คณะกรรมาธิการยุโรปปรับปรุงกฎระเบียบการวางจำหน่ายแบตเตอรี่อย่างครบวงจรเพื่อความยั่งยืน กำหนดให้แบตเตอรี่ที่วางจำหน่ายใน EU ต้องแสดงค่า Carbon Footprint ติดฉลากรายละเอียดสินค้า เครื่องหมาย CE และมีการจัดการขยะแบตเตอรี่ เตือนผู้ผลิต/ส่งออกไทยเตรียมรับมือ
เมื่อวันที่ 4 ต.ค.66 นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2566 คณะกรรมาธิการยุโรปได้เผยแพร่กฎระเบียบภายใต้ Regulation (EU) 2023/1542 ว่าด้วยแบตเตอรี่และขยะแบตเตอรี่ มีผลตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2566 และใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อสร้างความยั่งยืน ความปลอดภัย และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดวงจรของการใช้งานของแบตเตอรี่ ส่งเสริมการนำกลับมาใช้ใหม่เพื่อนำไปสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน ตลอดจนเพื่อให้มีการใช้สารอันตรายน้อยที่สุด โดยสรุปกำหนดระยะเวลาในการใช้บังคับในประเด็นต่าง ๆ
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า การปรับปรุงกฎระเบียบของ EU เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมและเพื่อสร้างความปลอดภัยจากการใช้งานแบตเตอรี่ อาจเพิ่มต้นทุนแก่ผู้ผลิตและส่งออกแบตเตอรี่ไป EU
ทั้งนี้ จากสถิติปี 2565 พบว่า ไทยมีมูลค่าการส่งออกแบตเตอรี่ (พิกัด 8507) ไป EU ประมาณ 130.82 ล้านบาท จากมูลค่าการส่งออกแบตเตอรี่ของไทยทั้งหมด 13,167.56 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 0.99