นายกฯ เผยคุยภาคธุรกิจ ‘Goldman sachs -Estee Lauder-Microsoft-google’สนใจลงทุนในไทย เตรียมคุยสานต่อให้เป็นจริงในการประชุมเอเปค ที่ซานฟรานซิสโก
เมื่อวันที่ 22 ก.ย.66 ที่โรงแรม St. Regis นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เปิดเผยถึงภารกิจตลอดทั้งวัน ว่ามีภารกิจแน่นทั้งวัน ตั้งแต่เวลา 07.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ) เริ่มตั้งแต่วิดีโอคอลไปยังประเทศไทยพูดคุยกับ Asian Business Council ซึ่งเป็นการรวมตัวของนักธุรกิจอาเซียน กว่า 80 คน ในจำนวนนี้มีนักธุรกิจไทย 10 คน เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่มาประชุมที่ประเทศไทย แต่เนื่องจากติดภารกิจที่นิวยอร์ก ตนจึงได้วิดีโอคอลไป ซึ่งได้มีการพูดคุยถึงภารกิจของรัฐบาลใหม่ว่ามีอะไรบ้าง และเปิดให้ถามตอบ ซึ่งมีนักธุรกิจทั้งของไทยและต่างชาติ สอบถามมาหลายเรื่อง ทั้งการท่องเที่ยวและกระจายรายได้ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี
นายกฯ กล่าวต่อว่า ซึ่งตนมีเพื่อนเป็น ผู้บริหารระดับสูง ลำดับ 2 ของ Goldman Sachs ซึ่งเป็นบริษัทการเงินระดับโลก หลังวิดีโอคอลกับ Asian Business Council แล้วจึงมาพูดคุยและรับประทานอาหารเช้าร่วมกัน ซึ่ง Goldman Sachs เป็นบริษัทการเงินขนาดใหญ่และมีลูกค้าทั่วโลก มีสำนักงานตั้งอยู่ฮ่องกงและสิงคโปร์ ทั้งนี้ ตนได้บอกไปว่าประเทศไทยเปิดกว้างสำหรับธุรกิจและเชื้อเชิญให้นักลงทุนเข้ามา จึงต้องการให้สถาบันการเงินระหว่างประเทศได้เชื่อมต่อในทุกมิติ ขณะที่นักลงทุนไทยที่จะไปต่างประเทศ ก็ต้องมีสถาบันการเงินเช่นกัน โดยทาง Goldman sachs ก็พร้อมและดูว่าจะมีโอกาสแค่ไหนในการมาตั้งสถาบันการเงินในไทย
นายกฯ กล่าวอีกว่า จากนั้นนายกฯพูดคุยกับผู้บริหารของบริษัทเครื่องสำอาง Estee Lauder ซึ่งอายุ 90 กว่าปีแล้วเพราะให้ความสำคัญกับเรื่องมิตรภาพที่มีความสัมพันธ์กับคนไทยไม่ว่าจะเป็นครอบครัวตระกูลจิราธิวัฒน์ และครอบครัวนายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี ซึ่งให้ความสัมพันธ์กับมิตรภาพที่มีมายาวนาน ซึ่งตนอยากให้บริษัทเครื่องสำอาง Estee Lauder มาลงทุนในไทย อยากให้มีการจ้างงาน จึงได้มีการเชื้อเชิญมาลงทุนในไทย
นายกฯ กล่าวต่อว่า ขณะที่ทาง Estee Lauder มีการสอบถามว่าสาหร่ายที่ไทยเป็นอย่างไร เพราะถือเป็นวัตถุดิบสำคัญในการทำเครื่องสำอางค์ ตนจึงให้การบ้านกับทีมงานไปพิจารณาเรื่องของสาหร่ายที่อาจทำเป็นฟาร์มสาหร่ายขึ้นมา ซึ่งเรื่องของวัตถุดิบ เป็นเรื่องสำคัญ ที่เขาจะพิจารณาในการตั้งโรงงาน ซึ่งถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี
นายกฯ กล่าวด้วยว่า จากนั้นได้พูดกับไมโครซอฟท์ ซึ่งได้ประโยชน์มาก เพราะเขาสนใจมาลงทุนหลายเรื่อง ซึ่งเขาจะลงทุนครั้งใหญ่ จึงมีการนัดหมายอีกครั้ง ในช่วงวันที่ 13 พ.ย. 2566 ที่ประเทศไทยจะต้องไปร่วมประชุมเอเปค 2566 ที่ซานฟรานซิสโก ซึ่งตนได้ให้การบ้านและกรอบเวลาที่ชัดเจนกับทีมว่าจะทำอะไรกันบ้าง เพื่อให้การลงทุนชัดเจนเนื่องจากอยากให้การลงทุนเกิดขึ้นจริงๆ ขณะที่ในช่วงบ่ายได้พบกับกูเกิ้ล ซึ่งผู้บริหารระดับสูงอันดับ 2 ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บริหารด้านการลงทุนมาพูดคุยด้วยตนเอง สำหรับกูเกิ้ลมีสำนักงานใหญ่ในประไทยด้วย และรู้จักกันดี เพราะตนเคยได้รับเชิญไปพูดเรื่องความเสมอภาคเท่าเทียม จึงมีความผูกพันกันมา ซึ่งกูเกิ้ลเองก็มีแผนลงทุนในไทย ช่วงเดินทางประชุมเอเปคก็จะมีการพูดคุยและสานต่อเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม ต่อมานายเศรษฐา ได้พบหารือกับผู้บริหารบริษัทกูเกิ้ลทั้งสองฝ่ายได้หารือการจัดทำ Cloud first ในไทย โดยนายกรัฐมนตรีชื่นชม Google ซึ่งมีงานวิจัยระบุว่า กูเกิ้ลสามารถเพิ่ม ประสิทธิภาพในการทำงานได้.