วันจันทร์, พฤศจิกายน 25, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWSฉลุย! สภาฯรับหลักการ “ยกเลิกคำสั่ง คสช.” แก้ปัญหา 3 จ.ชายแดนใต้ “ภท.-รทสช.” หนุน ไร้ “พปชร.”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ฉลุย! สภาฯรับหลักการ “ยกเลิกคำสั่ง คสช.” แก้ปัญหา 3 จ.ชายแดนใต้ “ภท.-รทสช.” หนุน ไร้ “พปชร.”

ผ่านฉลุย สภาฯรับหลักการ “ยกเลิกคำสั่ง คสช.” แก้ปัญหา 3 จ.ชายแดนใต้ “ภูมิใจไทย-รทสช.” หนุนเต็มที่ มองสถานการณ์-เวลาเปลี่ยน ต้องแสวงหาวิธีใหม่ ไร้ “พลังประชารัฐ” อภิปราย ขณะ “จาตุรนต์” ชี้ คำสั่ง คสช.เป็นปัญหา ประชาชนสะท้อนความเดือดร้อนไม่ได้ ย้ำจะเป็นก้าวแรกแก้กฎหมายพิเศษ ให้ประชาชนออกแบบเอง

วันที่ 21 ก.พ. 2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม ได้พิจารณาญัตติด่วนร่าง พ.ร.บ. ยกเลิกคำสั่งหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 14/2559 เรื่องคณะกรรมการที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และการกำหนดหน้าที่ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ที่นายยูนัยดี วาบา สส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ และคณะเป็นผู้เสนอ โดยมีร่างในทำนองเดียวกันอีก 2 ร่างที่เสนอโดยนายรอมฏอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และนายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย มาประกบ
โดยนายยูนัยดี อภิปรายหลักการและเหตุผลว่า คำสั่ง คสช. ที่ 14/2559 ได้กำหนดให้ยกเว้นบทบัญญัติบางมาตราของ พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งผลให้ไม่มีสภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีพี่น้องประชาชนในพื้นที่เป็นสมาชิก และเป็นส่วนสำคัญให้การแก้ปัญหาเกิดผลสัมฤทธิ์ ขณะที่คณะกรรมการที่ปรึกษาฯ ของ คสช. ไม่สามารถตอบสนองการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งประชาชนในพื้นที่ก็ไม่ได้มีส่วนร่วม เดิมสภาที่ปรึกษาฯ ซึ่งมีตัวแทนจากหลายภาคส่วน สามารถเสนอแนะ มีส่วนร่วมในการตรวจสอบประเมินการทำงานของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และให้ความเห็นแก่นายกรัฐมนตรี และเลขาธิการ ศอ.บต. เพื่อประกอบการพิจารณาให้เจ้าหน้าที่ของรัฐฝ่ายพลเรือน ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ให้ออกไปจากพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ แต่คำสั่ง คสช. ทำให้สภาที่ปรึกษาฯ ถูกลดทอนอำนาจหน้าที่ลงไป จึงขอเสนอให้ยกเลิกคำสั่ง คสช. ดังกล่าว เพื่อให้สภาที่ปรึกษาเดิม ได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่

นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายหลักการและเหตุผลแทนนายรอมฎอน ว่า คำสั่ง คสช. ได้เพิ่มอำนาจให้ กอ.รมน. เพื่อขยายอำนาจฝ่ายทหารมาควบคุมกิจการของพลเรือน ซึ่งมองว่า กำลังเดินไปผิดทาง จึงเสนอให้มีการยกเลิกคำสั่ง คสช. ดังกล่าว เพื่อยุติบทบาทของคณะกรรมการที่ปรึกษาฯ ฟื้นฟูสภาที่ปรึกษาฯ และจำกัดบทบาทของ กอ.รมน.

ด้านนายชูศักดิ์ อภิปรายว่า เป็นการรวมศูนย์อำนาจไปไว้ที่ส่วนกลางเพื่อเสนอนายกรัฐมนตรี แต่ไม่มีตัวแทนจากแต่ละภาคส่วน การบริหารเช่นนี้เป็นผลทำให้การบริหารปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ประสบความสำเร็จ ทั้งยังมีปัญหาเพิ่มขึ้น แม้แต่รัฐบาลปัจจุบันก็ได้รับฟังเสียงสะท้อนจากหลายหน่วยงานว่า ควรยกเลิกคำสั่ง คสช. แล้วกลับไปใช้กฎหมายเดิม กล่าวได้ว่าทั้ง 3 ร่าง พ.ร.บ. ที่มีผู้เสนอมา มีเจตจำนงเดียวกัน เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป และเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ อย่างไรก็ตามระบบกฎหมายของไทยขณะนี้ ถ้ายึดอำนาจการปกครองประเทศ แล้วออกคำสั่งประกาศต่างๆ ใช้เวลาเท่าใด บางท่านก็ว่าใช้เวลาวันเดียว พอยึดอำนาจแล้วศาลฎีกาวินิจฉัยว่าเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ออกกฎหมายอะไรได้หมด หากเราจะยกเลิก ต้องเสนอร่าง พ.ร.บ. ผ่านวาระต่างๆ อาจใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือนหรือเป็นปี

