‘’เทพไท’’จี้รัฐบาลหยุดใช้สมบัติชาติและงบประมาณแผ่นดินแจกแลกคะแนนเสียง ชี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ
เมื่อวันที่ 29 ก.พ. 67 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช โพสต์ว่า ขอเตือน หยุดนำสมบัติชาติ ไปแจก เพื่อแลกคะแนน
ผมเห็นปัญหาที่เกิดเป็นข่าวในตอนนี้มี 2เรื่องใหญ่ ซึ่งล้วนมาจากนโยบายการหาเสียงของพรรคการเมือง และกลายมาเป็นนโยบายของรัฐบาลรัฐบาล กำลังเป็นประเด็นถกเถียงกันของสังคมอยู่อย่างกว้างขวาง ที่พรรคการเมืองจะต้องตระหนัก และนำไปเป็นบทเรียน สำหรับการกำหนดนโยบายในการหาเสียง ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป คือ
1.ปัญหาหนึ่งปัญหาการออกเอกสารสิทธิ์ สปก. ทับซ้อนพื้นที่ของกรมอุทยานแห่งชาติ ที่เขาใหญ่ ซึ่งสืบเนื่องมาจากนโยบายการเปลี่ยนเอกสารสิทธิ์ สปก.เป็นโฉนด ทำให้ประชาชนอยากมีที่ดิน สปก.เป็นจำนวนมาก เพื่อจะได้แปรสภาพเป็นโฉนด ตามนโยบายของรัฐบาล มีการเพิ่มมูลค่าของที่ดิน และสามารถนำไปใช้ประโยชน์เป็นหลักประกัน หรือแปรสภาพเป็นทุนได้ จึงทำให้เกิดปัญหาการบุกรุกพื้นที่อุทยานหรือป่าสงวนของชาติมากยิ่งขึ้น
ถ้าหากพรรคการเมืองมีนโยบายนำทรัพย์สมบัติของชาติ ไปแจกจ่ายเพื่อแลกกับคะแนนนิยม หรือคะแนนเสียง ในวันข้างหน้าก็จะมีพรรคการเมืองออกนโยบายในลักษณะเช่นนี้ได้เช่นกัน เอาจจะออกนโยบายให้ผู้ถือเอกสาร ภบท.5 หรือ ภบท.6 สามารถขึ้นทะเบียนเป็น สปก.หรือโฉนดได้ ถ้าเป็นเช่นนี้ ก็จะเป็นการนำสมบัติของชาติไปแจกเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของพรรค หรือพวกพ้องได้
2.เรื่องการแจกเงินดิจิทัลวอลแลต ที่พรรคการเมืองใช้หาเสียง ประกาศแจกเงินให้คนไทยที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป คนละ 10,000 บาท ซึ่งกำลังเป็นประเด็นถกเถียง วิพากษ์วิจารณ์ คัดค้านและท้วงติง จากหลายหน่วยงานหลายองค์กร จนทำให้โครงการดังกล่าวเดินหน้าไม่ได้ ยุ่งกันเป็นพลวันเหมือนลิงแก้แห
เพราะการประกาศนโยบายดังกล่าว ไม่ได้คิดให้รอบคอบถึงความเป็นไปได้ เพียงหวังผลคะแนนเสียงเฉพาะหน้าเท่านั้น ซึ่งเป็นการซื้อเสียงล่วงหน้า ถ้าหากรัฐบาลชุดนี้สามารถทำได้ ในโอกาสต่อไปอาจจะมีพรรคการเมืองเสนอนโยบายแจกเงินคนละ 20,000 บาทหรือ 50,000 บาท เพื่อแลกกับคะแนนเสียง โดยไม่ต้องลงทุน เพราะใช้งบประมาณแผ่นดินมาแจก เพื่อแลกกับคะแนนนิยม
อยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กกต.ได้ตระหนัก และพิจารณาให้รอบคอบว่า การนำสมบัติชาติหรืองบประมาณแผ่นดิน ไปแจกเพื่อแลกกันคะแนนเสียง สามารถทำได้หรือไม่ และเป็นการซื้อเสียงล่วงหน้าหรือไม่
