มติวุฒิสภาคว่ำ “พล.ต.ท.ธิติ ผบช.น.” วืดเก้าอี้ “กรรมการ ป.ป.ช.” หลังขาดคุณสมบัติไม่เป็นไปตามหลักกฎหมายพ.ร.ป. เทียบเท่าอธิบดี
เมื่อวันที่ 19 ก.พ.67 เวลา 09.20 น.ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา มีพล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตามที่คณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติและพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งป.ป.ช. ได้พิจารณาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก่อนส่งให้ที่ประชุมวุฒิสภาลงมติจะให้ความเห็นชอบหรือไม่
โดยเป็นการประชุมลับใช้เวลานาน 4 ชั่วโมง ที่ประชุมถกเถียงปัญหาขาดคุณสมบัติการเป็นผู้ได้รับการสรรหาเป็นป.ป.ช.ของพล.ต.ท.ธิติ อย่างเข้มข้น เพราะมาตรา 9 วรรค 2 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ระบุว่าต้องรับราชการหรือเคยรับราชการในตำแหน่งไม่ต่ำกว่าอธิบดี หรือหัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่าไม่น้อยกว่า 5 ปี แต่ตำแหน่งผบช.น.นั้น สว.หลายคนเห็นว่า ไม่สามารถเทียบเท่าได้กับตำแหน่งอธิบดี แม้จะอ้างพ.ร.บ.หลักเกณฑ์การเทียบตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่าอธิบดี พ.ศ.2562 และระเบียบก.ตร. ว่าด้วยหลักเกณฑ์การเทียบตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เทียบเท่าอธิบดี พ.ศ.2563 ให้ตำแหน่งผบช.น.สามารถเทียบเท่าอธิบดีได้นั้น แต่สว.หลายคนเห็นว่า พ.ร.บ.และระเบียบก.ตร.ดังกล่าว ใช้บังคับแค่หน่วยงานตำรวจหรือทหาร ไม่ครอบคลุมถึงองค์กรอิสระ
หลังเสร็จสิ้นการประชุมลับ ที่ประชุมลงมติไม่เห็นชอบพล.ต.ท.ธิติดำรงตำแหน่งป.ป.ช.ด้วยคะแนน 88 ต่อ 80 ไม่ออกเสียง 30 ถือว่าไม่ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา เพราะได้คะแนนเสียงเห็นชอบน้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสว.ที่มีอยู่หรือ 125 เสียง