วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
spot_img
หน้าแรกHighlight''วัฒนา''ใช้สิทธิ์อุทธรณ์ตามรธน.60
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

”วัฒนา”ใช้สิทธิ์อุทธรณ์ตามรธน.60

รอดนอนคุก ’’วัฒนา เมืองสุข’’เผยใช้สิทธิอุทธรณ์คำพิพากษาไปยังศาลที่สูงกว่าตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 หลังศาลให้ประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ 10 ล้านบาทและ สั่งห้ามออกนอกประเทศ เว้นได้รับอนุญาต

เมื่อวันที่ 24 ก.ย. นายวัฒนา เมืองสุข เปิดเผยภายหลังได้รับการประกันตัวว่า รู้สึกดีใจที่ตัวเป็นเคสแรกกรณีที่โทษสูงแต่ศาลให้ประกันตัว เพราะได้กราบเรียนศาลว่าตัวเองว่าความ ทำคดีเอง เอกสารมีเป็นหมื่นหน้าอยู่ในไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ ถ้าไม่อนุญาตให้ประกันตัวจะไม่สามารถอุทธรณ์ได้ เพราะในเรือนจำไม่อนุญาตให้นำเครื่องมือสื่อสารเข้าไป

ทั้งนี้ศาลอนุญาตประกันตัวด้วยเหตุผลว่า เชื่อว่าตัวเองไม่มีพฤติการณ์หลบหนีและมาศาลทุกนัด ส่วนการอุทธรณ์ไม่ต้องมีพยานใหม่เป็นการคัดค้านดุลพินิจของศาล เป็นเรื่องความเห็นที่ไม่เหมือนกัน ว่ากันที่เหตุผล ขึ้นอยู่กับที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาจะมีความเห็นอย่างไร

”ตัวเองได้ประโยชน์จากรัฐธรรมนูญที่ให้สิทธิอุทธรณ์ได้ว่า ไม่ใช่ได้ประโยชน์จากรัฐธรรมนูญปี 2560 หลักการอุทธรณ์ได้เป็นกฎหมายระหว่างประเทศ ICCPR ซึ่งประเทศไทยเป็นภาคีสมาชิกอยู่ เขียนว่า การพิจารณาคดีต้องทำต่อหน้าจำเลยและในคดีอาญา จำเลยย่อมมีสิทธิอุทธรณ์คำพิพากษาไปยังศาลที่สูงกว่า ดังนั้นรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ไม่ได้ให้ประโยชน์อะไรตน เป็นสิ่งที่ประเทศไทยต้องทำตาม ICCPR ”

สำหรับคดีดังกล่าวศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้นัดอ่านคำพิพากษาคดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติ หมายเลขดำ อม.42/2561 ที่อัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายวัฒนา เมืองสุข อายุ 62 ปี อดีต รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.), นายมานะ วงศ์พิวัฒน์ อดีตกรรมการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) และอดีตประธานอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองโครงการปี 2548–2549, นายพรพรหม วงศ์พิวัฒน์ อดีตผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน), นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง นักธุรกิจค้าข้าวรายใหญ่, นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง หรือกี้ร์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย และกลุ่มเอกชน รวม 14 ราย เป็นจำเลย

ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ ข่มขืนใจหรือจูงใจเพื่อให้บุคคลใดมอบให้หรือหามาให้ซึ่งทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเองหรือผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต มาตรา 157, ฐานเป็นพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อให้กระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 และตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 6, 11 และเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 86, 91

โดยศาลพิพากษาว่า นายวัฒนา เมืองสุข จำเลยที่ 1 มีความผิดทั้งหมด 11 กระทง ลงโทษจำคุกกระทงละ 9 ปี รวมทั้งหมด 99 ปี ตามกฎหมายให้จำคุกได้สูงสุด 50 ปี จำเลยที่ 4 นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง มีความผิด 11 กระทง ลงโทษจำคุกกระทงละ 6 ปี รวมทั้งหมด 66 ปี ตามกฎหมายให้จำคุกได้สูงสุด 50 ปี จำคุกจำเลยที่ 5 เป็นเวลา 20 ปี จำเลยที่ 6 เป็นเวลา 44 ปี จำเลยที่ 7 เป็นเวลา 32 ปี ปรับจำเลยที่ 8 เป็นเงิน 275,000 บาท และจำคุก นายอริสมันต์ หรือกี้ร์ พงษ์เรืองรอง จำเลยที่ 10 เป็นเวลา 4 ปี ยกฟ้องจำเลยที่ 2, 3, 9 และ 11-14


- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img