วันจันทร์, พฤศจิกายน 25, 2024
spot_img
หน้าแรกCOLUMNISTSปี 65 ลุ้นเก้าอี้“รองผบ.ตร.” ได้เวลา“บิ๊กโจ๊ก”คืนบท“สีกากี”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ปี 65 ลุ้นเก้าอี้“รองผบ.ตร.” ได้เวลา“บิ๊กโจ๊ก”คืนบท“สีกากี”

แม้จะมีคำพูดในเชิงปฎิเสธจาก “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ภายหลังการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 3/2564 และการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ครั้งที่ 2/2564 ที่มี “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานระบุว่า กรณีที่ประชุม ก.ตร. กำหนดตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ 9) 1 ตำแหน่ง ทำหน้าที่บริหารด้านยุทธศาสตร์ เทียบเท่าผู้ช่วย ผบ.ตร.

โดยที่ประชุม ก.ต.ช. อนุมัติอัตราตามที่ ก.ตร.เสนอ ไม่ใช้เพื่อรองรับ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โอนกลับมาเป็นข้าราชการตำรวจ ขออย่าเพิ่งพูดว่าเป็นอย่างนั้น มันเร็วไป

แต่เป็นนโยบายที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) มองว่าจำเป็นต้องมีตำแหน่งนี้ สำหรับการดูเรื่องยุทธศาสตร์ชาติให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล โดยรัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์ชาติมา ตรงนี้ ตร.มองว่า ต้องมีใครสักคนทำหน้าที่ดูเรื่องยุทธศาสตร์ ศึกษา และให้คำปรึกษา จึงกำหนดตำแหน่งดังกล่าวขึ้นมา

“ตำแหน่งดังกล่าวเป็นตำแหน่งเฉพาะตัว ส่วนรายละเอียดทางตร.ก็จะไปกำหนดอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะมีการแต่งตั้งในวาระเม.ย. หรือไม่นั้น อะไรที่ยังไม่ถึงก็ขอไม่พูด วันนี้พูดได้เท่านี้” พล.ต.อ.สุวัฒน์กล่าว

พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.

แต่ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือมีปัญหาอะไรมาเป็นอุปสรรค ในการประชุมก.ตร. วันที่ 17 มี.ค. คาดว่าจะมีการแต่งตั้ง “พล.ต.ท.สุรเชษฐ์” เข้ามารับตำแหน่งตำแหน่ง ที่ปรึกษา (สบ 9) โดยขอบเขตและภารกิจเบื้องต้นคือ นำยุทธศาสตร์ชาติมาปรับปรุงทำงานของ ตร. เพื่อทำให้การทำงานสอดประสานเป็นเนื้อเดียวกัน  เนื่องจากที่ผ่านมา องค์กรสีกากี ถูกวิจารณ์จากหลายฝ่าย และเรียกร้องให้มีการปฎิรูปอย่างต่อเนื่อง ในฐานะที่ทำงานใกล้ชิดกับประชาชน

อย่าลืมว่า ช่วงที่ผ่านมา ก่อน “บิ๊กโจ๊ก” จะถูกโยกย้ายพ้นจากตร. ไปทำงานในตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มีสถานะเป็น “ข้าราชการพลเรือน” เคยเป็นทีมงาน “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ช่วยดูเรื่องการแก้ไขปัญหาเรื่องหนี้นอกระบบ และการปราบปรามกระทำความผิดในโลกออน์ไลน์ ซึ่งต้องอาศัยทีมงาน ที่มีความรู้ความรู้ความสามารถ และความกล้าหาญในการชนปัญหา ซึ่ง “บิ๊กโจ๊ก” ทำงานได้เป็นอย่างดี ช่วยสร้างคะแนนนิยมให้รัฐบาลได้มากเลยทีเดียว

แต่พอพล.ต.ท.สุรเชษฐ์พ้นจากตำแหน่งรั้วองค์กรสีกากี การเดินหน้าช่วยประชาชน จากการถูกฉ้อโกงในรูปแบบต่างๆ และการปราบปรามพวกกระทำผิดบนโลกออนไลน์ ก็เงียบหายไปในทันที ไม่เปรี้ยงปร้างเหมือนในสมัย “บิ๊กโจ๊ก” รับตำแหน่งเป็นผบช.สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.)

