“ไพบูลย์” ชิงฟันธง การแก้ไขรธน.ที่เกิดขึ้นเป็น “โมฆะ” ไม่สามารถลงมติวาระ 3 ได้แล้ว เหตุรัฐสภาทำเกินคำวินิจฉัยของศาลรธน.แล้ว และต้องไปทำประชามติถามประชาชนจะแก้ไขหรือไม่แก้ไขเท่านั้น
เมื่อวันที่ 11 มี.ค.64 นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะผู้ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยอำนาจของรัฐสภาต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ กล่าวถึงคำวินิจฉัยในประเด็นดังกล่าว ที่ศาลมีมติข้างมากให้ทำประชามติก่อนว่า จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ว่า ตนยังงงในคำวินิจฉัยดังกล่าวและเชื่อว่าในวันที่ 17 มี.ค.นี้ ที่มีการประชุมร่วมรัฐสภา ที่ประชุมต้องถกเถียงในความหมายดังกล่าว ว่าจะเดินหน้าอย่างไรต่อไปกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ในความเห็นส่วนตัวเชื่อว่า รัฐสภาไม่สามารถลงมติได้
เมื่อถามว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าวเข้าข่ายก้าวก่ายอำนาจนิติบัญญัติหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันกับทุกองค์กร และเมื่อศาลรัฐธรรมนูญระบุให้ทำประชามติก่อน วันที่ 17 มี.ค.นี้ ต้องคุยในรัฐสภา เพื่อถามว่าจะตีความอย่างไร ดีไม่ดีอาจจะโหวตตกก่อน
นายไพบูลย์ กล่าวว่า ภายหลังจากที่ได้อ่านรายละเอียดและวิเคราะห์ประเด็นแล้วว่า ตนพอใจในคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่ยืนยันในอำนาจของรัฐสภาต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยไม่ใช่การยกอำนาจให้องค์กรใดดำเนินการ เช่น สภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) อย่างไรก็ตามในการลงมติวาระ 3 นั้น เชื่อว่าไม่สามารถทำได้ เพราะรัฐสภาได้ทำเกินไปกว่าที่คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญระบุ
เมื่อถามย้ำว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เกิดขึ้นถือว่า “โมฆะ” ใช่หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า “ใช่ เพราะต้องไปถามประชาชนก่อน และถามประชาชนได้เพียงว่า ประสงค์จะให้แก้ทั้งฉบับหรือไม่ โดยไม่สามารถนำเนื้อหาของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พ้นวาระ 2 ไปถามพ่วงประชามติได้”