“เรืองไกร” ร่อน นส.ไล่บี้ “เศรษฐา” ขอเอกสารการใช้จ่ายเงินไปประชุม “UNGA78” คืนเงินของ “ลูกสาว” หรือยัง เป็นไปตามสำนักนายกฯหรือไม่ จี้เร่งชี้แจง
เมื่อวันที่ 29 ต.ค.66 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า วันนี้ตนได้ส่งหนังสือถึงนายกฯอีกครั้งหนึ่ง ทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอหลักฐานการใช้จ่ายเงินในคราวที่นายกฯและคณะเดินทางไปประชุม UNGA78 โดยในหนังสือได้แจ้งนายกรัฐมนตรี ทราบและสั่งการ ดังความต่อไปนี้
1.ตามหนังสือที่อ้างถึง 1.สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มีหนังสือที่ นร. 0105.5/43748 วันที่ 3 ตุลาคม 2566 แจ้งข้าฯ มาว่าตามที่ท่านได้มีหนังสือคำร้อง ลงวันที่ 27 ก.ย.66 กราบเรียนนายกรัฐมนตรี ขอทราบข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในคราวนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเดินทางไปร่วมการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 (78th Session of the United Nations General Assembly : UNGA78) ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 18-24 ก.ย.66 ความละเอียดแจ้งแล้วนั้น สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้ประสานส่งเรื่องให้กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งมีหน้าที่และอำนาจรับผิดชอบกรณีที่ท่านมีหนังสือคำร้องดังกล่าว เพื่อพิจารณา โดยขอให้แจ้งผลให้ท่านทราบโดยตรงด้วยแล้วจึงเรียนมาเพื่อทราบ
2.เนื่องจากระยะเวลาล่วงมาประมาณหนึ่งเดือนแล้ว แต่ข้าฯ ยังไม่ได้รับการแจ้งผลตามคำร้องจากกระทรวงการต่างประเทศ ตามหนังสือที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีแจ้งมาแต่อย่างใด และเมื่อตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้ว ข้าฯเห็นว่า เรื่องนี้ควรเป็นหน้าที่และอำนาจของสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรีที่จะชี้แจงข้อมูลได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีอำนาจสั่งการได้โดยตรง
3.ตามข่าวที่ปรากฏโดยทั่วไป การเดินทางดังกล่าวของนายกรัฐมนตรีและคณะมีการเช่าเครื่องบินเหมาลำไปด้วยวงเงิน 30 ล้านบาท และมีบุคคลภายนอกร่วมเดินทางไปด้วย 2 คน หนึ่งในนั้นมีลูกสาวของนายกรัฐมนตรีรวมอยู่ด้วย ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ตามมา จนทำเนียบรัฐบาล ต้องมาชี้แจงว่า ลูกสาวของนายกรัฐมนตรี ร่วมเดินทางไปบนเครื่องบินเช่าเหมาลำจริง แต่ออกค่าใช้จ่ายเอง
4.คู่มือการให้บริการ การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ ของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ระบุไว้ส่วนหนึ่งว่า การลงนามในใบเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (แบบ 8708) ของนายกรัฐมนตรี ให้เลขาธิการนายกรัมมนตรี รองเลขาธิการนายกรัมมนตรีฝ่ายการเมือง หรือรองเลขาธิการนายกรัมมนตรีฝ่ายบริหาร ที่ร่วมคณะเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราวกับนายกรัมมนตรี เป็นผู้ลงลายมือชื่อผู้รับเงินในหลักฐานการจ่ายเงินค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการดังกล่าว
5.ดังนั้น เพื่อให้แน่ใจได้ว่า การเดินทางครั้งนี้ มีหลักฐานการรายงานค่าใช้จ่ายต่างๆ ตามแบบ 8708 มีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ว่า นายกรัฐมนตรีและคณะได้มีการเบิกเงินและคืนเงินโดยชอบด้วยพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายเดินทางไปราชการ พ.ศ.2526 ลักษณะ 3 ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการต่างประเทศ หรือไม่ และเป็นไปโดยชอบด้วยระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการอนุมัติให้เดินทางไปราชการและการจัดการประชุมของทางราชการ พ.ศ. 2524 หรือไม่ และลูกสาวของนายกรัฐมนตรีที่ร่วมเดินทางด้วย ได้ออกเงินเอง จริงหรือไม่
“นายกรัฐมนตรีจึงควรสั่งการให้สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรีหรือกระทรวงการต่างประเทศรีบเปิดเผยข้อมูลค่าใช้จ่ายเดินทางทั้งค่าเช่าเหมาลำ ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่ารับรอง และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางไปประชุมดังกล่าว พร้อมสำเนาเอกสารทางบัญชีหรือการเงินทั้งหมดที่ต้องรายงานตามระเบียบทางราชการให้ข้าฯ ทราบโดยเร็วด้วย หากข้าฯ ได้ข้อมูลมาตรวจสอบแล้วพบว่า อาจมีการใช้เงินแผ่นดินไปโดยไม่ชอบหรือโดยไม่ซื่อสัตย์สุจริต อันอาจเข้าข่ายเป็นการฉ้อราษฎร์บังหลวง ก็จะรีบแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบเพื่อแก้ไขให้ถูกต้องต่อไป”นายเรืองไกร กล่าว