มีคดีน่าสนใจเกี่ยวกับ การฟอกเงินยาเสพติด และ ใช้บัญชีม้าในการฟอกเงิน ที่จำเลย อ้างว่าเป็นการซื้อขายพระเครื่อง
แนวทางพิพากษาคดีนี้ เป็นอย่างไร จะพอเทียบกับพฤติการณ์คดีฉาว ที่มีชุดทำงานของ “นายตำรวจดัง” ตกเป็นผู้ต้องหาคดีสมคบฟอกเงินเว็บพนันที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ เราลองไปดูเกร็ดในเรื่องนี้กัน
สำหรับพฤติการณ์คดี มีจำเลยเป็นชายหนุ่มขบวนการค้ายา 2 คน และหญิงสาวอายุ 19 ปี ที่รับโอนเงินลักษณะบัญชีม้า โดยจำเลยในคดีนี้ อ้างว่ารับโอนเงินชำระค่าพระเครื่อง
คดีนี้ มีจำเลยในขบวนการค้ายา นำสืบทำนองว่า มีอาชีพเสริมในการซื้อขายพระเครื่องทางโปรแกรมเฟซบุ๊ก การรับโอนเงินทั้งหลาย และการโอนเงินไปให้หญิงสาวนั้น เป็นบัญชีเปิดไว้ สําหรับซื้อขายพระเครื่อง
ต่อมา จำเลยอ้างว่า มีลูกค้าสั่งสร้อยข้อมือทองคำหลวงพ่อรวย จ้างทำเป็นเงิน 510,000 บาท แต่ศาลท่านพิเคราะห์ว่า ข้อเท็จจริงที่จําเลยที่ 1 อ้างเป็นเรื่องที่เพิ่ง ยกขึ้นในชั้นพิจารณาและขัดแย้งกับคําให้การในชั้นสอบสวน
นอกจากนี้ ร้านค้าของจําเลยเป็นร้านค้าบนโปรแกรมเฟซบุ๊ก ไม่ปรากฏว่าจําเลยเปิดหน้าร้าน เป็นหลักแหล่งแน่นอน และไม่ปรากฏหลักฐานใดเลยว่าเป็นช่างผู้ชํานาญงาน หรือมีฝีมือเป็นพิเศษในการรับทําสร้อยข้อมือทองคําฝังเพชรจนเป็นที่ประจักษ์ชัด
นอกจากนี้ ยังน่าสงสัยว่าเหตุใด จำเลยที่อ้างเป็นลูกค้า บอกไม่เคยรู้จักกัน แต่กลับกล้าโอนเงินให้จำนวนมาก อันเป็นการผิดวิสัยอย่างยิ่งของวิญญูชนที่ทําการค้าขาย โดยสุจริต ข้ออ้างเรื่องเป็นเงินที่ลูกค้าสั่งทําสร้อยข้อมือทองคํา จึงเป็นเรื่องเลื่อนลอยไม่มีน้ำหนัก
ที่สำคัญ คือเมื่อพิจารณาถึงบัญชีเงินฝากหมุนเวียนของจำเลย ที่เป็นหญิงสาว อายุ 19 ปี ยังเป็นนักศึกษาเท่านั้น ภายในช่วง 2-3 เดือน มีเงินหมุนเวียนถึง 26 ล้านบาท ไม่น่าเชื่อว่า บุคคลทั้งสามจะมีกระแสเงินหมุนเวียนมากมายขนาดนั้น หากประกอบอาชีพโดยสุจริต
การที่จำเลยอ้างว่า จำหน่ายพระเครื่องจึงฟังไม่ขึ้น พิพากษาให้จำเลยทั้ง 3 มีความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง
…………..
รายงานพิเศษ : ฟ้าคำราม