สภาเดือด! “ก้าวไกล” ซัด “พท.” งาบงบสร้างฝายแกนดินซีเมนต์ “วิสุทธิ๋” ท้า “สุรเชษฐ์” ลาออก กลางสภา ฉุนใช้อคติทำร้ายประชาชน รู้ไม่จริงใส่ร้าย
วันที่ 21 มี.ค.2567 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี2567 วาระ2-3 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท เป็นวันที่สอง
ต่อมาเวลา 18.20น.วันที่ 21 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ที่คณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว ในวาระ 2- 3 เป็นวันที่สอง
ซึ่งในระหว่างการพิจารณา มาตรา 20 งบประมาณกระทรวงมหาดไทย บรรยากาศที่ประชุมสภาเริ่มคุกรุ่นขึ้น เมื่อนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะกมธ.กล่าวถึงกรณีกมธ.ตัดงบประมาณการสร้าง “ฝายแกนดินซีเมนต์” เพื่อใช้ป้องกันอุทกภัยในพื้นที่ลุ่มน้ำยม โดยตั้งข้อสังเกตว่า โครงการดังกล่าวมีการเร่งรีบผิดสังเกต ท้องถิ่นมีเวลาแค่ 12วัน เลือกตำแหน่งทำฝาย และการประเมินราคาก่อสร้าง เหมือนมีการแจกงบกันอย่างผิดสังเกต หลายรายการตั้งงบประมาณไว้ต่ำกว่า 5แสนบาท เป็นราคาที่หน่วยราชการสามารถเลือกผู้รับเหมาได้ โดยไม่ต้องผ่านการแข่งขัน เหมือนจงใจจิ้มเลือกผู้รับเหมา มีการแบ่งราคาแล้ว และมีความจงใจหลีกเลี่ยงการรับประกันงานในโครงการเป็นเวลา 2ปีด้วย กรณีฝายแกนดินซีเมนต์ต้องมีใบอนุญาตตามกฎหมายสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.)ที่ได้รับการยืนยันว่า หลายแห่งยังไม่ได้รับอนุญาต ไม่มีใบอนุญาตจากกรมเจ้าท่ามาแสดง ดูแล้วแพงจริง พังจริง จะเป็นปัญหาทิ้งมลพิษถาวรในอนาคต เป็นสิ่งถูกต้องแล้วที่ตัดงบก้อนนี้
“มีข้อสังเกตว่า มีความพยายามชัดเจนจาก สส.เพื่อไทยในกมธ. และสว.บางคนอยู่เบื้องหลังงบฝายแกนดินซีเมนต์ครั้งนี้ หากฝ่ายค้านไม่มีเหตุผลมากพอ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะตัดงบประมาณสำเร็จ หากบอกว่า สามารถทำได้ ขอให้กล้ารับประกันโครงการ 2 ปีด้วย หลายคนอาจเคลมข้อดีที่จะเก็บน้ำ แต่ไม่ได้ดีมากพอทำการเกษตร อีกทั้งในหน้าฝน ฝายก็อาจพังทลายได้ เพราะดินผสมซีเมนต์ไม่ได้แข็งแรงทุกจุด กรณีนี้ข้อเสียมากกว่าข้อดี งบไม่คุ้มค่า ไม่โปรง่ใส เข้าใจว่ามีคนได้ประโยชน์จากโครงการ แต่ก็มีคนเสียประโยชน์เช่นกัน”นายสุรเชษฐ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายสุรเชษฐ์ พูดจบ บรรยากาศในห้องประชุมคุกรุ่นทันที เพราะสส. พรรคเพื่อไทย หลายคนขอใช้สิทธิพาดพิงที่ถูกระบุว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังงบฝายแกนดินซีเมนต์ โดยนายวิสุทธิ์ ไชยณรุน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียวเสียงดังว่า การสร้างฝายแกนดินซีเมนต์ พรรคเพื่อไทยไม่ได้คิดเอง แต่มีการศึกษามาอย่างรอบคอบ ทำมาแล้วในหลายจังหวัด ไม่มีพังสักตัว การกล่าวหาว่าสร้างโดยไม่มีแบบ ไม่เป็นความจริง
“ผมขอท้านายสุรเชษฐ์ให้ไปดูพื้นที่พร้อมกันหลังการพิจารณางบประมาณเสร็จสิ้น ถ้าสิ่งที่ผมพูดไม่เป็นความจริง ผมขอลาออกจากผู้แทน ถามว่าท่านกล้าหรือไม่” นายวิสุทธิ์ กล่าวอย่างมีอารมณ์
ด้านนายจักรวาล ชัยวิรัตน์กูล สส.สุโขทัย พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า การทำฝายแกนดินซีเมนต์ทำในห้วย คลอง ไม่ต้องไปขอกรมเจ้าท่าอย่างที่นายสุรเชษฐ์คิด โบราณเขาปั้นเตาเผาเคี่ยวน้ำอ้อยแข็งแรงขนาดไหน พี่น้องปลายใต้น้ำจะกินผงซีเมนต์ ปัญญาอ่อนหรือไม่ ทำให้สส.ก้าวไกลประท้วงขอให้ถอนคำพูด “ปัญญาอ่อน” ซึ่งนายจักรวาลยอมถอนก่อนกล่าวต่อว่า ขอท้านายสุรเชษฐ์ลงไปดูพื้นที่ ถ้าท้องถิ่นไม่ต้องการฝายแกนดินซีเมนต์จริง ตนยินดีลาออกจากสส. อย่านั่งบนเก้าอี้แล้วพร่ำไปเรื่อย ไม่เคยคิดว่า คนเป็นสส.จะมีความคิดแบบนี้
นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า สิ่งที่นายสุรเชษฐ์ พูดมา เป็นจินตนาการ อคติของท่านว่า เพื่อไทยได้ผลประโยชน์ ทั้งที่เป็นการปกป้องประชาชน อย่าเอาอคติมาทำร้ายประชาชน
จากนั้น สส. พรรคก้าวไกล ต่างลุกกันขึ้นช่วยกันประท้วงขอให้นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุม ช่วยควบคุมการประชุม ไม่ปล่อยให้สส.พรรคเพื่อไทย ใช้สิทธิพาดพิงจนเกินเลย
โดยนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า การมาท้ากันแบบนี้ประชาชนได้ประโยชน์อะไร ขอให้ประธานช่วยควบคุมการประชุมให้เป็นไปด้วยความระเบียบเรียบร้อยด้วย จะปล่อยให้พูดพาดพิงแบบนี้ไม่ได้
แม้นายปดิพัทธ์ จะพยายามควบคมการประชุมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ก็ยังมีการปะทะคารม ตอบโต้กันไปมาระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลอยู่เป็นระยะๆ โดยใช้เวลาถกเถียงในประเด็นนี้นานร่วมชั่วโมง
ก่อนที่จะปิดการอภิปรายในมาตรา 20 และที่ประชุมลงมติเห็นชอบมาตราดังกล่าวตามที่ กมธ.เสียงข้างมากเสนอมา ในเวลา 19.26 น.