การจัดตั้ง “รัฐบาลเศรษฐา 1” ถึงตอนนี้ คืบหน้าอย่างรวดเร็ว บางพรรคการเมือง ทยอยส่งรายชื่อบุคคลที่จะเสนอให้เป็นรัฐมนตรีกับ พรรคเพื่อไทย ไปแล้ว และคาดว่าจะเริ่มส่งรายชื่อไปให้สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ในการเป็นรัฐมนตรีตั้งแต่วันจันทร์นี้ 28 ส.ค. ทำให้คาดว่า อาจเป็นปลายสัปดาห์นี้ ก็น่าจะมีการประกาศรายชื่อ “ครม.เศรษฐา 1” ได้แล้ว
หลังตั้งรัฐบาลเสร็จ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ยังมีภารกิจสำคัญก็คือ การต้องประชุมกับรัฐมนตรี-แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อทำร่างนโยบายรัฐบาลที่จะแถลงต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภา ที่คาดว่าคงไม่น่าเกินสัปดาห์ที่สามของเดือนก.ย.66 จากนั้น พอแถลงเสร็จ ก็เรียกประชุมครม.-บริหารราชการแผ่นดินได้ทันที
ซึ่งหนึ่งในงานสำคัญที่รอ “นายกฯนิด-เศรษฐา” อยู่ก็คือ การเร่งแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับบิ๊กๆ พวกปลัดกระทรวง-อธิบดี ในสายพลเรือน ให้เสร็จโดยเร็ว เพราะวงรอบของข้าราชการก็จะสิ้นสุด 30 ก.ย.นี้แล้ว ทำให้คาดว่า ประชุมครม.นัดแรกหรือนัดที่สอง บรรดารัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ คงนำรายชื่อ “บิ๊กข้าราชการ” ในกระทรวงของตัวเอง ชงให้ที่ประชุมครม.เห็นชอบโดยเร็ว
เว้นแต่บางกระทรวง ที่รัฐมนตรีใหม่เข้าไป แล้วต้องการจัดทัพใหม่ อาจมีการ “ล้างบาง-เขย่าเก้าอี้” กันหลายกรม ก็อาจใช้เวลาพอสมควรในการทำโผโยกย้าย แต่ก็คาดว่ารัฐมนตรีแต่ละคน ก็คงเร่งทำโผให้จบเร็วที่สุด โดยเฉพาะกระทรวงที่มีระดับ ปลัดกระทรวงเกษียณอายุราชการ รวมถึง อธิบดีในกรมใหญ่ๆ เพื่อไม่ให้การทำงานสะดุดหยุดลง
ทั้งนี้ในส่วนของข้าราชการพลเรือน ระดับซี 11 ที่จะว่างในปีนี้ เพราะคนที่นั่งอยู่ตอนนี้เกษียณ ต้องตั้งคนใหม่ไปแทน ก็มีเช่น ปลัดกระทรวงการคลัง-ปลัดกระทรวงพลังงาน-ปลัดกระทรวงแรงงาน-ปลัดกระทรวงอุดมศึกษาฯ-เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ รวมถึงต้องดูว่า รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯคนใหม่ จะต่ออาวุให้กับ “จตุพร บุรุษพัฒน์” ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯคนปัจจุบัน ที่อยู่มาแล้วสี่ปีหรือไม่ เป็นต้น
ขณะที่ระดับซี 10 หรืออธิบดี ที่ว่าง ต้องตั้งคนไปแทนก็มีกรมที่สำคัญๆ อาทิเช่น กรมราชทัณฑ์ ซึ่งจะต้องเป็นคนที่มีภารกิจสำคัญคือการดูแล “นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร” ที่ยังไม่รู้ว่าจะนอนอยู่รพ.ตำรวจนานแค่ไหน รวมถึงการทำเรื่องขอ พระราชทานอภัยโทษ ให้กับ “ทักษิณ ชินวัตร” เรียกได้ว่า คนที่จะมาเป็น อธิบดีกรมราชทัณฑ์คนใหม่ แทน “อายุตม์ สินธพพันธุ์” เตรียมรับเผือกร้อนในมือได้เลย
