“กกต.-กสทช.”เข้าขั้นวิกฤติ

เลือกตั้งครั้งนี้ ซื้อเสียงสูงสุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย เป็นข้อมูลดิบที่พูดคุยกันภายในพรรคและนักเลือกตั้งทราบถึงพฤติการณ์นี้เป็นอย่างดี หลายเขตทุ่มหมดหน้าตัก 100 ล้าน ถึงผ่านสมรภูมิเดือดเข้ามาได้ 

สุดท้าย คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีหน้าที่ และอำนาจควบคุมดูแลการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริต และเที่ยงธรรมหรือไม่ ลองตามไปดู 

นับแต่ปล่อยผีวันฮาโลวีน รับรองสส. 500 คนไปก่อน เพื่อตามสอยทีหลังตามกติกาภายใน 1 ปี เหมือนลดแรงเสียดทานจากสังคม อยากให้ตั้งรัฐบาลชุดใหม่ได้รวดเร็ว 

และหวยดันมาออกที่ผู้สมัครสส.กทม.คนหนึ่งของพรรคประชาธิปัตย์ เจอแจกใบแดง ข้อหาแจกเงินซื้อเสียง สังเวยการเลือกตั้งครั้งนี้ 

แต่สส.ในสภาผู้แทนราษฎร มีโอกาสโดนใบแดงแค่ไหน คงรอลุ้นอีกหลายเฮือก เพราะข้อมูลล่าสุด 15 พ.ย.66 กกต.เปิดเผยความคืบหน้าเกี่ยวกับคำร้อง สำนวน การวินิจฉัย และการดำเนินคดี ปรากฏว่า มีคำร้อง ความปรากฏ ข้อมูลเบาะแส รวม 360 เรื่อง 

จุดนี้หลายฝ่ายข้องใจทำไมมีคดีเพิ่มขึ้นจาก 357 คดี เป็น 360 คดี รวมถึงคดีที่กกต.ชี้ขาดสำนวนเพิ่มขึ้นจาก 31 สำนวน ขยับเป็น 41 สำนวน ซึ่งเป็นการยกคำร้องเพิ่มทั้งหมด 10 สำนวน สส.คนไหนติดร่างแห่เข้ามาเพิ่ม 

คดีที่เหลือค้าง 80 สำนวน สังคมคลางแคลงใจ สัมพันธ์กับเรื่องคงค้างคำร้อง 71 เขตเลือกตั้งที่เป็นเอกสารหลุดจากกต.ก่อนรับรองสส.หรือไม่  แม้กกต.ปฏิเสธไม่เป็นความจริง 

ที่สำคัญเมื่อปล่อยผีสส. 263 เรื่อง เท่ากับจำนวนคดีที่ค้างลดลงจาก 90 เหลือ 80 คดี ในห่วงเวลาที่เหลืออีกไม่ถึง 6 เดือนก็ครบ 1 ปี กกต.มีน้ำอิ้วเร่งชี้ขาดสำนวนให้สะเด็ดน้ำได้อย่างไร เพื่อดำเนินคดีอาญาจัดการสส.ที่ทุจริต หรือเอาถึงขึ้นยุบพรรคการเมืองนั้นด้วย หากผู้บริหารพรรครู้เห็นเป็นใจเปิดไฟเขียวให้ผู้สมัครสส.ทุจริต 

ถึงบรรทัดนี้คงพอเห็นฝีไม้ลายมือของกกต.ชุดนี้แล้ว ต่างกันราวฟ้ากับเหวเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับกกต.ชุดแรก  

อีกองค์กรที่ถูกวิจารณ์ในทางลบเยอะมาก ขอยกให้ กสทช. (คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) มีพฤติการณ์ แบ่งเป็น 2 ขั้วเข้าข่ายกลียุค ทำงานร่วมกันลำบาก งัดข้อโจมตีกันไปมา ชนิดผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ ต่างฝ่ายต่างตั้งแง่ใส่กันกระทบต่อการพิจารณาวาระเพื่อประโยชน์ต่อสาธารณะ 

ฟางเส้นสุดท้ายขาดสะบั้น จากชนวนจัดประชุม กสทช. ปกติตกลงร่วมกันจัดประชุมทุกวัน “พุธ” ของสัปดาห์ แต่ขอตกลงร่วมถูกฉีก 

ถึงขั้นอีกฝ่ายทนไม่ได้ ร่อนแถลงการณ์ถึงประธาน กสทช. ต้องกำหนดจัดการประชุมกสทช. โดยรับฟัง คำนึงถึงผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช. บนหลักความโปร่งใส่ เป็นธรรม ประโยชน์สาธารณะ 

ทั้ง “กกต.” และ “กสทช.” ต่างกำลังเดินเข้าสู่กลียุคหรือไม่ เวลาที่เหลือเป็นตัวพิสูจน์ !!!

……………………….

คอลัมน์ : ไขกุญแจ-ไขแหลก

โดย #ราษฎรเต็มขั้น