“ชัยชนะ” ไม่รู้เรื่องไลน์หลุดล็อบบี้สกัด “มาดามเดียร์” พร้อมสอบ เหน็บคนลาออกรักพรรคจริงหรือรักตัวเอง ย้อนได้ผู้นำก็ต้องอยู่ น้อมรับฟังทุกเสียงวิจารณ์ บอกอนาคตบอกไม่ได้ร่วมรัฐบาล ไม่มีใครรู้
วันที่ 10 ธ.ค.2566 เวลา 10.00 น.ที่รัฐสภา นายชัยชนะ เดชเดโช รองหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคใต้ ให้สัมภาษณ์ถึงไลน์หลุดสั่งลูกขวางน.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะกรรมการนวตกรรมการเมือง กรุงเทพ ผู้สมัครชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ให้ยกมือผ่านเสียง 3 ใน 4 ว่า สส.ทุกคนก็ยกมือให้ ตนก็ยกมือให้ ส่วนโหวตเตอร์ที่เป็นสาขาพรรคก็แล้วแต่จะตัดสินใจอย่างไร ส่วนที่มีไลน์หลุดก็ต้องดูว่าผู้กระทำเป็นใคร ถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็ร้องเรียนมาเราก็ยินดีพิจารณาตรวจสอบ แต่ยืนยันว่าตนยินดีที่จะเปิดทางให้คนรุ่นใหม่ผ่าน 3 ใน 4 เปิดทางให้คนรุ่นใหม่
เมื่อถามว่ามีการล็อบบี้กันก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง นายชัยชนะ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่มองกันได้ แต่ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่ตนไม่ทราบเรื่องไลน์หลุดเป็นมาอย่างไร เพราะตนไม่เห็น
เมื่อถามว่าการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่ผ่านมามีสมาชิกพรรคหลายคนเตรียมที่จะลาออก เป็นปรากฎการณ์เลือดไหลอีกรอบหรือไม่ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนมองว่าคำพูดที่บอกว่ารักพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งพรรคเป็นองค์กรที่มีระยะเวลาในการเปลี่ยนแปลง 4 ปีก็ต้องเลือกตั้งกันอีกครั้งหนึ่ง เพราะฉะนั้นถ้าเรารักองค์กร ใครที่ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคก็พร้อมทำงานให้ แต่ถ้าบุคคลใดที่ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคแล้วลาออกเท่ากับเราไม่ได้รักองค์กร เราต่อต้านผู้นำที่ขึ้นมา ตนคิดว่าไม่ถูกต้อง การที่เราบอกว่ารักองค์กร เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารเราก็ต้องทำงานได้ทุกผู้บริหาร ยกตัวอย่างอยู่ช่อง 3 มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารเราก็ต้องทำงานให้ได้ เพราะฉะนั้นถ้ารักพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องยืนอยู่กับพรรคมาช่วยฟื้นฟูพรรค ถ้าบริหารชุดใหม่ทำไม่ดี ถึงเวลา 4 ปีก็เปลี่ยนแปลงได้ ตนเชื่อว่าทุกคนมีวุฒิภาวะในการตัดสินใจเลือกตั้งหัวหน้าพรรคอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าเป็นการกดดันให้กรรมการบริหารพรรควางแนวทางในการทำงานต่อไปหรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า ตนพร้อมที่จะรับรับฟังทุกเสียง ฟังทุกปัญหา ฟังทุกคำวิจารณ์ น้อมรับคำติชม น้อมรับข้อแนะนำ สิ่งที่ท่านแนะนำ หรือวิจารณ์มาเราจะนำไปแก้ไขปัญหา ให้พรรคมีเอกภาพให้พรรคได้กลับมาเป็นพรรคหลักได้เหมือนเดิม
“ผมคิดว่าการเดินทางของพรรคประชาธิปัตย์ได้มาถึงวันนี้ปีที่ 78 เรามีทั้งสูงสุด และต่ำสุด วันนี้สิ่งที่เราบอกว่าเราบอกว่ามีเจตนาดีต่อพรรค ก็ต้องมาช่วยกันแสดงความคิดเห็น คิดว่าหัวหน้าพรรคคนใหม่ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน มาเพื่อแก้วิกฤต มาเพราะพวกเราไปขอร้องมา ก็พร้อมเราฟังทุกปัญหา รับฟังทุกเสียง ไม่ได้เป็นพรรคอะไหล่ จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเข้มแข็ง เป็นการประกาศชัดเจนในการทำงานในอนาคต ส่วนนโยบายพรรคต้องยอมรับว่าการเมืองไทยเป็นการแข่งขันทางความคิด เพราะฉะนั้นเราต้องรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน คือปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง เราต้องเสนอนโยบายให้ได้ ปัญหายาเสพติด ปัญหาการศึกษา การว่างงาน เป็นสิ่งที่พรรคต้องคิดว่านโยบายเหล่านี้จะมีการแก้ไขอย่างไร”นายชัยชนะ กล่าว
เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับผู้ใหญ่หรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า ต้องพูดคุยทุกคน เพราะทุกคนเป็นประชาธิปัตย์ ไม่มีฝ่าย อย่าคิดว่าเป็นฝ่ายโน้นฝ่ายนี้ วันนี้ลืมความหลัง และว่ากันในอนาคต มาช่วยกันทำ ท่านหัวหน้าพรรคและพวกผม กรรมการบริหารพรรคพร้อมคุยกับผู้ใหญ่ทุกคน หลังจากนี้จะเดินหน้าไปปรึกษาหารือกับผู้ใหญ่ แล้วไปเชิญชวนสมาชิกพรรคที่เคยลาออกให้กลับมาเป็นสมาชิกพรรคใหม่ ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่เราต้องการ
เมื่อถามว่านายสาธิต ปิตุเตชะ อดีต สส.ระยอง พรรค ปชป. ระบุว่าคนไม่มีสัจจะ จะไม่สามารถนำพรรคได้ในสถานการณ์เช่นนี้ นายชัยชนะกล่าวว่า ก็เป็นเรื่องของนายสาธิตที่มีสิทธิ์ที่จะพูดว่ากล่าวได้ ซึ่งเราก็ยอมรับในคำพูดของทุกคน และตนคงไม่ไปโต้เถียงใคร วันนี้ไม่ใช่เวลาโต้เถียง เป็นเวลาที่เริ่มต้นการทำงานที่จะฟื้นฟูพรรค ส่วนใครจะติชมหรือตำหนิอย่างไรเราก็พร้อมรับฟัง เราฟังได้ อดทนได้ แต่สิ่งที่สำคัญเหนือคำพูดคือ ผลการเลือกตั้งข้างหน้าว่ากรรมการบริหารพรรคชุดใหม่. จะนำพาให้ได้ที่นั่งมากกว่าเดิมหรือไม่
เมื่อถามว่า หากสมาชิกพรรคหลายคนต่อต้าน จะนำไปสถานการณ์พรรคแตกหรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า ”ใครต่อต้านครับ สมาชิกทั้ง 25 คนที่มีอยู่ตอนนี้ เสียง 23 คนรับได้ ส่วนสาขาพรรคเสียงส่วนใหญ่ก็เลือกมา ส่วนคนที่ลาออกรักพรรคหรือรักตัวเอง หากรักพรรคต้องทำงานได้กับผู้นำองค์กรนั้น ทุกคนที่ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคก็มีส่วนหนึ่งที่ไม่เห็นด้วย เมื่อวานนี้ (9 ธ.ค.) ตนสนับสนุนนายเฉลิมชัยเป็นหัวหน้าพรรค ถ้ามีคนอื่นเป็นเป็นหัวหน้าพรรคตนก็ไม่ลาออก และพร้อมทำงานกับคนใหม่ ถ้าไม่ได้นายเฉลิมชัยแล้วลาออกแสดงว่าตนรักตัวเอง
เมื่อถามว่า พร้อมที่จะทำงานเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่าพร้อมจะพลิกขั้วไปร่วมรัฐบาล เพราะในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมาเคยมีการยกมือสนับสนุนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง นายชัยชนะ กล่าวว่า การโหวตนายกฯตนพูดชัดเจนว่า เป็นการหาทางออกให้ประเทศชาติ และเราเป็นฝ่ายค้าน เราไม่ได้บอกว่าโหวตเพื่อเป็นรัฐบาล ซึ่งตนเป็นหนึ่งใน 16 คนที่โหวตให้นายเศรษฐา และหลังจากวันโหวตนายกรัฐมนตรีวันนั้นและวันนี้ว่าตน ทำงานตรวจสอบ อภิปราย และตั้งคำถามถึงนายกฯ หรือไม่ และวันนี้เราก็เป็นฝ่ายค้านอยู่
“ส่วนที่มีข่าวว่าเราหวังเป็นรัฐบาลใครพูด จุดประสงค์ดีหรือเปล่าที่มาพูดอย่างนี้ วันข้างหน้าเรายังไม่รู้เลย พรุ่งนี้ตื่นขึ้นมายังไม่รู้เลยจะหายใจ ไม่ต้องพูดถึง 5-6 เดือนข้างหน้า วันนี้และวันพรุ่งนี้เราทำหน้าที่ฝ่ายค้านอยู่ สมมุตินอนแล้วตายไปทราบหรือว่าจะเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นอนาคตอย่าไปคาดหวังว่าจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ เป็นเรื่องของอนาคต แต่วันนี้เราเป็นฝ่ายค้านก็ต้องทำให้ดีที่สุด” นายชัยชนะ กล่าว