ขณะที่ตร. ก็ต้องเจอมรสุมถาโถมหลายเรื่อง ทั้งปัญหาบ่อนการพนัน การลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย  ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญทำให้โควิด-19 กลับมาระบาดรอบ 2 การรับมือม็อบสามนิ้วและพวกป่วนเมือง ซึ่งหลายเรื่องกลายเป็นปัญหาถาโถม ซัดซาดเข้าใส่หัวหน้ารัฐบาล ซึ่งรับบท “ประธานก.ตร.” และถูกนำไปโจมตีในระหว่างการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ

cr / FB นิธิธร จินตกานนท์

จนทำให้มีข่าว ผู้มีอำนาจบนตึกไทยคู่ฟ้าปรารถกับคนใกล้ชิดว่า “ไอ้โจ๊กมันทำงานตายแทนกูได้” ซึ่งประโยคดังกล่าง น่าจะมีนัยยะ สะท้อนให้เห็นว่า หลังจาก “พล.ต.ท.สุรเชษฐ์” ไม่มีบทบาทในตร. จะหานายตำรวจคนไหนมาคอยรับหน้าเสื่อ ออกโรงชนกับปัญหาต่างๆ ยอมเจ็บแทนรัฐบาล เหมือนอย่างที่ “บิ๊กโจ๊ก” ออกหน้าชนแทนฝ่ายบริหาร ต้องบอกว่า หายากจริงๆ จนทำให้ผู้อำนาจถึงกับออกปากชื่นชม นายตำรวจคนดัง เจ้าของฉายา “โจ๊กหวานเจี๊ยบ” ในระหว่างเข้าไปมีบทบาททำงานร่วมกับฝ่ายบริหาร 

อันที่จริงเคยมีข่าว ในช่วง “บิ๊กโจ๊ก” ทำงานอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล เคยมีผู้ใหญ่ในรัฐบาลทาบทาม ให้ “พล.ต.ท.สุรเชษฐ์” เข้าไปรับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยฯ ทำงานอยู่ในกระทรวงน้องใหม่ แต่นายตำรวจคนดังได้ปฎิเสธ ไม่ขอรับตำแหน่งในครม. โดยยืนยันว่า ต้องการกลับเข้าสวมเครื่องแบบสีกากี รับราชการใน ตร.ตามเดิม ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่า ผู้มีอำนาจในรัฐบาลรับรู้มาตลอดว่า “บิ๊กโจ๊ก” ต้องการกลับเข้ารับราชการเป็นนายตำรวจอีกครั้ง ดังนั้นเมื่อมีช่องทางเกิดขึ้น จึงมีแรงสนับสนุน ให้หวนคืนวงการสีกากีอย่างเต็มที่  

แม้เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 2563 “พล.ต.ท.สุรเชษฐ์” ได้มอบหมาย “นายสิทธิ งามลำยวง” ทนายความส่วนตัว ยื่นฟ้อง “พล.อ.ประยุทธ์” ต่อศาลปกครอง กรณีถูกโอนย้ายจากตำรวจมาเป็นที่ปรึกษาประจำสำนักนายกฯ เวลาผ่านมาเกือบปีครึ่ง ยังไม่มีการสอบสวนเอาผิดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้เสียโอกาสทำหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ถือเป็นคำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ขณะที่ “หัวหน้ารัฐบาล” ยืนยันให้เป็นเรื่องของกฎหมาย ตรวจสอบแล้วถึงดำเนินการ จากนั้น 2 วันถัดมา ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบ ซึ่งบางคนวิเคราะห์ว่า  การฟ้องร้องนายกฯครั้งนี้ “บิ๊กโจ๊ก” เพียงแค่ต้องการยืนยันว่า เป็นการหาช่องทางกฎหมาย กลับเข้าไปรับราชการในตร. เพียงเท่านั้น ไม่ได้ต้องการฟ้องร้องหัวหน้ารัฐบาลให้เกิดความเสียหาย กระทบกับการบริหารราชการแผ่นดิน ขณะที่ “พล.อ.ประยุทธ์” ก็ต้องการหาช่องทางนำนายตำรวจเจ้าของฉายา “โจ๊กหวานเจี๊ยบ” กลับคืนสู่วงการตร. อยู่แล้ว เพื่อให้เข้ามาช่วยฝ่ายบริหาร

