แรงขายหุ้นแบงก์ กดตลาดกดหุ้นไทยร่วง

หุ้นไทยปิดลบ 1.41 จุด แรงขายหุ้นกลุ่มแบงก์ หลังโบรกเกอร์ใหญ่ต่างชาติ Downgrade มองดัชนีพรุ่งนี้เคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 1,407 จุด และแนวต้าน 1,418 จุด

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงภาวะตาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,413.52 จุด ลดลง 1.41 จุด หรือ 0.10% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 45,472.82 ล้านบาท ว่า ตลาดหุ้นไทยพักตัว เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขาย เพื่อรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐคืนวันพฤหัสบดีและผลการเลือกตั้งไต้หวันในวันเสาร์นี้ ทำให้บรรยากาศการลงทุนในภาพรวมเป็นลักษณะแกว่งออกด้านข้างคล้ายกับตลาดหุ้นเอเชีย ซึ่งการเลือกตั้งในไต้หวันจะส่งผลต่อความกังวลความขัดแย้งระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ

นอกจากนี้ได้รับแรงกดดันจากแรงขายหุ้นกลุ่มแบงก์ที่ถูกโบรกเกอร์ใหญ่ต่างชาติ Downgrade ทำให้ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบ อย่างไรก็ตาม ยังมีแรงซื้อกลุ่มโรงไฟฟ้าจากการปรับขึ้นค่าไฟงวด ม.ค.-เม.ย.67 ขยับจาก 3.99 บาทต่อหน่วยมาเป็น 4.18 บาทต่อหน่วย และกลุ่มไฟแนนซ์คาดหวังดอกเบี้ยลดลง หลังจากรัฐบาลพยายามพูดคุยกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชี้แจงเหตุผลที่ไม่เห็นด้วยกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยช่วงก่อนหน้านี้

สำหรับแนวโน้มในพรุ่งนี้คาดตลาดแกว่งออกด้านข้างระหว่างรอติดตามปัจจัยต่างประเทศ และปัจจัยในประเทศ ทั้งความชัดเจนของมาตรการ Digital Wallet และการแก้ไขปัญหาภาระหนี้ทั้งภาคครัวเรือนและภาคองค์กรที่ยังอยู่ในระดับสูงให้กรอบแนวรับ 1,407 จุด และแนวต้าน 1,418 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,973.32 ล้านบาท ปิดที่ 150.00 บาท ลดลง 4.50 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,781.85 ล้านบาท ปิดที่ 129.50 บาท ลดลง 3.00 บาท

BH มูลค่าการซื้อขาย 1,694.03 ล้านบาท ปิดที่ 235.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท

BDMS มูลค่าการซื้อขาย 1,281.93 ล้านบาท ปิดที่ 27.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,154.77 ล้านบาท ปิดที่ 63.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท