ปชป. จับตากระบวนการเจาะขุมทรัพย์ 3.5 ล้านล้านบาท ปตท. ชี้ทำลายภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือ บมจ. ในตลาดหลักทรัพย์ วอนรัฐบาล หยุดเล่นละครแทรกแซง เอาคนมีอำนาจไปแสวงหาผลประโยชน์
เมื่อวันที่ 2 ม.ค.67 นายชนินทร์ รุ่งแสง รองเลขาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ตั้งแต่รัฐบาลบริหารประเทศช่วงเดือนต.ค.66 เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงภายในบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) โดยมีการเปลี่ยนประธานกรรมการ ปตท. ถึง 3 ครั้ง เริ่มตั้งแต่ประธานคนเดิมคือ นายทศพร ศิริสัมพันธ์ อดีตเลขาธิการสภาพัฒน์ ซึ่งถือว่ามีคุณสมบัติที่เหมาะสมอยู่แล้ว และเปลี่ยนมาเป็นนายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน ซึ่งก็ยังดูเหมาะสมอยู่บ้าง ถึงแม้เป็นข้าราชการประจำ ที่กำกับดูแลด้านพลังงาน แต่การเปลี่ยนประธานครั้งหลังสุด มาเป็นนายฉัตรชัย พรหมเลิศ กรรมการอิสระ มาเป็นประธานกรรมการ ก็มีการวิจารณ์ว่า ไม่มีคุณสมบัติ ไม่มีความรู้ ความสามารถ ไม่เหมาะกับการกำกับดูแลบริษัทแห่งนี้ เพราะนายฉัตรชัยเป็นสายงานกระทรวงมหาดไทยมาก่อน ถือว่าผิดฝาผิดตัว ถึงแม้ทุกฝ่ายทราบดีว่า นายฉัตรชัยเปรียบเหมือน “มิสเตอร์คอนเน็คชั่น” ประสานได้ทุกฝ่ายก็ตาม แต่การเปลี่ยนประธานบ่อย ใช้คนไม่เหมาะสม ก็จะส่งผลกระทบได้ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดจึงมีการเปลี่ยนประธานกรรมการ ปตท. ในช่วงกำลังที่จะมีการสรรหาประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ หรือ CEO คนใหม่ แทนนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ที่ใกล้ครบวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี ในเดือนพ.ค.67
สำหรับที่ผ่านมา ปตท. ถือเป็นขุมสมบัติที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ปตท.มีทรัพย์สินและยอดขายมากกว่า 3.5 ล้านล้านบาท กลับมีผู้ที่มีอำนาจเข้าไปแทรกแซง และมีผลประโยชน์มากมายในบริษัทมหาชนแห่งนี้ ซึ่งอาจทำลายภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือของบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทย
นายชนินทร์ กล่าวว่า ดังนั้น หยุดเล่นละครแทรกแซง เกินงาม และในฐานะที่รัฐบาลเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และกำกับดูแลบริษัทมหาชนขนาดใหญ่ หรือเกินกว่าความหมายของการกำกับดูแลที่ดีในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ. ซึ่งต้องให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของทุกภาคส่วน ควรหาคนมืออาชีพ มีความรู้ ความสามารถที่แท้จริง มาเป็นประธาน และอย่าแทรกแซง การคัดสรร CEO เพราะตามขั้นตอนปกติของบริษัทมหาชน ต้องเปลี่ยนกรรมการและประธาน ในช่วงการประชุมใหญ่สามัญประจำปีเท่านั้น
สำหรับเรื่องนี้ ตนได้มีการพูดคุยกับนายนริศ ขำนุรักษ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะได้รับมอบหมายจากพรรคเป็นพี่เลี้ยงดูแล สส.ในสภา เพื่อให้มีการเคลื่อนไหวติดตามและตั้งกระทู้ถามในสภาต่อไป
นายชนินทร์ ย้ำอีกว่า รัฐบาลควรหยุดแทรกแซงและจัดให้มีการกำกับดูแลที่ดี เหมาะสม ไม่ให้กลุ่มอำนาจเข้าไปมีผลประโยชน์ในบริษัท เพื่อให้การทำงานของบริษัทยึดผลประโยชน์ของทุกภาคส่วนอย่างดีที่สุด อีกทั้งควรพิจารณาให้มีการหาผู้ที่ดำรงตำแหน่งสำคัญสำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นประธานคณะกรรมการบริหาร และรวมทั้งกระบวนการในการสรรหาประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ หรือ CEO ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และได้มาซึ่งบุคคลที่เหมาะสมในการทำงานของ ปตท.ต่อไป