และมีโอกาสไม่น้อยที่จะโดน “ฝ่ายตรงข้ามทักษิณ” ร้องเรียนหรือร้องเอาผิดกับคณะกรรมการป.ป.ช.ในข้อหา ละเว้นการปฏิบัตหน้าที่ฯ หากพบว่า “ทักษิณ” ได้รับการดูแลเป็นกรณีพิเศษ เป็นนักโทษซุปเปอร์วีไอพี แบบตอนนี้ เรียกได้ว่า คนมาเป็นอธิบดีกรมราชทัณฑ์คนใหม่ แม้ดีใจได้ตำแหน่งใหญ่ แต่ก็ต้องทำใจ อาจเสี่ยงโดนร้องป.ป.ช.เสี่ยงคุก-เสี่ยงตะราง ได้เช่นกัน หากสังคมเห็นชัด มีการช่วยเหลือทักษิณ มากเกินกว่านักโทษปกติทั่วไป
ส่วนอธิบดีกรมอื่นๆ ที่จะต้องตั้งในปีนี้ ก็มีเช่น อธิบดีกรมการปกครอง-อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย-อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์-อธิบดีกรมชลประทาน-อธิบดีกรมท่าอากาศยาน-อธิบดีกรมประมง รวมถึง การแต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าฯทั่วประเทศ ประมาณ 25-30 ตำแหน่ง เป็นต้น
ที่ถึงตอนนี้ก็ชัดเจนแล้วว่า ครม.รักษาการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไม่มีการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงอะไรทั้งสิ้น หลังพล.อ.ประยุทธ์วางบรรทัดฐานไว้แล้วด้วยการไม่เสนอแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ ในที่ประชุม ก.ตร.เมื่อวันศุกร์ที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา
และคาดว่าการประชุมครม.อังคารนี้ 29 ส.ค.น่าจะเป็นการประชุมครม.นัดสุดท้าย ที่จะไม่มีการระเบียบวาระสำคัญอะไร นอกเหนือจากการกล่าวอำลา ของพล.อ.ประยุทธ์ ต่อที่ประชุมครม. พร้อมกับให้กำลังใจและอวยพรซึ่งกันและกัน ของรัฐมนตรีในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ที่บางคนก็อยู่กันมาร่วมเก้าปี เช่น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ-วิษณุ เครืองาม-พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา-ดอน ปรมัตถ์วินัย
อย่างไรก็ตาม แม้พล.อ.ประยุทธ์จะไม่เสนอแต่งตั้งผบ.ตร.คนใหม่ แทน “พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์” แต่ดูทรงแล้ว ยังไง หากสุดท้าย “เศรษฐา” จะคุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติด้วยตัวเองแบบพล.อ.ประยุทธ์ หรือจะให้รองนายกฯ คนใดคนหนึ่งคุมตำรวจ แต่แวดวงสีกากี ก็ยังเชื่อว่า ยังไง “ผบ.ตร.คนใหม่” ก็ยังน่าจะชื่อ “บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล” รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่เหลืออายุราชการอีกหนึ่งปี ซึ่งทุกคนรู้กันดีว่า แบ็คอัพไม่ธรรมดา โดยมีกระแสข่าวว่า จะมีการนัดประชุมก.ตร.เพื่อแต่งตั้งผบ.ตร.คนใหม่ในช่วงประมาณวันที่ 22-23 ก.ย.ที่ถึงตอนนั้น “รัฐบาลเศรษฐา” ก็เข้าปฏิบัติหน้าที่แล้ว
และเมื่อ “พล.ต.อ.ต่อศักดิ์” สไลด์ขึ้นไปเป็นผบ.ตร. ก็ทำให้จะต้องมีการตั้ง รองผบ.ตร.อัตรา “พล.ต.อ.” ไปแทน รวมถึงแทนรองผบ.ตร.อีกสองคนที่เกษียณอายุราชการ ซึ่งข่าวว่า จะเป็นสามชื่อนี้ไม่พลิกโผ คือ พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง-พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช-พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ที่ขึ้นเป็นรองผบ.ตร.ตามลำดับอาวุโส
