คณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากการกระทำของกองกำลังนอกประเทศ ครอบคลุม 7 จังหวัดชายแดน พร้อมปรับระยะเวลาจ่ายเงินให้เสร็จภายใน 30 วัน
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 23 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสิริงพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดน ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และตราด อันเนื่องมาจากการกระทำของกองกำลังจากนอกประเทศ ปี 2568
ทั้งนี้ เพื่อเป็นค่าเยียวยาความเดือดร้อนของประชาชน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ครม.อนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณในการดำเนินการจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2569 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพิ่มเติม จำนวน 467,128 ครัวเรือน วงเงิน 2,335,640,000 บาท โดยให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เป็นหน่วยรับงบประมาณและจ่ายเงินช่วยเหลือผ่านธนาคารออมสิน พร้อมให้เบิกจ่ายในรูปแบบเงินอุดหนุนทั่วไป และสามารถถัวจ่ายข้ามจังหวัดได้
สำหรับระยะเวลาการจ่ายเงินช่วยเหลือ ปรับจากเดิม 90 วัน เป็น ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม
นายสิริงพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ที่จะได้รับความช่วยเหลือ ปรับจากเดิมที่อพยพตั้งแต่ 8 วันขึ้นไป เป็นประชาชนที่อาศัยประจำในพื้นที่ที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน อพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวหรือพื้นที่ปลอดภัย และมีหนังสือรับรองผู้ประสบภัยจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตาม พ.ร.บ. ปภ. 2550 มาตรา 30
นอกจากนี้ ผู้ประสบภัยต้องได้รับการรับรองตามหลักเกณฑ์จากผู้นำชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน หรือกำนันคนใดคนหนึ่ง และผ่านการตรวจสอบยืนยันข้อมูลจากคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอำเภอ (ก.ช.ภ.อ.) และคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัด (ก.ช.ภ.จ.)



