หรือถ้าย้อนในช่วง“บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.(ขณะนั้น) ลงนามในคำสั่งตร.ที่ 232/2562 ให้ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) อาคาร 1 ชั้น 20 ตร. เมื่อวันที่ 5 เม.ย. 2562 โดยขาดจากปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม นอกจากไม่มีการเปิดเผยถึงสาเหตุถูกย้ายแบบฟ้าผ่า ที่น่าสังเกตุคือ หลังจากนั้นก็ไม่มีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนความผิดใดๆ

จากนั้น เมื่อวันที่ 9 เม.ย.2562 พล.อ.ประยุทธ์มีคำสั่งให้ “พล.ต.ท.สุรเชษฐ์” ขาดจากตำแหน่งหน้าที่และอัตราเงินเดือนเดิม ในตร. และให้โอนไปเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นักบริหารระดับสูง)

มีการคาดเดากันว่า ภายหลังฟ้าหลังฝน หนทางกลับเข้ารับราชการ เป็นตร. น่าจะไร้ขวากหนาม โดยคาดหมายกันว่า หลังรับตำแหน่งที่ปรึกษา (สบ 9) ในเดือนเม.ย.64 คาดว่า ในเดือนต.ค.64 “บิ๊กโจ๊ก” จะได้รับการแต่งตั้งเป็น “ผช.ผบ.ตร.” อย่างเป็นทางการ เพราะในช่วงทำงานอยู่ที่สำนักนายกฯ 2 ปี ก็ต้องนับอายุการรับราชการรวมไปด้วย

อย่างไรก็ตาม นอกจากแกนนำสำคัญในรัฐบาลจะสนับสนุน “บิ๊กโจ๊ก” ยังมีข่าว “บุคคลสำคัญ” ซึ่งนายตำรวจคนดัง คอยดูและรับใช้อย่างใกล้ชิดมาเป็นเวลายาวนาน ก็ยังช่วยเป็น กองหนุน และ ออกโรงเชียร์ เต็มที่ รวมทั้งคุณสมบัติการอ่อนน้อมถ่อมตน เดินสายทำความเข้าใจกับ ผู้ใหญ่ที่มีสถานะสำคัญ ยิ่งมีส่วนทำให้ “ว่าที่ ที่ปรึกษาสบ. 9” ได้กลับมาทำงานในตร.เร็วยิ่งขึ้น

จากนี้ไปต้องจับตาดูว่า ในเดือน ต.ค. 65 “พล.ต.ท.สุรเชษฐ์” จะขยับขึ้นเป็น “รองผบ.ตร.” ครองยศ “พล.ต.อ.” หรือไม่ ซึ่งถ้าเป็นไปตามความคาดหมาย นั่นหมายความวา “บิ๊กโจ๊ก” จะมีโอกาสลุ้นตำแหน่ง แม่ทัพสากีกากี ไปถึง 8 ปีเต็มๆ

แต่อย่าลืมว่า ชะตาชีวิตมนุษย์ บางที่เราเองก็ไม่สามารถกำหนดได้ ดั่งเช่นสำนวนที่ว่า “คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิต” หลายครั้งเราเลยได้เห็น ปรากฎการณ์หลายอย่าง ที่เราคาดไม่ถึง!!!

………………………….

คอลัมน์ : ล้วง-ลับ-ลึก

โดย .. “แมวสีขาว”

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img