คดียุบพรรคก้าวไกล และ คดียุบพรรคภูมิใจไทย ใครรอด-ใครตกเหวมรณะ ขอพาไปดูเฉพาะสเต็ปตามไทม์ไลน์ของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ 2 พรรคการเมือง
“ราษฎรเต็มขั้น” ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งต่อการยุบพรรคการเมืองที่ใช้เผด็จการอำนาจนิยม สกัดบอนไซ กดทับพรรคการเมือง เพื่อทำลายอำนาจสูงสุดของประชาชนที่เลือกตัวแทนเข้ามาทำหน้าที่ และฟื้นฟูอำนาจนอกรีตให้ทรงอานุภาพ
เพราะตั้งแต่ยุบพรรคไทยรักไทย จนถึงพรรคอนาคตใหม่ บ้านหลังใหม่ที่เข้าไปอยู่ มองผ่าน ทางนิตินัย พวกที่ถูกประหารชีวิตทางการเมือง ไม่ครอบงำพรรค แต่ ทางพฤตินัย คอยเป็น “นายหนังตะลุง” ชักใยอยู่ข้างหลังตลอด
พรรคไหนขึ้นเป็นรัฐบาล คณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็บริหารประเทศจังหวะสอง รอ “นายหนังตะลุง” ชักใยในทุกเรื่อง ตั้งแต่ตำแหน่งทางการเมือง การโยกย้าย งบประมาณแผ่นดิน ฟอร์ม ครม.
เรียกง่ายๆ ครม.ไม่เป็นตัวของตัวเอง รอรับฟัง “นายหนังตะลุง” ครม.เป็นแค่ “นอมินี” ปรากฏการณ์เหล่านี้สร้างความเสียหายมหาศาลต่อบ้านเมือง แล้วทำไม “ผู้มีอำนาจนอกรีต” ถึงชอบยุบพรรคการเมือง
ฉันใดก็ฉันเพล ยุบพรรคก้าวไกล และยุบพรรคภูมิใจไทย ต้องใช้ข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย หยุดยุบตามธง และดูจังหวะหากระดูกในไข่ ไม่มีความผิดแต่ยัดข้อหาให้ผิด
“ยุบพรรคอนาคตใหม่มีธง แค่หาเหตุในระหว่างทาง โดยมีคนของผู้มีอำนาจในการเมืองต่อรองให้ทำตามเงื่อนไข และไม่ยอมให้ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เข้าสภา” “ต๋อม-ชัยธวัช ตุลาธน” หัวหน้าพรรคก้าวไกล ตีแสกหน้าใส่ “ผู้มีอำนาจนอกรีต” ระหว่างงานเสวนาวิชาการหัวข้อ “พรรคการเมืองสร้างชาติ” ที่จัดโดยกกต.
อนาคตพรรคก้าวไกลคอพาดเขียงที่ตีนบันไดศาลรัฐธรรมนูญเรียบร้อย นับถอยหลังถูกเชื่อดก่อนสงกรานต์ ล่าสุดสัญญาณเปลี่ยนทิศทางบวก แต่ทีมกฎหมายยังวางใจไม่ลง เกาะติดต่อ ทำให้ท่าทีปรับโครงสร้างพรรค
เดิมประชุมพรรคสมัยสามัญเดือนเม.ย.นี้ เตรียมโล๊ะคณะกรรมการบริหารชุดเดิม มาถึง ณ วันนี้ยังขอใช้บริการให้ “ต๋อม-ชัยธวัช” นำทัพพลางๆ ไปก่อน ปรับแผนเป็นรายสัปดาห์กันเลยทีเดียว เพราะก่อนหน้านั้นหนึ่งสัปดาห์ “เอก-ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานคณะก้าวหน้า เพิ่งให้กำลังใจคณะผู้บริหารพรรคก้าวไกล และกระซิบว่า ค่อนข้างชัวร์ “พรรคถูกยุบ” เตรียมย้ายบ้าน
ต่างกับ “พรรคภูมิใจไทย” ที่ระดับแกนนำพรรค ท่องคาถาเข้าข่ายเปิดความผิดส่วนตัว เฉพาะ บิ๊กบุรีรัมย์ “ศักดิ์ศยาม ชิดชอบ” อดีตเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย
แต่ผลการประชุมพรรคสมัยสามัญ ชิงถอนสมอแถวหนึ่งกระดูกเบอร์ใหญ่ออก ปรับลุคเลือก “นิวเจนบ้านใหญ่” แต่ละจังหวัดพรึบเป็นคณะกรรมการบริหาร
“เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ยังเป็นแม่ทัพอยู่รวม 12 ปี กลับเปรยๆ เหมือนถอดใจคดียุบพรรค “ถึงเวลาที่เหมาะสม มีคนรุ่นใหม่พร้อมเข้ามาบริหารต่อ ต้องเปลี่ยนถ่ายในขณะที่ยังแข็งแรงอยู่”
แม้คดียุบพรรคภูมิใจไทยมีโอกาสหลุดในชั้นนายทะเบียนพรรคการเมือง ซึ่งกำลังเอกซเรย์ข้อเท็จจริง รวมพยานหลักฐานเพิ่ม มีกรอบเวลาพิจารณา และสามารถขอเพิ่มเวลาได้
ต่างกับคดียุบพรรคก้าวไกล ร้องมาถึงหน้าห้อง กกต. สแกนแล้วมี “หลักฐานอันควรเชื่อ” ส่งศาลรัฐธรรมนูญทันที
การเมืองที่แน่นอนสุดคือความไม่แน่นอน เพราะอยู่ที่ “ข้อเท็จจริง-กฎหมาย-ไม้กวาดวิเศษ”
…………………………..
คอลัมน์ : ไขกุญแจ-ไขแหลก
โดย #ราษฎรเต็มขั้น
