‘พิพัฒน์’ยันรัฐบาลเร่งขนแรงงานไทยในอิสราเอลที่ขอกลับบ้าน หวังพามาให้หมดภายในสิ้นเดือนต.ค. เผยนายกฯขอความกรุณาจากนายจ้างที่เป็นชาวอิสราเอล ไม่ควรที่จะให้คนงานยังต้องทำงาน เพราะอยู่ในภาวะที่มีความไม่สงบ
เมื่อวันที่ 17 ต.ค.66 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงการช่วยเหลือแรงงานไทยกลับจากอิสราเอล ว่า ขณะนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล และกระทรวงแรงงาน ได้รับแรงงานไทยมาอยู่ที่กรุงเทลอาวีฟ และแต่ละวันเรามีเที่ยวบินไม่น้อยกว่า 2 เที่ยวบินที่จะรับแรงงานไทย 300-400 คน ซึ่งขณะนี้เราระดมเจ้าหน้าที่ไปยังกรุงเทลอาวีฟแล้ว เพราะฉะนั้นการเคลื่อนย้ายแรงงานไทยน่าจะทำได้ดีขึ้นและเร็วขึ้น ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีดำริให้นำแรงงานไทยที่ลงทะเบียนล่าสุดประมาณ 7,500 คน กลับประเทศไทยให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือน ต.ค.นี้ แต่ขึ้นอยู่ที่ว่าจำนวนเครื่องบินไปช่วยนั้นเรามีมากน้อยเพียงพอหรือไม่ แต่เท่าที่ทราบขณะนี้มีเครื่องบินของการบินไทย 1 ลำ กองทัพอากาศ 1 ลำ สายการบินนกแอร์ 2 ลำ และสายการบินแอร์เอเชีย 2 ลำ ซึ่งตนเชื่อว่าแม้จะไม่หมด ก็คงจะใกล้เคียง แต่หลังจากนี้เรายังต้องดูเหตุการณ์ต่อไปว่าสุดท้ายแล้วสงครามนี้จะเลิกเมื่อไหร่ หรือจะเบาบางลงหรือไม่ จะลุกลามมาถึงตอนกลางหรือภาคเหนือของอิสราเอลหรือไม่ เพราะถ้าลุกลามมาถึง เราคงต้องพยายามนำแรงงานไทยที่ต้องการกลับประเทศไทยกลับมาทั้งหมด อย่างไรก็ตามขณะนี้เราสามารถนำแรงงานไทยกลับประเทศได้แล้วประมาณ 500 คนแล้ว
นายพิพัฒน์ กล่าวอีกว่า ส่วนการให้ความช่วยเหลือผู้ใช้แรงงานไทยที่ยังอยู่ในอิสราเอลนั้น การที่เราจะทำอย่างไรคงทำอะไรไม่ได้ เพราะอยู่ที่รัฐบาลของอิสราเอลที่กำลังดำเนินการพิสูจน์อัตลักษณ์ว่าผู้เสียชีวิตในอิสราเอลขณะนี้เป็นของประเทศใดบ้าง ซึ่งในนั้นมีส่วนหนึ่งที่เป็นคนไทย เมื่อมีการพิสูจน์อัตลักษณ์แล้ว ก็น่าจะมีการส่งศพผู้เสียชีวิตกลับมา เพราะขณะนี้เรามีเที่ยวบินมาเมืองไทยทุกวัน เชื่อว่าอีกไม่เกิน 1 สัปดาห์น่าจะลำเลียงศพกลับมาได้บ้าง
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีนายจ้างกักตัวผู้ใช้แรงงานไม่ให้กลับมา หรือยังให้ไปทำงานในพื้นที่เสี่ยงหรือไม่ นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการไปแล้วว่า ขอความกรุณาจากนายจ้างที่เป็นชาวอิสราเอลซึ่งในช่วงเวลาขณะนี้ก็ไม่ควรที่จะให้คนงานยังต้องทำงาน เพราะอยู่ในภาวะที่มีความไม่สงบ สิ่งเหล่านี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการไปแล้วจึงอยู่ที่เอกอัครราชทูตจะต้องประสานกับทางรัฐบาลอิสราเอล และนายจ้างของอิสราเอล
เมื่อถามถึงความคืบหน้าสถานการณ์การจับแรงงานไทยเป็นตัวประกัน นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ยังไม่มีข่าวคราว แต่เชื่อว่าจากการที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปประเทศจีน ก็จะมีการเจรจาผ่านอีกหลายๆประเทศ จากนั้นนายกรัฐมนตรีจะเดินทางต่อไปยังซาอุดีอาระเบีย ซึ่งคงจะหารือกันถึงการช่วยเหลือตัวประกันผ่านประเทศที่ 3, 4, 5 ก็แล้วแต่ว่าประเทศไหนที่คิดว่าจะมีโอกาสช่วยเราได้
