ตลาดหุ้นไทยปิดร่วง 15.23 จุด สอดรับตลาดหุ้นเอเชียที่แดงยกแผง กังวลวิกฤตภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน ผสมโรงเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ ขณะที่หุ้นบิ๊กแคปถูกเทขายหนัก ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวพรุ่งนี้ 1,490-1,540 จุด
นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล. กรุงศรีพัฒนสิน เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทย ปิดที่ระดับ 1,507.36 จุด ลบ 15.23 จุด หรือ -1% โดยระหว่างวันดัชนีเคลื่อนไหวสูงสุด 1,524.97 จุด ต่ำสุด 1,507.36 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 42,194.46 ล้านบาทว่า
ตลาดหุ้นไทยปิดร่วงสอดคล้องกับประเทศในฝั่งเอเชีย ทั้ง ฮ่องกงและจีนที่แดงยกแผง กังวลวิกฤตภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน หลังจากมีรายงานล่าสุด บริษัท China Evergrande ไม่สามารถออกหุ้นกู้ใหม่ได้ ขณะที่คณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด 2 คน มองว่าเฟดมีแนวโน้มจะขึ้นดอกเบี้ยต่อกดดัชนีร่วง
ด้านมูลค่าการซื้อขายวันนี้พบว่านักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 2,661.64 ล้านบาท บัญชีบล. ขายสุทธิ 204.90 ล้านบาท ในประเทศซื้อสุทธิ 2,526.42ล้านบาท สถาบันซื้อสุทธิ 340.12 ล้านบาท
โดยหุ้นกลุ่มที่ปรับลงและกดดัชนีหลัก ๆ คือ พลังงาน EA, GULF, GPSC กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ DELTA กลุ่มขนส่ง AOT, BEM ส่วนกลุ่มที่ปรับขึ้นหลัก ๆ คือ โรงพยาบาล BDMS กลุ่มประกัน TLI, TQM
ประเด็นที่ต้องติดตามหลักๆคือ
- 27 ก.ย. ประชุม กนง. คาดคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.25%
- 29 ก.ย. เงินเฟ้อ PCE สหรัฐเดือน ส.ค. 23 ตลาดคาด +3.5%y-y จากเดิมอยู่ที่ 3.3%y-y แต่ PCE พื้นฐาน ตลาดคาด +0.2%m-m ทรงตัว
- 29 ก.ย. PMI ภาคผลิตและบริการจีน(Caixin สำรวจธุรกิจขนาดเล็ก-กลาง) ก.ย. และ PMI ภาคผลิตและบริการ (ธุรกิจขนาดใหญ่) มองลุ้นฟื้นตัวได้ หนุนหุ้นเชื่อมโยงจีน
อย่างไรก็ตาม สัปดาห์นี้ประเมินกรอบแนวต้านแรกที่ 1,540 จุด แนวต้านถัดไปที่ 1,553 จุด แนวรับแรกที่ 1,503 จุด แนวรับถัดไปที่ 1,490 จุด