“นายกฯ” ยันรบ.ใส่ใจ-ใส่เงินจัดงบฯลงใต้ไม่กีดกัน แบ่งแยกคนใต้ ทุ่มหลายโครงการพัฒนาพื้นที่ ลั่น 4 ปีจะทำให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีอย่างไม่เคยมีมาก่อน
วันที่ 5 ม.ค.2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน3.48ล้านล้านบาท วาระแรก ต่อเนื่องเป็นวันที่3 ต่อมาเวลา 17.57 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.การคลัง ชี้แจงว่า วันนี้ตนนั่งฟังอยู่พยายามที่กลั่นกรองคำติชม คำแนะนำ จากสมาชิกสภาทุกๆท่าน มีเรื่องหนึ่งที่ติดใจอยู่อยากจะชี้แจงเพิ่มในการดูแลพี่น้องประชาชานภาคใต้ แม้ตนชี้แจงไปแล้ว แต่วันนี้ก็ยังมีข้อกังขาอีก ไม่เป็นไรเป็นฝ่ายบริหารก็ต้องชี้แจง ตนขอแยกเรื่องระหว่างความมั่นคงกับความมั่งคั่ง การใส่เงินกับการใส่ใจ เรื่องงบประมาณเป็นเรื่องของการใส่เงิน เราไม่ได้คิดว่าภาคไหนจะได้เงินเท่าไหร่ เราให้เกียรติพี่น้องประชาชนเท่าเทียมกัน เสมอภาค ไม่เคยกีดกัน แบ่งแยก เป็นความสัจจริงและเป็นปรัชญาหลักในการทำงบประมาณฉบับนี้ขึ้นมา ใส่เงินก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่วันนี้จะพูดเรื่องใส่ใจด้วยจากรัฐบาลนี้
นายกฯ กล่าวต่อว่า ตั้งแต่เป็นนายกฯตนลงภาคใต้หลายครั้ง หลายโครงการอยู่ในภาคใต้ไม่ว่าจะเป็นแลนด์บริด เพื่อทำให้ประชาชนคนใต้ทั้งหมด การขยายสนามบินภูเก็ต หรือสนามบินอันดามัน ไม่ใช่ทำให้จังหวัดภูเก็ตเจริญอย่างเดียว แต่ยังมีจังหวัดกระบี่ จังหวัดพังงา และลงไป 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไปสองหน ไปเจรจาเรื่องการค้า ไปดูชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องชาวใต้ ไปพบนายกฯมาเลเซีย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกาก่อสร้างสะพานที่สอง การสร้างนิคมอุตสาหกรรม การตรวจคนเข้าเมืองทำให้การท่องเที่ยวระหว่างประเทศดีขึ้นมาก ทำให้พี่น้องมีกินมีใช้ มีเงินเยอะขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับความมั่นคง ส่วนความรุนแรงก็ลดน้อยลง แต่ถ้าวันนี้เราทำเรื่องมั่นคงดีขึ้นมากๆ เรื่องความมั่งคั่งก็เป็นเรื่องที่สำคัญ เป็นเรื่องที่รัฐบาลนี้ต้องนำความเจริญ ต้องนำเศรษฐกิจที่มีการพัฒนา มีการยกระดับ เพื่อให้พี่น้องประชาชนยกระดับมีเงินอยู่ในกระเป๋ามากยิ่งขึ้น
นายกฯกล่าวว่า สิ้นเดือนหน้าตนจะลงไปในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ไม่ใช่ดูแลเรื่องความมั่นคง หรือดูแลเรื่องความแตกแยก แต่จะไปดูเรื่องเศรษฐกิจ จะลงไปพร้อมรัฐมนตรีท่องเที่ยว รัฐมนตรีวัฒนธรรม เพื่อไปดูเรื่องต่างๆเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ดูเรื่องศิลปวัฒนธรรม อาหาร ตนเชื่อว่ามีของดีอยู่มากใน 3 จ.ชายแดนใต้ ถ้ารัฐบาลให้ความใส่ใจเหมือนที่เราทำอยู่ขณะนี้ เมืองยะลามีผังเมืองสวยที่สุด อาหารใต้มีเสน่ห์ มีเอกลักษณ์ แต่ขาดการโปรโมทในเวทีระดับโลก หากมีการสนับสนุนกันอย่างต่อเนื่องจะนำเงินเข้าสู่ประเทศเยอะไ ทำให้ชาวใต้มีเงินมีใช้มากขึ้น ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ หรือปลานิลสายน้ำไหล ว่ายสวนน้ำ ตัวละ 3 พันบาท รบจะลงไปสร้างตลาดรองรับ ส่วนปัญหาสนามบินเบตง-ยะลาที่ขณะนี้ สายการบินหยุดการบินไปแล้วนั้น ก็คาดหวังว่าจะมีสายการบินไปเปิดการบินในต่ออนาคต แต่บินลงได้เฉพาะเครื่องบินใบพัดเท่านั้น ถ้าเครื่องบินพาณิชย์ต้องบินวนล้ำเขตแดนมาเลเซีย ตนจะจะไปเจรจากับนายกฯมาเลเซีย อนุญาตให้ประเทศไทย สามารถใช้เครื่องบินแอร์บัส ทำการบินในสนามบินดังกล่าวได้ เนื่องจาก เครื่องบินจะต้องล้ำเข้าไปในดินแดนมาเลเซียเล็กน้อยด้วย
“ผมมั่นใจภายใน 4 ปีที่เป็นนายกฯจะนำความมั่งคั่ง จะทำให้ชีวิตประชาชนมีความเป็นอยู่ที่มั่นคง โดยเฉาพะประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ จะดีขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนแน่นอน”นายกฯ กล่าว