“เรื่องนี้สภาฯควรต้องตระหนัก ว่าระบบแบบนี้ควรหมดไปจากประเทศไทย โดยทั้งสภาฯ และศาล ต้องไม่ยอมรับประกาศคำสั่งใดๆ ไม่ยอมรับการยึดอำนาจรัฐประหารว่าไม่ใช่สิ่งดีงาม ไม่ร่วมมือด้วย ฝากเป็นข้อคิดอุทาหรณ์ไปยัง สส. ว่าเราควรต้องตระหนักถึงหน้าที่ของเราในส่วนนี้”นายชูศักดิ์ กล่าว

จากนั้นที่ประชุมได้เปิดโอกาสให้สมาชิกได้อภิปราย โดยนายปรเมษฐ์ จินา สส.สุราษฎร์ธานี พรรครวมไทยสร้างชาติ อภิปรายแสดงความคิดเห็นว่า คงจะไม่ว่ากัน เพราะในแต่ละสถานการณ์ ก็จะมีวิธีการแก้ไขปัญหา ถ้าหากในวันนั้น พวกเราอยู่ที่นี่ ก็คงจะตัดสินใจแบบนี้เหมือนกัน แต่เมื่อเหตุการณ์ล่วงเลยมาแล้ว ก็ต้องปรับเปลี่ยนวิธี และเมื่อได้ประเมินบทเรียนที่ผ่านมา จะพบว่าคำสั่ง คสช. ยังแก้ปัญหาไม่ได้ดีเท่าที่ควร และเสนอว่าให้ใช้แนวคิดในสมัยพลเอกชาติชาย ชุณหวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ให้เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า และเพิ่มสัดส่วนตัวแทนของประชาชน เข้าไปในสภาที่ปรึกษาฯ เช่น องค์การบริหารส่วนตำบลและจังหวัด ของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และส่งเสริมทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ ให้เป็นทั้งแหล่งประมงและแหล่งท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มรายได้

ขณะที่นายซาการียา สะอิ สส.นราธิวาส พรรคภูมิใจไทย อภิปรายว่าบทบาทของ ศอ.บต. และ กอ.รมน. ที่คนจังหวัดอื่นอิจฉา เพราะงบประมาณมักจะลงไปที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ตนเองพูดในฐานะคนในพื้นที่ อยากให้เป็นเหมือนจังหวัดอื่นๆ ไม่ได้ต้องการหน่วยงานพิเศษแต่เราเลือกไม่ได้ งบประมาณหลายแสนล้านบาทที่เข้ามา ไม่ได้พัฒนาอะไรขึ้นเลย สิ่งสำคัญคือการช่วยเหลือเยียวยาคนในพื้นที่ ซึ่ง ศอ.บต. ต้องสนับสนุน คนจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ได้ต้องการอะไรพิเศษกว่าคนจังหวัดอื่น นอกจากสังคมดี เศรษฐกิจดี การศึกษาดี แต่ด้วยคำสั่ง คสช. ให้แต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาฯ ซึ่งไม่ได้มีความเข้าใจในพื้นที่ จึงเห็นควรว่าควรยกเลิกคำสั่งดังกล่าว และ กอ.รมน. ที่เป็นทหาร ก็ควรดูแลด้านความมั่นคง ไม่ได้มีหน้าที่ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น เราจึงควรเลือกคนให้ถูกกับงาน

ด้าน ซูการ์โน มะทา สส.ยะลา พรรคประชาชาติ กล่าวว่า การยกเลิกคำสั่ง คสช. แต่ถ้าจะให้สมบูรณ์ที่สุด ควรยกเลิกถึง 3 ฉบับ ซึ่งพรรคประชาชาติได้ยื่นเข้าไปแล้ว เพื่อให้แก้ปัญหาอย่างครบวงจร และสนับสนุนให้ประชาชนสามารถเลือกตัวแทนมาดูแลงบประมาณของ ศอ.บต. และกำหนดทิศทางการแก้ไขปัญหา

“รัฐบาลที่ผ่านมา ซึ่งยึดอำนาจจากรัฐบาลประชาธิปไตย มีความหวาดระแวง องค์กรที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ผมถามกลับไปว่า ถ้ายังมีความหวาดระแวง มีข้อสงสัยในตัวแทนของประชาชน ที่มาพิจารณางบประมาณของ ศอ.บต. แล้ว ผ่านไป 20 ปี รัฐบาลผลักดันงบไปกว่า 500,000 ล้านบาท มีอะไรดีขึ้น แถมประชาชนกลับถูกปิดปาก ประชาชนแต่งชุดมลายู ก็ไม่มีใครกล้าออกมาพูด ประชาชนแสดงอัตลักษณ์ตามรัฐธรรมนูญ ก็ไม่มีใครมาดูแล กลับไปริดรอนสิทธิ์ กล่าวหาว่าเป็นอั้งยี่ซ่องโจร เพราะไม่มีสภาที่ปรึกษาฯ ที่มาจากประชาชน อยากฝากให้คณะทำงาน ได้พิจารณายกเลิกคำสั่ง และให้ ศอ.บต. เป็นแม่งานในการพิจารณา ไม่ใช่ให้ทหารนำการพัฒนา“

นายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ ศึกษาติดตาม และส่งเสริมการสร้างสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ลุกอภิปรายว่า คำสั่งของคณะ คสช. 14/2559 อ้างว่าภายใต้ พ.ร.บ.บริหารจัดการชายแดนภาคใต้ สภาที่ปรึกษาไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ สาเหตุที่ คสช.หวั่นไหวต่อ พ.ร.บ.บริหารจัดการชายแดนภาคใต้และสภาที่ปรึกษามีบทบาทอย่างที่ควรจะเป็น เพราะสภานี้มีอำนาจหน้าที่เชื่อมโยงกับประชาชน ฝ่ายกฎหมาย และเชื่อมโยงกับการพูดคุยสันติภาพ ศอ.บต.มีหน้าที่ด้านสันติภาพและสภาที่ปรึกษาก็มีหน้าที่เชื่อมโยง ป้อนความเห็นต่างๆ คณะกรรมการที่ปรึกษาที่ปรับมาจากสภาที่ปรึกษา คนแต่งตั้งคือนายกรัฐมนตรี และมีอำนาจเหลือหน้าที่เพียงให้คำปรึกษา ศอ.บต. ให้ความเห็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีเห็นว่าควรรับฟังความคิดเห็น หมายความว่านายกรัฐมนตรีไม่ถามก็ไม่ต้องให้ความคิดเห็น ต่างจากสภาที่ปรึกษาที่มีหน้าที่ให้คำปรึกษา นอกจากนี้ก็แต่งตั้งคณะทำงานได้ตามความเหมาะสม แต่การที่อำนาจหน้าที่หายไป ปัญหาจึงเกิดขึ้นมากในทุกด้าน เช่น การเยียวยา ลูกหลานเจ้าหน้าที่ไม่ได้รับการดูแล การพิพาทระหว่างรัฐหับประชาชน ปัญหาการศึกษา ซึ่งหากมีเจ้าหน้าที่สภาที่ปรึกษาจะผลักดันเรื่องนี้ได้

“ประชาชนในพื้นที่สามจังหวัดเคยพยายามเสนอความเห็นต่อภาครัฐ แต่ไม่มีใครฟัง ปกติถ้ามีสภาที่ปรึกษา เขาก็จะเสนอผ่านสภาที่ปรึกษาได้ อันนี้ก็ขาดหายไป ยังมีเรื่องอื่นอีกหลายเรื่องที่เป็นปัญหาเกิดขึ้น เนื่องจากไม่มีสภาที่ปรึกษา” นายจาตุรนต์ กล่าว

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ปัญหาคำสั่ง คสช. นอกจากไม่มีสภาที่ปรึกษาแล้ว ยังมีเรื่องการขยายอำนาจของกอ.รมน. เข้ามาล้วงลูก เข้ามาแทรกแซง ทำแทนหน่วยงานพลเรือน ทำให้เจตนารมณ์ของการมี ศอ.บต.นั้นถูกเปลี่ยนไป แทนที่จะให้ฝ่ายมีพลเรือนมีบทบาท สภาที่ปรึกษาจะทำให้ ศอ.บต.กลับมามีบทบาทมากขึ้น ในระยะหลังมีองค์กรที่สลับซับซ้อนมาก ระดับประเทศถึง 3 องค์กร อยู่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย สภาความมั่นคง กอ.รมน. และ ศอ.บต. โดยนายกรัฐมนตรีเป็นประธานทั้งหมด แต่ไม่มีการทำงานประสานร่วมมือกัน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ มีกฎหมายพิเศษ 3 ฉบับในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.ความมั่นคงภายใน และกฎอัยการศึก จะเห็นได้ว่าโดยองค์กรและกฎหมาย กองทัพมีบทบาทเป็นหลักกดทับ วันนี้ถ้าเรายกเลิกคำสั่ง คสช. จะเป็นก้าวสำคัญในการระดมความคิดจากประชาชนให้แก้ปัญหาชายแดนภคใต้ และมาคิดกันว่าเราจะออกแบบระบบกฎหมายอย่างไร ทำให้เกิดความสงบต่อสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ สภาก็ตั้ง กมธ. รัฐบาลก็ตั้งคณะทำงานพูดดคุย หากสภาเห็นชอบจะทำให้เข้าใจปัญหาและจะนำไปสู่การได้ผลมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม ไม่ปรากฏว่ามี สส. จากพรรคพลังประชารัฐ ร่วมอภิปรายในญัตติดังกล่าวแต่อย่างใด

จากนั้นที่ประชุมมีมติรับหลักการของร่างพ.ร.บ.ทั้ง 3 ฉบับด้วยคะแนน 421 เสียงไม่เห็นด้วยไม่มี และงดออกเสียง 1 เสียง และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ 31 คน

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img