นายกฯไม่เห็นด้วยกับมติ กนง.คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2.5 แต่ไม่สิทธิ์ไปก้าวก่าย พร้อมยอมรับความเห็นต่าง ส่วนเป็นการบีบให้ถอยหรือไม่ ลั่น “ไม่มีความรู้สึกใดๆทั้งสิ้นครับ เป็นหน้าที่ที่ต้องบริหารจัดการเรื่องนี้แล้ว “
เมื่อวันที่ 7 ก.พ.67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานการประชุม กรรมการคณะกรรมการระดับระดับชาติ เพื่อเตรียมการจัดประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศปี 2569 ถึงกรณีที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 2.50 ต่อปีว่า ก็ต้องน้อมรับ เป็นหน้าที่ของ กนง.เราไม่มีสิทธิ์ แต่เมื่อผลโหวตออกมาแบบนั้นรัฐบาลไปก้าวก่ายไม่ได้
“ถ้าถามว่าเห็นด้วยไหม ก็ต้องบอกว่าไม่เห็นด้วย แต่ไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่ายอยู่แล้ว ทาง กนง. มีความเป็นอิสระในการดำเนินนโยบายทางการเงิน อย่างที่ผมเรียนและนายภูมิธรรมได้เรียนไปวานนี้ว่า เราอยากเห็นนโยบายการเงินการคลังไปด้วยกัน และตอนนี้ก็เงินเฟ้อติดลบ 4 เดือนแล้ว”นายเศรษฐา กล่าว
ส่วนมั่นใจหรือไม่ว่า จะฝ่าวิกฤตความเห็นต่างไปได้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญในสังคมไทย เราเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง มีพี่น้องประชาชนให้การสนับสนุน แต่ความเห็นต่างเป็นเรื่องที่สังคมต้องยอมรับได้ และความเห็นต่างเราจำเป็นต้องบริหารความคาดหวังซึ่งกัน ต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย และภายใต้กรอบที่ไม่ก้าวร้าวซึ่งกันและกัน ต้องบริหารจัดการกันไป เมื่อถามว่าเป็นการบีบให้ถอยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ไม่มีความรู้สึกใดๆทั้งสิ้นครับ เป็นหน้าที่ที่ต้องบริหารจัดการเรื่องนี้แล้ว “
ผู้สื่อข่าวถามว่า แม้มติครั้งนี้ กนง. ยังไม่ลดอัตราดอกเบี้ยแต่ก็ยังคาดหวังว่าครั้งหน้าจะลดลงใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ต้องดูตัวเลขไปเรื่อยๆ ตนเองก็ไม่ได้มีธงว่าต้องลดอะไร แต่ตัวเลขก็ออกมาตลอดเวลา ถ้าตัวเลขบ่งชี้ว่าไม่ต้องลดตนก็จะออกมาบอกความเห็นของตน ก็เห็นต่าง หรือเห็นด้วย หรือเห็นสมควร หรือว่าต้องมีการโน้มน้าว หรือต้องมีการพูดคุยก็ต้องต้องทำต่อไป
เมื่อถามว่า มีความเห็นต่างระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายปฏิบัติ จะเป็นอุปสรรคต่อการบริหารจัดการนโยบายต่อไปหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีอุปสรรคก็ต้องแก้ไขกันไปในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นปัญหายาเสพติด ปัญหาความปลอดภัยทางสังคม หรือปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 เมื่อเราอยู่ตรงนี้เราถูกเลือกเข้ามาแล้ว เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนถูกเลือกมาให้ดูแลปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ซึ่งปัญหาก็มีความยากง่ายแตกต่างกันไป ก็ต้องพยายามต่อไป ไม่ได้เสียกำลังใจหรือท้อถอย เพราะเรามายืนตรงนี้แล้ว ความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ต้องดูแลเมื่อมีความเห็นต่างก็ต้องพูดคุยกัน
ทั้งนี้การประชุม กรรมการคณะกรรมการระดับระดับชาติเพื่อเตรียมการจัดประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศปี 2569 มีชื่อของนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าร่วมประชุมด้วย แต่ปรากฏว่านายเศรษฐพุฒิ ส่งตัวแทนเข้าประชุมแทน