ปมร้อน คุมขังนอกเรือนจำ ที่โยงถึง “นักโทษชาย ทักษิณ ชินวัตร” จากผลพวง “ระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ.2566” ที่ประกาศเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.66 ซึ่งลงนามโดย “สหการณ์ เพ็ชรนรินทร์” รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมราชทัณฑ์
ที่แม้จะออกตาม พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ฯ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมปี 2560 ในยุครัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่กระบวนการในการออกระเบียบมาเพื่อรองรับกฎหมายใหญ่ ก็ถูกวิจารณ์ไม่น้อยว่า ทำไมมาเลือกออกในช่วงนี้ ช่วงที่ “ทักษิณ” ออกมารักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ เกิน 120 วันไปแล้วเมื่อ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมา และตอนนี้ก็ไม่ได้ถูกส่งตัวกลับไปที่เรือนจำพิเศษ กรุงเทพมหานคร
นั่นหมายถึงว่า มีการต่อเวลาให้ “ทักษิณ” ได้อยู่ที่รพ.ตำรวจต่อไป ท่ามกลางเสียงวิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงการเลือกปฏิบัติกับ “ทักษิณ” ที่เหมือนเป็น “นักโทษซุปเปอร์วีไอพี-นักโทษเทวดา”
ที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลเพื่อไทย-เศรษฐา ทวีสิน อย่างมาก เพราะหากไม่ใช่นายทักษิณ มีหรือที่นักโทษทั่วไป จะได้รับอภิสิทธิ์เยี่ยงนี้
กรณี “ทักษิณ” จึงทำให้ ความเชื่อถือของประชาชนในเรื่อง หลักนิติธรรม (Rule of Law) ที่มีต่อรัฐบาล สั่นคลอนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โดยแม้ตอนนี้ ดูแล้วการพิจารณา ว่าจะให้นักโทษรายใด ได้ไปถูกคุมขังนอกเรือนจำ คงไม่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปีนี้ 2566 เพราะมีข่าวว่า “คณะทำงานพิจารณาการคุมขังในสถานที่คุมขัง” ที่มี “รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์” เป็นประธาน ที่จะมาพิจารณากลั่นกรองการให้ผู้ต้องขังรายใดคุมขังในสถานที่คุมขัง ซึ่งมีข่าวว่า คณะกรรมการฯจะมีการพิจารณารายชื่อในต้นปีหน้า คือเดือนม.ค.67
นั่นย่อมทำให้ “ทักษิณ” คงไม่สามารถกลับไปเคาท์ดาวน์ที่ บ้านจันทร์ส่องหล้า ในคืนวันที่ 31 ธ.ค.66 อย่างที่เคยถูกคาดหมายไว้แต่แรก
กระนั้น “ทักษิณและครอบครัวชินวัตร” ก็คงพอเข้าใจได้ เพราะลำพังแค่นี้ การได้อยู่ชั้น 14 ถึง 4 เดือนเต็ม ไม่ต้องนอนในคุกแบบนักโทษทั่วไป และกำลังอาจจะได้ไปอยู่ในสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง ที่ไม่ใช่รพ.ตำรวจ และไม่แน่ อาจเป็นบ้านก็ได้ เพื่อคุมขังนอกเรือนจำ เพื่อลดแรงกดดันที่มีต่อรัฐบาล หลังจากเรื่องนี้ ทำให้รัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ติดหล่มทางการเมืองมาหลายเดือน มันก็น่าจะทำให้ “ทักษิณ” น่าจะพอเข้าใจและยอมรับได้
เพราะถ้า “ทักษิณ” ได้อภิสิทธิ์มากกว่านี้ จนคนในสังคมมองว่า รัฐบาลเอื้อประโยชน์ช่วยเหลือ “ทักษิณ” มากเกินไป จนคนรับไม่ได้ มันก็อาจเป็นความไม่พอใจที่มีต่อรัฐบาล สะสมไว้เรื่อยๆ เพื่อรอวันปะทุออกมาในวันข้างหน้าก็ได้ ซึ่งของแบบนี้ “ทักษิณ” ก็รับรู้ดี และไม่ประมาท เพราะยังไง “ทักษิณ” ย่อมต้องการให้รัฐบาลอยู่ให้ได้นานที่สุด เพื่อหวังให้ “อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร” เข้าไปเป็นรัฐมนตรี หรือแม้กระทั่งตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” แทน “เศรษฐา ทวีสิน” ก่อนเลือกตั้งอย่างที่ถูกคาดหมายไว้
