วันนี้ “กกร.” นัดถกปมร้อน “กกพ.” ประกาศขึ้นค่าไฟงวด ม.ค.-เม.ย.67 ไล่บี้ “รัฐบาลเศรษฐา” ให้ทบทวน ขอตรึงอัตราเดิม 3.99 บาท/หน่วย โอดเพิ่มถึง 17% ทั้ง 45 กลุ่มอุตสาหกรรมกระอักแน่ เหตุต้องขยับราคาสินค้าตาม
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ในวันนี้ (6 ธ.ค.) คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ซึ่งประกอบด้วย ส.อ.ท., สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย จะหารือเร่งด่วนเกี่ยวกับผลกระทบจากกรณีที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ประกาศปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) งวด1/67 (ม.ค.-เม.ย.67) ที่ส่งผลให้ค่าไฟเฉลี่ยเรียกเก็บจากผู้ใช้ไฟทุกประเภทอยู่ที่เฉลี่ย 4.68 บาทต่อหน่วย ซึ่งขึ้นถึง 17% นับเป็นเรื่องที่จะกระทบต่อทุกภาคส่วนต้อนรับปี 2567
นายเกรียงไกร กล่าวว่า เรื่องนี้ช็อกความรู้สึกของเอกชนรับปีใหม่ และจะสร้างความวิตกกังวลให้กับเอกชนไทย สวนทางกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการลดค่าครองชีพประชาชน ทั้งที่ผ่านมา “กกร.” ได้เสนอแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะขอให้เร่งรัดจัดตั้งคณะกรรมการร่วมภาครับและเอกชน หรือ “กรอ.ด้านพลังงาน” มาดูแลทั้งโครงสร้าง ดังนั้นค่าไฟฟ้างวด ม.ค.-เม.ย.67 ควรพิจารณาให้รอบคอบอีกครั้ง และเห็นว่าควรจะตรึงที่ 3.99 บาทต่อหน่วยไปก่อน เพื่อรอการปรับโครงสร้าง ซึ่งหากเร่งดำเนินการจะได้ข้อสรุปไม่ช้า
“สมาชิกเฉพาะของ ส.อ.ท.ที่มีอยู่ 45 กลุ่มอุตสาหกรรม ต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศที่ยังเปราะบางสูง ดังนั้นการขึ้นค่าไฟฟ้ายิ่งเป็นการซ้ำเติม ที่อาจนำไปสู่การปรับขึ้นราคาสินค้า นอกจากนี้นักลงทุนต่างชาติต่างสอบถามเข้ามาว่า เหตุใดประเทศไทยจึงมีค่าไฟที่สูงอย่างมากเมื่อเทียบกับประเทศที่อยู่ใกล้เคียง ทำให้มีผลต่อการตัดสินใจเข้ามาลงทุน ซึ่งจะบั่นทอนต่อขีดความสามารถของประเทศ” ประธาน ส.อ.ท.ระบุ
