วแต่ยังเปิดเผยไม่ได้ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นข้อตกลงที่เรามีความชัดเจนในเงื่อนไขที่เราทำงานร่วมกัน
เมื่อถามว่า ท่าทีส.ว.ขณะนี้เพียงพอที่จะโหวตนายเศรษฐาเป็นนายกฯใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขณะนี้เราได้ดำเนินการแสวงหาคะแนนและการตัดสินใจเพื่อลงคะแนนให้กับนายเศรษฐา คณะทำงานได้ดำเนินการเรื่องนี้อยู่ในขั้นที่เรามีความมั่นใจและพึงพอใจที่เราได้รับ มั่นใจว่าในวันพรุ่งนี้(22ส.ค.) จะไม่เป็นปัญหา
เมื่อถามถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เกี่ยวกับคุณสมบัตินายเศรษฐาขณะเดียวกันนายเศรษฐษก็ไม่ได้มาแสดงวิสัยทัศน์ นพ.ชลน่านกล่าวว่า การแสดงวิสัยทัศน์ของแคนดิเดตนายกฯเรายึดถือรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุมร่วมรัฐสภาเป็นหลัก ยืนยีนว่าการพิจารณาคัดเลือกแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทยผ่านการกลั่นกรอง มาอย่างถี่ถ้วนฉะนั้นเรามั่นใจเรื่องคุณสมบัติ
เมื่อถามว่าขณะนี้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยังไม่ลาออก หมายความว่ายังจับมือกับลุงใช่หรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของพรรคพลังประชารัฐ ทางพรรคพลังประชารัฐจะชี้แจงเรื่องนี้เอง
เมื่อถามว่ามีแผนแคนดิเดตนายกฯหรือไม่หากนายเศรษฐาไม่ผ่าน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ไม่มีแผนเรามั่นใจว่าผ่าน
ด้านนายประเสริฐ กล่าวว่า สำหรับพรรคใหม่ที่เรายังไม่นับร่วมนั้นเนื่องจากเพิ่งติดต่อร่วมรัฐบาลช่วงเช้าที่ผ่านมา ยังไม่ได้พูดคุยรายละเอียดจึงนับเสียงขณะนี้แค่ 314 เสียง เอา 2 พรรค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างแถลงข่าวมีทีมงานพรรคก้าวไกล ที่ร่วมฟังการแถลงตะโกนถามว่า “หมอชลน่านจะลาออกกี่โมง” ทั้งนี้แกนนำพรรคเพื่อไทยไม่ได้ตอบโต้ แต่นพ.ชลน่านได้ให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินออกจากวงแถลงว่า จำเป็นต้องเอา 2 พรรคนี้เข้ามาไม่เช่นนั้นจะจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้แน่นอน พอตั้งรัฐบาลไม่ได้ก็คาดการณ์ไม่ได้ก็อาจจะเป็นผลร้ายต่อประเทศได้ฉะนั้นเราจึงเล็งเห็นต้องทำให้มีรัฐบาลาจากการเลือกตั้งให้ได้ ขอให้ตัดประเด็นที่พรรคเพื่อไทยจะไปเป็นนั่งร้าน
นพ.ชลน่านย้ำว่า ผมตั้งใจที่จะรับผิดชอลเรื่องนี้ ไม่ปฏิเสธว่าจะไม่ลาออก แต่ภารกิจการเป็นหัวหน้าพรรคจะต้องจัดตั้งรัฐบาลให้เสร็จสิ้นก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นายประเสริฐกล่าวแนะนำพรรคร่วมรัฐบาลที่ร่วมแถลงข่าวนั้น พรรคใหม่ ได้มายืนอยู่ร่วมเวทีแถลงด้วย นอกจากนี้ระหว่างที่พรรคเพื่อไทยแถลงข่าว ได้มีทีมงานของพรรคก้าวไกล ตะโกนถามอยู่ด้านหลังว่า “นพ.ชลน่าน จะลาออกกี่โมง” ซึ่งพรรคเพื่อไทยไม่ได้ตอบโต้อะไร
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า พรรคเพื่อไทย (พท.)มี 141 เสียง พรรคภูมิใจไทย (ภท.) 71 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) 10 เสียง พรรคประชาชาติ (ปช.) 9 เสียง พรรคเพื่อไทรวมพลัง (พทล.) 2 เสียง พรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) 2 เสียง พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) 40 เสียง พรรครวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง พรรคเสรีรวมไทย (สร.) พรรคพลังสังคมใหม่ พรรคท้องที่ไทย พรรคละ 1 เสียง รวมเป็น 314 เสียง ทั้งนี้ในการโหวตนายกฯจะต้องใช้เสียงเกินกึ่งหนึ่งคือ 375 เสียง ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะต้องหาเสียงจากสว.อีก 61 เสียงจึงจะเพียงพอ ต่อการโหวตนายกฯของพรรคเพื่อไทย