แต่กรณี “ทักษิณ” นอกจากทำให้ ข้าราชการในกรมราชทัณฑ์ กระอักกระอ่วนใจแล้ว เพราะตอนนี้ ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล ก็ “ลับดาบ” เอาผิดทุกดอก ตอนนี้ เจอทั้ง “ศรีสุวรรณ จรรยา” ไปฟ้องต่อ “ศาลปกครอง” แล้วก็ยังมี “วัชระ เพชรทอง” อดีตสส.ประชาธิปัตย์ ก็ไปยื่นคำร้องต่อ “ป.ป.ช.” ให้เอาผิดข้าราชการกรมราชทัณฑ์ และยังไม่หมดแค่นี้ คาดว่าจะมีอีกหลายคน จ้องเอาผิดเล่นงาน “คนในกรมราชทัณฑ์” รวมถึง “บรรดาแพทย์ในรพ.ตำรวจ” ที่เป็นข้าราชการตำรวจ ในข้อกล่าวหาว่า มีเจตนาช่วยเหลือ ไม่ให้ทักษิณ ถูกส่งตัวกลับไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
งานนี้ทำเอา “ข้าราชการในกรมราชทัณฑ์หลายคน” อาจต้องหนาวๆ ร้อนๆ กันว่า จะโดนเช็คบิลเอาผิดทางอาญาขึ้นมาภายหลัง
ขณะที่ฝ่ายการเมือง เห็นชะตากรรมมาแต่ไกล ว่าโดนแน่ ก็คือ “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” รมว.ยุติธรรม-หัวหน้าพรรคประชาชาติ ที่เจ้าตัวรู้ดีอยู่แล้ว ตั้งแต่ตอนตั้งรัฐบาลว่า หากเข้ามาเป็นรมว.ยุติธรรม จะต้องคอยรับเผือกร้อนเรื่อง “ทักษิณ” แล้ว “พ.ต.อ.ทวี” ก็เจอจริงๆ
ที่ดูแล้ว ยังไง “รมว.ยุติธรรม” โดนฝ่ายค้านไล่กระชวกแน่ เพียงแต่จะหนักหรือเบาเท่านั้นเอง จะเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงมติ หรือจะอภิปรายทั่วไปไม่ลงมติเท่านั้นเอง ทั้งหมดขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในช่วงที่ฝ่ายค้านต้องตัดสินใจ ช่วงเดือนเม.ย.67 ว่าจะยื่นซักฟอกหรือไม่???
ซึ่งหากยื่นซักฟอกแบบลงมติ ก็คาดว่า ชื่อของ “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” รมว.ยุติธรรม คงไม่รอด โดนฝ่ายค้านถล่มแน่ โดยเฉพาะฝ่าย “ประชาธิปัตย์” ก็มีหนี้แค้นกับ “พ.ต.อ.ทวี” หลายเรื่องก่อนหน้านี้พอสมควร อาจถึงเวลาต้องสะสาง
แต่ที่ต้องจับตามองก็คือ บทบาทของ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลกระทรวงยุติธรรม และยังเป็น “อดีตรมว.ยุติธรรม” ที่เป็นรัฐมนตรีของเพื่อไทย ที่ออกมา ปกป้อง “ทักษิณ” เต็มที่ ไม่มีหลบ ไม่มีหลีก ผิดกับ “พ.ต.อ.ทวี” รมว.ยุติธรรม ที่คอยหลบฉากสื่อทุกเมื่อ ยามถูกถามเรื่อง “ทักษิณ”
แต่กับ “สมศักดิ์” เวลาถูกสื่อถามเรื่องนี้ ในช่วงหลังก็ยืนปักหลัก คอยชี้แจงการออกระเบียบดังกล่าวของกรมราชทัณฑ์เต็มที่ ถึงกับออกมา “ยืดอก” บอกเลยว่า ระเบียบดังกล่าว “ทักษิณ” เข้าหลักเกณฑ์ที่จะได้รับการพิจารณาให้คุมขังนอกเรือนจำได้ งานนี้ทำเอา “พ.ต.อ.ทวี” อายม้วน ที่ไม่กล้าเหมือน “สมศักดิ์”
แถมล่าสุด ยังออกมาเตือน กรรมาธิการตำรวจฯ ที่ประกาศจะบุกรพ.ตำรวจ หลังปีใหม่ 12 ม.ค.67 1เพื่อดูว่า “ทักษิณ” ป่วยจริงและยังอยู่รพ.ตำรวจหรือไม่ โดยบอกว่า “หากเขาไม่อนุญาตก็ไม่ได้ เพราะเป็นเอกสิทธิ์ของผู้ป่วย และหากถามว่าเป็นโรคอะไร เจ็บป่วยอะไร และเขาไม่อยากเปิดเผย หากเปิดเผยจะถูกฟ้องตายห่า”
แบบนี้ เรียกได้ว่า ถูกอก-ถูกใจ “ทักษิณ-ตระกูลชินวัตร” มากที่ “สมศักดิ์” กล้าชนให้ ผิดกับ “รัฐมนตรีหลายคน” ที่คอยตีชิ่ง
ทำให้ต้องรอดูกันว่า การปรับครม.ไม่รอบใดก็รอบหนึ่งในปีหน้า “สมศักดิ์” อาจได้เก้าอี้ที่ดีขึ้นกว่า “รองนายกฯ” ที่เจ้าตัวไม่แฮปปี้เท่าใดนัก เพราะอยากเป็นรัฐมนตรีคุมกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งมากกว่า
กรณีของ “ทักษิณ” จึงทำให้ “พ.ต.อ.ทวี” ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก แต่ทำให้ “สมศักดิ์” กำลังแสดงบทบาทที่ทำให้เจ้าตัว….ลุ้นได้เก้าอี้รัฐมนตรีที่ดีขึ้น…ในอนาคตอันใกล้
…………………………………….
คอลัมน์ : ส่องป้อมค่ายการเมือง
โดย “พระจันทร์เสี้ยว”