วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight“คลัง”พับแผนเก็บภาษีขายหุ้น หวังดึงดูดนักลงทุน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“คลัง”พับแผนเก็บภาษีขายหุ้น หวังดึงดูดนักลงทุน

“คลัง” ออกโรงยันไม่เก็บภาษีการขายหุ้น หวังตลาดหุ้นไทยแข่งขันกับคู่แข่งในสากลได้ และมีต้นทุนระดมทุนต่ำ ย้ำฐานะทางการเงินแกร่ง คาดเก็บรายได้ปี 67 เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 29 ก.ย.ที่ตำบลโคกกลอย อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนในเรื่องการเก็บภาษีหุ้น หลังฝ่ายค้านเปิดเผยข้อมูลว่ามีเอกสารที่จะเก็บภาษีหุ้น ว่า “ในภาวะแบบนี้และระยะเวลาอย่างนี้ ตลาดหุ้นเป็นแบบนี้ ตอนนี้ยังไม่มีนโยบายดังกล่าว

ด้านนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังยังไม่มีแผนจัดเก็บภาษีภาษีการขายหุ้น (Financial Transaction Tax) หรือ FTT และภาษีกำไรจากการขายขายหุ้น (Capital Gain Tax) เพราะรัฐบาลต้องการเห็นตลาดหุ้นใน 4 ประเด็นหลักคือ 1. สภาพคล่องที่สูง ไม่ต้องการเห็นตลาดหลัก ทรัพย์ของไทยภาวะซบเซา และมีเสถียรภาพ 2.มีปริมาณการซื้อขายสูงและมีคุณภาพ 3.ต้องการเห็นตลาดหลัก ทรัพย์ไทย มีความน่าดึงดูดทั้ง ใน 2 มิติ คือ ดึงนักลงทุนที่จะมาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และดึงดูดบริษัทที่มาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของไทย

“นักลงทุนที่จะมาลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไทยได้นั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯต้องมีความน่าสนใจ และมีความสามารถในการแข่งขันได้ มีกฏระเบียบที่ผ่อนปรน และกฏระเบียบเอื้อต่อการลงทุน รวมทั้ง ต้องการเห็นตลาดหลักทรัพย์ไทยดึงดูดต่อการมาจดทะเบียนของบริษัทต่างๆในระดับโลก มีความเป็นสากลและแข่งขันได้ เช่นตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์” นายเผ่าภูมิกล่าวและว่า 4.มีต้นทุนในการระดมทุนที่ต่ำและอยู่ในระดับที่แข่งขันได้ ประเด็นที่สำคัญคืออิฐก้อนแรกของระบบเศรษฐกิจของประเทศ ถ้ามีการระดมทุนต่ำ หมายถึงการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ การจ้างงาน ขนาดเศรษฐกิจเติบโตมากขึ้น ดังนั้นกระทรวงฯจำเป็นต้องมีนโยบายเกี่ยวข้องกับตลาดที่เหมาะสม และการให้ตลาดฯ มีการเติบโตเป็นตลาดชั้นนำด้านภูมิภาคนั้นคือนโยบายด้านภาษี และยืนยันเพื่อให้เกิดความมั่นใจต่อตลาดทุน ประชาชน บริษัทจดทะเบียน

“กระทรวงการคลังยังไม่มีนโยบายเก็บภาษีเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมขายหุ้น และยังไม่มีนโยบายเก็บภาษีจากกำไรการขายหุ้น ซึ่งทำให้ตลาดหุ้นไทยมีเสถียรภาพสามารถวางแผนระยะยาวในการลงทุนได้ และทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯเติบโตเพิ่มขึ้นในภูมิภาคนี้”นายเผ่าภูมิ กล่าว

สำหรับกรณีที่มีความกังวลว่าการที่ไม่เก็บภาษีจากการขายหุ้นทำให้รายได้ภาครัฐหายไป และรัฐต้องมีการทำงบประมาณขาดดุลนั้น ในแผนการคลังระยะปานกลางยังไม่ได้มีการพิจารณา รวมถึงผลกระทบที่มีนัยยะสำคัญจากนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทของรัฐบาล  ซึ่งโครงการดังกล่าวคาดมีเงินเข้าสู่ในระบบเศรษฐกิจ 5.6 แสนล้านบาท ก่อให้เกิดเป็นผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจต่อรัฐบาลกลับคืนมาในรูปแบบภาษี ไม่ว่าจะเป็นภาษีนิติบุคคล หรือภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT มากขึ้น

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img