“ชัยชนะ” เย้ย “หมอชลน่าน” เอาอะไรมาคิด ออกนโยบายเพิ่มครอบครองยาบ้าเป็น 10 เม็ด. หวั่นเปิดช่องผู้ค้ารายใหม่พรึบในอนาคต เสนอวางมาตรการเพิ่มแรงจูงใจให้ผู้เสพเข้ารับการบำบัดมากขึ้น เพื่อทำให้นโยบายปราบปรามยาเสพติดสำเร็จผล
เมื่อวันที่ 31 ต.ค.66 นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และรักษาการรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข วางนโยบายกำหนดจำนวนยาบ้าไม่เกิน 10 เม็ด ถือเป็นผู้เสพต้องเข้าสู่กระบวนการบำบัด โดยเตรียมที่จะออกเป็นกฎหมายลูก ว่า ตนสงสัยว่า นพ.ชลน่านคิดอะไรและเอาอะไรคิด ถึงได้ออกนโยบายแบบนี้ เพราะในขณะที่คำแถลงนโยบายรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ต่อรัฐสภา ระบุว่า รัฐบาลจะทำงานร่วมกับประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย ซึ่งขณะนี้ได้มีการดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดไปบ้างแล้ว แต่สิ่งที่นพ.ชลน่าน จะเพิ่มจากเดิม 5 เม็ด เป็น 10 เม็ด นั้น ถือว่าเป็นการออกนโยบายโดยที่ไม่ได้ดูข้อเท็จจริง เพราะที่ผ่านมา การที่กำหนดให้ผู้ครอบครองยาบ้าจำนวน 5 เม็ด ให้ถือเป็นผู้เสพ โดยให้กระทรวงสาธารณสุขรับตัวไปรักษาบำบัดฟื้นฟู ไม่ต้องไปรับโทษในเรือนจำนั้น ปรากฏว่า ขณะนี้สถานบำบัดที่เหมาะสมยังมีไม่เพียงพอ หากเพิ่มเพดานเป็น 10 เม็ด แต่ไม่มีการวางมาตรการจูงใจให้ผู้ติดยาเสพติดไปบำบัด ตนเกรงว่า ด้วยจำนวนขนาดนั้น อาจจะเป็นจุดเล็กๆ ที่จะขยายไปเป็นผู้ค้าได้ในอนาคต
“ผมเห็นความปรารถนาดีที่ นพ.ชลน่าน ต้องการจะแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยลดจำนวนผู้เสพ แต่ก็ต้องหามาตรการที่เหมาะสมในการจูงใจและให้ความร่วมมือกับผู้ที่มาบำบัด ไม่ใช่เอาง่ายๆ ผมก็เห็นความตั้งใจของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยในการแก้ไขปัญหาและปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง ถ้าจำกันได้ในช่วงเมื่อ 20 ปีก่อน ที่มีข่าวการจัดระเบียบสังคมและข่าวการปราบปรามยาเสพติดอย่างรุนแรง จนกระทั่ง รัฐบาลในยุคนั้นสามารถปักธงประกาศชัยชนะกับยาเสพติดได้ และได้นำมาเป็นจุดขายในการหาเสียงมาตลอด แม้กระทั่ง ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดที่ผ่านมา ถึงกับประกาศในป้ายหาเสียงว่าเพื่อไทยมา ยาเสพติดหมดไปแต่ขณะนี้ นพ.ชลน่านกลับมีนโยบายที่เปรียบเสมือนกับส่งเสริมให้คนครอบครองยาเสพติดมากขึ้น หวั่นใจว่า จะมีผู้ค้ารายใหม่เพิ่มขึ้นอีก”นายชัยชนะ กล่าว
ประธานกมธ.ตำรวจ กล่าวต่อว่า ยาเสพติดก็เป็นของอันตรายที่แม้แต่เพียงครึ่งเม็ดก็สร้างผลร้ายต่อตัวเอง สังคม และประเทศชาติ ดังนั้นถ้าต้องการให้ผู้เสพมีจำนวนน้อยลงแล้ว การที่ออกนโยบาย Quick Win (ควิกวิน) ที่จะเร่งรัดให้เห็นผลใน 100 วัน 3 นโยบายหลัก ก็อยากให้ นพ.ชลน่าน ได้ลงไปดูข้อเท็จจริง ถึงกระบวนการในปัจจุบันว่า เป็นอย่างไร รวมทั้ง การวางมาตรการเพิ่มเติม โดยอาจจะสร้างความมั่นใจและการคุ้มครองให้กับผู้ที่บำบัดสำหรับการให้ข้อมูลผู้ขายจนสามารถไปถึงผู้ขายรายใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง ซึ่งถือว่าเป็นการช่วยกันในการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและผู้ค้ายาเสพติดได้อีกทางหนึ่งด้วย