ศาลกาญจนบุรีสั่งจำคุก ‘ครูปรีชา’ 2 ปี ไม่รอลงอาญา คดีลุงจรูญเป็นโจทย์ ยื่นฟ้องกลับในฐานความผิดฐานฟ้องเท็จ ‘หวยอลเวง 30 ล้าน’ ด้านลุงจรูญ ลั่นความจริงก็คือความจริง
เมื่อวันที่ 20 มี.ค.67 ศาลจังหวัดกาญจนบุรี นัดอ่านคำพิพากษา ในคดีที่ร้อยตำรวจโทจรูญ วิมูล หรือลุงจรูญ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา พร้อมด้วยนายวรยุทธ บุญวงศ์ใส หรือทนายวรยุทธ ทนายความของครูปรีชา ในข้อหาร่วมกันฟ้องเท็จ
ภายหลังฟังคำพิพากษา ทนายษิทรา พร้อมด้วยลุงจรูญได้เดินลงมาจากห้องพิจารณาคดี พร้อมเปิดเผยผลคำพิพากษาของศาลจังหวัดกาญจนบุรีว่า ศาลได้อ่านคำพิพากษา จำคุกครูปรีชาเป็นเวลา 3 ปี แต่เนื่องจากคำให้การบางส่วนเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี จึงลดโทษให้เหลือจำคุกครูปรีชาเป็นเวลา 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ส่วนทนายวรยุทธ ทนายความของครูปรีชานั้น ศาลเห็นว่า เป็นการทำหน้าที่ของทนายความไปตามข้อมูลที่ได้จากลูกความคือครูปรีชา จึงมีคำพิพากษาให้ยกฟ้อง
นายษิทรา กล่าวว่า ในวันนี้ต้องขอบคุณศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ให้ความเป็นธรรมกับลุงจรูญ หลังจากถูกครูปรีชาเป็นโจทก์ยื่นฟ้องมาหลายคดี กระทั่งวันนี้ มีคำพิพากษาออกมา ทำให้ลุงจรูญและครอบครัวได้รับความเป็นธรรมในที่สุด
ขณะที่ในอีก 2 คดี ที่ลุงจรูญเป็นโจทก์ยื่นฟ้องครูปรีชาพร้อมด้วยเจ๊บ้าบิ่นและเจ๊พัช ในข้อหาเบิกความเท็จ เพื่อให้ศาลอายัดเงินของลุงจรูญนั้น ครูปรีชาได้รับสารภาพเรียบร้อยแล้ว ส่วนเจ๊พัชและเจ๊บ้าบิ่นยังให้การปฏิเสธ และจะต่อสู้ในชั้นศาล ส่วนคดีที่พยานฝั่งครูปรีชาอีกมากกว่า 10 ปาก ถูกลุงจรูญฟ้องในข้อหาเบิกความเท็จนั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างรอการไต่สวนมูลฟ้องต่อไป
ด้านลุงจรูญ กล่าวหลังฟังคำพิพากษาศาลว่า ความจริงก็คือความจริง และใครที่ทำกรรมอะไรไว้ก็ต้องรับผลของกรรมนั้นไปตามระเบียบ
หลังศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จเรียบร้อย ครูปรีชามีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะถูกตำรวจศาล ควบคุมตัวลงไป ที่ห้องควบคุมตัวของศาล เพื่อรอยื่นประกันตัวต่อไป