วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 24, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWS“จุลพันธ์”ยันรัฐบาลยังไม่มีแผนสำรอง หากพ.ร.บ.กู้เงินเข้าสภาฯแล้วไม่ผ่าน!
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“จุลพันธ์”ยันรัฐบาลยังไม่มีแผนสำรอง หากพ.ร.บ.กู้เงินเข้าสภาฯแล้วไม่ผ่าน!

“จุลพันธ์” ชี้ออกพรบ.กู้เงินเป็นเรื่องที่รอบคอบแล้ว ยันรัฐบาลยังไม่มีแผนสำรองหากไม่ผ่านสภาฯ รับดีองค์กรอิสระช่วยตรวจสอบเงินดิจิทัลวอลเล็ต ลั่นแจกเป็นก้อน

เมื่อวันที่ 15 พ.ย.66 เวลา 10.00 น.รัฐสภา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน สภาผู้แทนราษฎร ถึงกรณีที่หลายฝ่ายมีความเป็นห่วงที่รัฐบาลจะออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กู้เงิน เพื่อนำมาใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทว่า เป็นเรื่องที่ดี ช่วยกันเป็นห่วง เราจะได้ดำเนินการให้รอบคอบ รัดกุม เป็นไปตามข้อกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลมองว่าช่องทางนี้เป็นช่องทางที่มีความเหมาะสม มีความตรงไปตรงมา ได้รับความตรวจสอบจากรัฐสภา และเป็นเรื่องที่ดีหากมีการตรวจสอบจากองค์กรอิสระก่อนที่จะดำเนินการเพื่อให้เราได้ดำเนินการได้อย่างสบายใจเพื่อให้ประชาชน

เมื่อถามว่า มีแผนสำรองหรือไม่ ถ้ากฎหมายฉบับนี้ไม่ผ่านสภา นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ไม่มี

เมื่อถามย้ำว่า หลายคนมองว่านโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องจีดีพีในระยะยาวได้นั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เป็นความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้ อย่างแรกคือ เรามีความเชื่อมั่นด้วยกลไกที่เป็นตัวเงินผ่านระบบดิจิทัล และมีเงื่อนไขกำหนดก็จะทำให้เกิดการหมุนเวียนในเศรษฐกิจที่มากกว่าแน่นอน ส่วนการเดินหน้าในเรื่องของพ.ร.บ.กู้เงิน ไม่ต้องเป็นห่วง แต่อาจจะมีคนสงสัย และเป็นมุมมองทางข้อกฎหมายที่แตกต่างกันได้ขึ้นอยู่กับการตีความและรัฐบาลมีหน้าที่ในการชี้แจงเหตุผลและความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องออกเป็นพ.ร.บ.กู้เงิน

“ปัญหาเศรษฐกิจรัฐบาลไม่ได้มองมิติเพียงแค่เฉพาะหน้า แต่รัฐบาลมองถึงทิศทางการพัฒนาประเทศที่เรารับทราบกันดีทุกฝ่ายว่าขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในสถานะที่ถดถอย ความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยไม่ได้ดูดีแบบในอดีตที่ผ่านมา เรามีความจำเป็นจะต้องพลิกฟื้นปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางเศรษฐกิจ รวมถึงสร้างเศรษฐกิจดิจิทัล ให้มีความเข้มแข็งเพื่อรองรับเศรษฐกิจโลกที่มีความเปลี่ยนแปลงไป” นายจุลพันธ์ กล่าว

เมื่อถามว่า หากพ.ร.บ.กู้เงินเข้าสู่สภาฯ แล้วไม่ผ่านจะเกิดความเสี่ยงทางการเมืองหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ก็เป็นไปได้ต้องยอมรับว่า กลไกนี้ต้องไปตรงมาที่สุดถ้าเราใช้วิธีการอื่น เช่น มาตรา 22 ก็จะมีการครหาว่าจะเป็นการหลบเลี่ยงหรือไม่ วิธีการนี้ตรงไปตรงมา นำเข้ามาพูดคุยกันก่อนแล้วจึงบังคับใช้เป็นกฎหมายที่เป็นช่องทางที่เหมาะสมที่สุด ส่วนความเสี่ยงทางการเมืองเรามีความเชื่อมั่นเสียงของฝั่งรัฐบาล จริงๆฝ่ายค้านเองก็ไม่ได้ปฏิเสธนโยบายแต่อาจจะมีข้อสงสัยในกระบวนการ แต่ในข้อเท็จจริงทุกคนเห็นความเดือดร้อนของประชาชนเห็นถึงสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศที่มีความเปราะบาง

เมื่อถามถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุว่า ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย แนะนำให้ออกเป็นพ.ร.บ.เงินกู้จริงหรือไม่นั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีพูดคุยกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย

เมื่อถามถึงกรณีหากมีการใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 245 ให้องค์กรอิสระมีส่วนในการตรวจสอบนโยบายรัฐบาลนั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ตนยินดี การตรวจสอบเป็นเรื่องดี ตนพร้อมที่จะไปชี้แจงวันนี้เราพร้อมแล้ว เพราะโครงใหญ่เริ่มชัดเจนและเราตอบได้ทุกประเด็น ส่วนจะเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย ก็เป็นมุมมองของแต่ละคน ในขณะเดียวกันเราชี้แจงเพื่อคลายข้อสงสัย ให้กับองค์กรอิสระที่มีการตั้งทีมขึ้นมาเพื่อตรวจสอบให้รัดกุมทำให้เราไม่ได้อยู่ในความประมาทและดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ เมื่อลดข้อกังวลแล้วอีกประการก็ต้องรับฟังข้อเสนอแนะไม่ว่าจะเป็นประเด็นใดก็ตาม วันนี้เรามีการปรับเปลี่ยนในรูปแบบบางประเด็น ซึ่งล้วนแต่เป็นข้อเสนอแนะจากสังคมและนักวิชาการทั้งสิ้น เราพยายามปรับให้โครงการดิจิทัล 10,000 บาท ประสบความสำเร็จสูงสุดและมีความเหมาะสมกับสภาพสังคม ทั้งนี้ ไม่กังวลหากหลายคนมองว่าโครงการนี้เป็นการตั้งธงล้มรัฐบาล และยืนยันว่าไม่มีการทยอยจ่ายแน่นอน

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img