หมอตกใจคนไข้วัย 37 ปีตรวจเจอมะเร็งตับ ทั้งที่ออกกำลังกายประจำไม่ดื่ม 2 เดือนเสียชีวิต เผยแสดงอาการแค่ 1 อาทิตย์ โผล่มาในระยะที่รักษาไม่ได้แล้ว แนะให้ตรวจไวรัสตับอักเสบบีและซี
เมื่อวันที่ 17 ม.ค.เพจ เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล โพสต์เล่าเรื่องราวของคนไข้ที่ป่วยเป็นมะเร็ง ความว่า สองภาพนี้เป็นของคนไข้ของผมเอง เป็นภาพเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ CT scan จากบริเวณช่องท้องส่วนบน ส่วนใหญ่ของนั่นคือ ตับที่โตผิดปกติ เนื้อตับปกติ หน้าตาจะประมาณมุมซ้ายล่าง ออกสีขาวเป็นเนื้อเดียวกัน
ส่วนที่เหลือเกินครึ่ง ที่มีสีดำ กระจาย แทรกไปทั่วๆ ใหญ่บ้างเล็กบ้าง นั่นคือ สิ่งผิดปกติ ในที่นี่ คือ มะเร็ง (ใช้คำว่า ในที่นี้ เพราะบางกรณี จุดดำๆ มันก็เป็นอย่างอื่นได้นะครับ เช่น ถุงน้ำ หนอง )
เป็นมะเร็งตับที่ทำให้คนไข้ปวดท้อง กินไม่ได้ ตัว ตาเหลือง ประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนมา รพ. ความน่าตกใจของมันก็คือ แสดงอาการแค่ 1 อาทิตย์ โผล่มาในระยะที่ รักษาไม่ได้แล้ว
ความน่าตกใจข้อที่ 2 ก็คือ คนไข้ อายุเพียงแค่ 37 ปี ความน่าตกใจข้อที่ 3 คือ คนไข้เป็นคนออกกำลังกาย ไม่ดื่มเหล้า ความน่ากลัว ก็คือ คนไข้เสียชีวิตในเวลาแค่ 2 เดือน หลังตรวจเจอ ครอบครัวพาไปปรึกษา อาจารย์แพทย์ที่ โรงเรียนแพทย์แห่งหนึ่ง เห็นว่า ร่างกายไม่แข็งแรงพอ ที่จะรับยาใดๆ ได้แล้ว
ในความน่าตกใจ ความน่ากลัว มันยังมีความน่าเสียดายซ่อนอยู่ เคสนี้ คือ ตัวอย่างของคนที่เป็นมะเร็งตับ จากการติดเชื้อไวรัสตับ โดยที่ไม่เคยมีอาการใดๆ ทางตับ ไม่มีความเสี่ยงเรื่องการดื่มแอลกอฮอล์
ไวรัสตับ ที่ก่อให้เป็นมะเร็งตับ หลัก ๆ ก็คือ ไวรัสตับบี และไวรัสตับซี
คนไข้บอกว่า “เคยตรวจเจอเมื่อนานมาแล้ว (> 10 ปี) แต่ตอนนั้น หมอบอกว่ายังไม่เป็นอะไร”
ความน่าเสียดาย มันอยู่ที่ตรงนี้ ไวรัสตับบี ไวรัสตับซี ปัจจุบัน รักษาได้ เมื่อรักษาแล้วก็จะลดโอกาส หรือ ป้องกันการเกิดมะเร็งตับได้ แต่คนส่วนหนึ่ง เสียโอกาสนี้ไป
ทำไม ?
1. กรณีของคนไข้ผม ตรวจเจอแต่ไม่ได้มีการติดตาม จนพลาดโอกาสไป ต้องปูพื้นฐานนิดนึง กรณีคนที่มีเชื้อไวรัสตับ ณ. ปัจจุบัน ไม่ใช่ทุกคนต้องรักษา ส่วนหนึ่ง มันอยู่ในภาวะสงบ ไม่มีอาการ ค่าการทำงานของตับปกติ ปริมาณเชื้อในร่างกายน้อยแบบนี้ มันก็อยู่กับเราแบบเงียบๆไปตลอดชีวิตของเรา
ก็ไม่จำเป็นต้องกินยารักษาใดๆ
การตรวจติดตาม จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ผมเองต้องย้ำคนไข้ทุกครั้งที่เจอกันว่า ตอนนี้ไม่มีอะไร แต่หมอนัด มาเรื่อยๆ อย่าเพิ่งเบื่อกันนะครับ ( 3 เดือน 6 เดือน ก็ว่ากันไป)
2. หลายคนไม่เคยตรวจเลย จึงไม่รู้ และการตรวจสุขภาพทั่วไป หลายกรณีไม่มีการตรวจหาไวรัสตับ
(หากจำไม่ผิด ตรวจสุขภาพของบัตรทอง หรือ ของประกันสังคม ก็ไม่มี) คนไม่เคยเฉียด รพ. ไม่เคยตรวจเป็นเรื่องหนึ่ง แต่บางคนที่เคยตรวจสุขภาพแล้ว หมอบอกว่า ผลตรวจเลือดปกติ
บางคนก็เข้าใจว่า นั่นแปลว่า เคยตรวจทุกอย่างแล้ว ซึ่งหลายครั้งมันไม่ใช่ ส่วนตัว อยากให้ทุกคน ได้ตรวจหาไวรัสตับบี ซี สักครั้งในชีวิตมันราคาไม่สูง และได้ประโยชน์จริง
3. ยังมีข้อที่สาม องค์ความรู้มันเปลี่ยน แต่หมอเรายังไม่เปลี่ยน ไม่ตามความรู้ใหม่ๆ เมื่อ 20 ปีก่อน เจอ ไวรัสตับบี หมออาจจะบอกแค่ว่า ไม่เป็นไร ไม่ต้องรักษา เพราะตอนนั้นความรู้มันแค่นั้น ไวรัสตับซี ไม่ต้องทำอะไร เลิกกินเหล้าก็พอ อะไรทำนองนั้น
แต่ปัจจุบันมันไม่ได้แล้ว ผมเองต้อง เติมความรู้เรื่อยๆ ตอนนี้บางกรณียังไม่ต้องรักษา แต่ต่อไป การรักษาอาจจะเร็วขึ้นก็ได้
สรุป
สำหรับคนทั่วไป
– ใครไม่เคยตรวจ ตรวจสักครั้งในชีวิต ต้องบอกด้วยว่าขอตรวจ ไวรัสตับ ไม่ใช่แค่ ตรวจสุขภาพทั่วไป
– ใครเคยตรวจเจอ หมอบอกไม่ต้องทำอะไร ควรไปปรึกษาหมอใหม่อีกครั้ง ยังไงต้องมีการนัดติดตาม ผลเลือดเป็นระยะ
– ใครเคยตรวจเจอและ หมอนัดติดตาม แต่เราไม่ได้ไป เพราะขี้เกียจ หรือไม่มีเวลา ให้กลับไปหาหมอ ตรวจเป็นระยะๆ เถอะครับ ส่วนใหญ่ ไม่เป็นอะไร แต่ถ้ามีอะไรขึ้นมา รักษาได้ทันดีกว่าจะเสียใจภายหลัง
– สำหรับหมอ อัพเดทความรู้
– สำหรับ ระบบ ส่งเสริมการตรวจสุขภาพ ให้ตรวจกันมากขึ้นจะดีมาก