“ชัยชนะ” ขอดูข้อมูลก่อนเคาะประเด็นซักฟอกรบ. ม.152 บอกหมัดน็อกรบ.อยู่ที่ ม.151 เผยหนังสือจากกรมราชทัณฑ์บอก “ทักษิณ” ใช้หลักประกันสุขภาพ โยนสังคมคิดเองปมไปพบ “สส.เพื่อไทย”
เมื่อวันที่ 27 มี.ค.67 เวลา 13.00 น. ที่รัฐสภา นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมการความพร้อมของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เพื่ออภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ว่า การกำหนดผู้อภิปราย เราจะเน้นให้คนรุ่นใหม่ได้อภิปรายในครั้งนี้ ซึ่งก็ต้องดูว่ามีประเด็นใดที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้อภิปราย และรัฐบาลได้ตอบเพื่อคลายข้อสงสัยของสังคมไปแล้ว ก็ต้องดูว่าควรจะนำประเด็นกลับมาพูดอีกหรือไม่ ซึ่งขณะนี้กำลังคัดข้อมูลอยู่ ตนคิดว่าการอภิปราย ม.152 เป็นการวิจารณ์การทำงานของรัฐบาล เหมือนเป็นการถามแล้วให้รัฐบาลตอบ
นายชัยชนะ กล่าวว่า ตามหลักการอภิปรายที่เป็นหมัดน็อก อยู่ที่ ม.151 ส่วนจะเน้นเรื่องอะไรเป็นพิเศษหรือไม่นั้น คงจะเน้นไปที่ 1.การทำงานของรัฐบาล ตามที่นายกฯ เคยแถลงไว้ แล้วไม่ทำ เราต้องทวงถามให้ประชาชนอยู่แล้ว 2.การที่วันนี้เศรษฐกิจไม่กระเตื้องขึ้นมา นายกฯและรัฐบาลจะมีแนวทางแก้ปัญหาอย่างไร 3.เรื่องยาเสพติด ซึ่งเป็นปัญหาหลักที่รัฐบาลจะต้องเร่งแก้ไข เนื่องจากการแก้ไขกฎกระทรวงจากผู้ที่ถือครองยาเสพติด 5 เม็ด เหลือ 1 เม็ด จากผู้เสพกลายเป็นผู้ป่วย ข่าวคลุ้มคลั่งที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ แค่เม็ดสองเม็ดก็คุ้มคลั่งแล้ว ถ้า 5 เม็ดคงบานปลาย ต้องแก้ที่ต้นเหตุอยากแก้ที่ปลายเหตุ
เมื่อถามว่า นายชัยชนะจะอภิปรายด้วยหรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า คิดอยู่ ส่วนการอภิปรายเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม จะเชื่อมโยงไปถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯหรือไม่ รัฐมนตรีต้องดูว่าข้อมูลไหนที่ สว. ได้ถามรัฐมนตรีแล้วถ้าเรามาถามต่อก็คือเรื่องเดิม ต้องดูว่ารายละเอียดตรงไหน ที่ยังไม่ครบถ้วน ค่อยนำประเด็นนี้มาต่อยอด ประเด็นแต่ถ้าพูดครบถ้วนแล้วก็ต้องหาประเด็นใหม่ ไม่เช่นนั้นประชาชนที่ฟังจะได้อะไร
ส่วนจะมีแนวโน้มว่าจะแตะหรือไม่แตะนั้น นายชัยชนะ กล่าวว่า อย่าพูดแนวโน้มว่าไม่แตะ แต่เรายังไม่ได้บอกว่าจะแตะไม่แตะเรื่องนี้ ทุกอย่างต้องดูข้อมูลให้ครบถ้วน แล้วถ้าพูดวันนี้ว่าจะแตะ แต่สุดท้ายไม่พูดก็เหมือนหลอก แต่หากเราพูดว่าจะพูด แต่สุดท้ายกลับไม่พูด ก็กลายเป็นการหลอกเหมือนกัน
เมื่อถามว่า การอภิปรายครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อรัฐบาลจนถึงขั้นปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้หรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า ตนคิดว่าการปรับครม. ขึ้นอยู่กับนายกฯ ต้องยอมรับว่าการเปิดโปงหลักฐานทั้งหมดอยู่ที่การอภิปราย ม.151 จะตอบก็ได้หรือไม่ การอภิปราย ม.152 เป็นแค่การถามตอบ จะตอบหรือไม่ตอบก็ได้ เพราะฉะนั้นการอภิปรายที่แท้จริงคือเมื่อรัฐบาลได้ใช้งบประมาณไปแล้ว จึงจะมีช่องว่างในการอภิปราย และเอื้อต่อการปรับครม. ได้
นายชัยชนะ กล่าวต่อว่า กรณีของนายทักษิณที่เข้าไปรักษาตัวโรงพยาบาลตำรวจ ห้องผู้ป่วยพิเศษ ชั้น 14 ใช้งบประมาณส่วนใด ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์ตอบกลับมาเพียงว่า ใช้หลักประกันสุขภาพ และห้องที่นายทักษิณพัก ไม่ใช่ห้องพิเศษ แต่เป็นห้องที่ดูแลพิเศษ เนื่องจากว่า นายทักษิณเคยถูกลอบวางระเบิดโดยรถยนต์ หรือ “คาร์บอมบ์” เมื่อปี 2549 ซึ่งตนได้ศึกษาข้อกฎหมาย ตามหลักพ.ร.บ.กรมราชทัณฑ์ ผู้ป่วยห้ามพักห้องพิเศษ แต่หากป่วยหนัก ก็สามารถทำได้ ซึ่งต้องไปดูในหลักกฎหมายปลายเปิดว่า ทำได้มาก-น้อยแค่ไหน
ส่วนกรณีที่นายทักษิณเดินทางเข้าพรรคเพื่อไทย เพื่อพบกับ สส. และสมาชิกพรรคนั้น มองว่า ตามสิทธิที่กระทรวงยุติธรรมระบุนั้นสามารถทำได้ แต่สุดท้ายแล้วสังคมจะเป็นผู้ตัดสินเอง ทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นอาการป่วยก่อนหน้านี้ หรือเรื่องอื่นๆ สังคมสรุปได้เองโดย ส่วนใหญ่ก็เข้าใจเหมือนกันว่าอะไรเป็นอะไร