ส่วน ผช.ผบ.ตร. คาดว่าจะมีชื่อของ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจที่กำลังรับหน้าเสื่อเรื่องทักษิณนอนโรงพยาบาลตำรวจเวลานี้ ส่วนคนอื่นๆ ก็มี พล.ต.ท.ภาคภูมิพิพัฒน์ สัจจพันธุ์ ผบช.สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง-พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7-พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 เป็นต้น
ขณะที่ระดับผู้บัญชาการพบว่า หน่วยหลักๆ หลายคนยังนั่งอยู่ที่เดิม ไม่โดนปรับเปลี่ยนโยกย้าย โดยเฉพาะสองเก้าอี้ใหญ่คือ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ท่ามกลงข่าวว่า ฝ่ายเพื่อไทยโอเคด้วย ไม่มีปัญหา
แต่ที่ เพื่อไทย เข้ามาไม่ทัน เพราะข่าวว่า เรียบร้อยไปแล้วก็คือ “โผทหาร” หลังมีข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะรมว.กลาโหม และบอร์ดกลั่นกรองฯ โผทหารของสภากลาโหม ได้เห็นชอบ รายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายบิ๊กทหาร ในการประชุมสภากลาโหมไปเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา
ข่าวแจ้งว่า ตำแหน่งหลักๆ มีดังนี้ กองบัญชาการกองทัพไทย พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี เตรียมทหารรุ่น 24 (ตท.24) เป็น ผบ.ทหารสูงสุด
ส่วน ผบ.ทบ. ไม่พลิกโผ เป็น พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ (ตท.23) ที่ขยับจากรอง ผบ.ทบ. ส่วนคู่ชิง พล.อ.สุขสรรค์ หนองบัวล่าง (ตท.23) ผู้ช่วย ผบ.ทบ. ขึ้นเป็น รอง ผบ.ทบ., พล.ต.พนา แคล้วปลอดทุกข์ (ตท.26) แม่ทัพภาคที่ 1 เป็น ผู้ช่วย ผบ.ทบ.
ขณะที่ กองทัพอากาศ คาดว่าคือ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล (ตท.24) ผู้ช่วย ผบ.ทอ. หลังพล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผบ.ทอ. ชงชื่อเสนอ แต่ข่าวหลายกระแสก็บอกว่า เป็น พล.อ.อ.ชานนท์ มุ่งธัญญา รอง ผบ.ทอ. ก็ต้องดูว่าจะมีพลิกโผ จนล็อกถล่มดอนเมือง-ทัพฟ้า หรือไม่
กระนั้น ข่าวว่า “เศรษฐา-เพื่อไทย” ไม่ติดใจ ที่พล.อ.ประยุทธ์ ไม่รอรัฐบาลใหม่-รมว.กลาโหมคนใหม่ เข้ามาจัดโผทหาร เพราะคงมองว่าคนที่จะขึ้นมา ไม่ได้มีภาพเด่นชัดว่า ไม่เอารัฐบาลเพื่อไทย
อีกทั้ง การที่ “เศรษฐา” ได้รับเสียงโหวต ให้เป็นนายกฯ โดยมีสว.สายพล.อ.ประยุทธ์เทเสียงให้ท่วมท้น แม้แต่กับ พล.ฮ.ปรีชา จันทร์โอชา สว.-น้องชายพล.อ.ประยุทธ์ จนทำให้ “เศรษฐา” เข้าป้ายได้เป็นนายกฯ จึงทำให้ “เพื่อไทย-เศรษฐา” ไม่ติดใจอะไรที่ “บิ๊กตู่” จะทิ้งทวน ขอทำโผทหาร ก่อนลงจากเก้าอี้
รวมถึงการให้ “กระทรวงพลังงาน” กับ พรรครวมไทยสร้างชาติ แบบง่ายๆ ทั้งหมดเกิดขึ้นท่ามกลางกระแสข่าว นี้คือ “ดีลลับ-ข้อตกลง” ระหว่าง “ฝ่ายพล.อ.ประยุทธ์-รวมไทยสร้างชาติ” กับ “เศรษฐา-เพื่อไทย” ที่วิน-วินด้วยกันทั้งคู่
………………………………………..
คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง
โดย “พระจันทร์เสี้ยว”