วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlightนายกฯปลุกปชช.ขอกำลังใจอย่าให้ใครมายับยั้ง “โครงการดิจิทัล วอลเล็ต”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

นายกฯปลุกปชช.ขอกำลังใจอย่าให้ใครมายับยั้ง “โครงการดิจิทัล วอลเล็ต”

นายกฯปลุกปชช.ขอกำลังใจอย่าให้ใครมายับยั้ง “โครงการดิจิทัลวอลเล็ต”พร้อมขอโทษไม่รู้ปัญหาน้ำประปา แต่รู้ช้าดีกว่าไม่ทำ


เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 14 ต.ค นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง และคณะเดินทางต่อมายังโรงผลิตน้ำประปา ที่เทศบาลนครพิษณุโลกจ.พิษณุโลก เพื่อพูดคุยปัญหาน้ำประปากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีประชาชนมารอให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น

ทั้งนี้นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าการบริหารจัดการน้ำมี 4 ส่วนคือ ภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรม การรักษาระบบนิเวศ และเรื่องอุปโภคบริโภค จ.พิษณุโลก เป็นจังหวัดแรกที่ตนเดินทางมาแล้วมีปัญหาเรื่องน้ำอุปโภคบริโภค เป็นเรื่องสำคัญ ทั้งเรื่องการเก็บน้ำ ท่อส่งน้ำที่สร้างมา 80 กว่าปี มีการรั่วซึม จ.พิษณุโลก ที่เป็นเมืองรอง แต่วันนี้จะเป็นเมืองหลักด้านการท่องเที่ยว รัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องสาธารณูปโภคพื้นฐาน เมื่อกลับไปจะคุย กับนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ว่าจะดำเนินการอย่างไร ทั้งปัญหาระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ตนเพิ่งทราบปัญหานี้ ตอนที่เคยมาช่วงเลือกตั้ง ถ้าทราบจะเตรียมทางแก้ปัญหาไว้ แต่ถึงอย่างไรช้าดีกว่าไม่ทำ ขอกราบขอโทษด้วยแล้วกัน

อย่างไรก็ตามสส.เพื่อไทยแสดงความเป็นห่วงประชาชน สิ่งที่คนในหลายจังหวัดถือเป็นของตาย คือน้ำอุปโภคบริโภคแต่ จ.พิษณุโลกที่เป็นจังหวัดใหญ่ มีปัญหาก็กราบขอโทษ ในนามรัฐบาลจะนำมาพัฒนาและทำให้ดี ในระยะสั้นก่อนระยะยาวก็ค่อยแก้กันไป ไม่เช่นนั้นเมืองรองที่มีคุณค่าอย่างจ.พิษณุโลก จะไม่มีโอกาสเติบโตตามแผนงานพัฒนาเศรษฐกิจของชาติได้

ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ กล่าวว่า ที่นายกฯบอกว่าไม่ทราบมาก่อน ถือเป็นความผิดของตน ผู้สมัครสส.ในพื้นที่บอกตนมาตลอด แต่เมื่อไม่ได้เป็นผู้แทนเลยไม่ได้นำเรียนต่อวันนี้จึงต้องขอโทษ

ขณะที่นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รชช.มหาดไทย กล่าวว่า เจตนาของเทศบาลนครพิษณุโลก ต้องการจำหน่ายน้ำประปาเอง หรือโอนมอบไปให้การประปาภูมิภาค ตนมองว่าไหนๆจะทำสักที อยากให้สส.ในพื้นที่ทำประชาคมดูว่า จะให้ไปอยู่ประปาส่วนภูมิภาคหรือจะทำเอง แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไร อยากให้สส.ประสานกับทางเทศบาล ทำให้เป็นประปาดื่มได้เลย

จากนั้นนายเศรษฐา กล่าวด้วยว่า สำหรับเรื่องการพัฒนาอุตสาหกรรม เรื่องการท่องเที่ยว การพัฒนาสนามบินอยู่ในแผนของรัฐบาลอยู่แล้ว แต่สิ่งที่อยากจะบอกวันนี้คือ ที่ผ่านมารัฐบาลลดค่าไฟเหลือ 3.99 บาท ลดค่าน้ำมันเชื้อเพลิงดีหรือไม่ ทำไมไม่มีใครบอก จำได้มั้ยน้ำมันดีเซลลงไปเท่าไหร่เหลือ 29 กว่าๆ ส่วนเงินดิจิทัลวอลเล็ตอยากได้หรือไม่ตนไม่แน่ใจ เรื่องการลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนเป็นเรื่องที่รัฐบาลตระหนักดี สำหรับดิจิทัลวอลเล็ต อยากอธิบายให้ฟังว่า สมมุติวันที่ 1 ก.พ. 67 คนที่อายุ 16 ปีขึ้นไปได้คนละหมื่นบาท บ้านไหนมีสามคนห้าคนเอาไปตั้งตัวได้เลย คิดดูว่ามีประโยชน์มากแค่ไหน และเงินที่ได้ไปใช้ในกทม.ไม่ได้ ต้องใช้ในเขตที่ท่านอยู่ จะช่วยพัฒนาชุมชนที่ท่านอยู่ไม่ใช่พัฒนาเมืองใหญ่อย่างเดียว ซึ่งมีหลายท่านไม่เห็นด้วย แต่ตนก็ไม่เห็นด้วยกับคนที่ไม่เห็นด้วย แต่เรารับฟังความคิดเห็น เพราะเราเป็นรัฐบาลของประชาชน รับฟังแล้วปรับให้ดีให้เป็นนโยบายที่โดนใจทุกคน คิดดูวันที่ 1 ก.พ. มีเงิน 5.6 แสนล้านเข้าไปในระบบ ถ้าเป็นภาคอุตสาหกรรมจะเตรียมสินค้าออกมารองรับหรือไม่ จะมีการจ้างคนเพิ่มหรือไม่เงินจะอยู่ในกระเป๋าประชาชนมากขึ้นแค่ไหนอย่างไร

“ท่านอย่ายอมให้คนที่ไม่เห็นด้วยโดยไม่มีเหตุผลมายับยั้งโครงการนี้ ถ้าชอบก็ขอให้พูดบ้าง ให้เปล่งเสียงออกมาบ้าง เรื่องลดค่าไฟค่าน้ำมันต้องพูด อย่างภาคอุตสาหกรรมที่ลดค่าไฟ ค่าน้ำมัน ท่านต้องออกมาพูดว่า ท่านมีความสุขดีใจที่รัฐบาลนี้ทำให้ เราเองก็เป็นคนเหมือนกัน ต้องการขวัญและกำลังใจเหมือนกัน บางคนที่มาด้วยกันวันนี้ก็อยากอยู่บ้าน แต่วันนี้เข้าใจปัญหาประชาชนก็มารับฟังปัญหา เราไม่ได้มาหาเสียงแต่เรามาทำงานจริง “ นายเศรษฐา กล่าว.

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img