“เรืองไกร” ร่อน นส.จี้ ป.ป.ช. สอบรายได้ สส.”ศรีญาดา-รมต.กฤษฎา” เสียภาษีครบถ้วน ถูกต้อง หรือไม่ หลัวตรวจพบ 4 ประเด็นแจ้งรายได้ไม่ตรง
วันที่ 2 เม.ย. 2567 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน รายได้ เงินได้พึงประเมิน ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการ จากเว็บไซต์ ป.ป.ช. ที่เปิดเผยไว้ทุกราย และเก็บข้อมูลไว้ตรวจสอบนั้น โดยวันนี้ เป็นกรณีตรวจสอบสส.ศรีญาดา และ รมต.กฤษฎา ที่มีลักษณะเปรียบเทียบกันได้ว่า มีการนำรายได้ที่แจ้งไว้ในบัญชีทรัพย์สิน ไปเสียภาษีให้กรมสรรพากรโดยครบถ้วน ถูกต้อง หรือไม่ และมีการแจ้งรายได้ต่อ ป.ป.ช. ครบถ้วนตามแบบที่กำหนด หรือไม่ โดยมีข้อเท็จจริงในคำร้อง ดังนี้ 1. น.ส.ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ ได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินฯ และรายได้ ต่อ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2566 โดยมีการแจ้งในส่วนรายได้ เงินได้พึงประเมินตามประมวลรัษฎากร ดังนี้ รายได้ประจำ ทันตกรรมพาร์ทไทม์ 2,160,000 บาท รายได้ประจำ ค่าสอนพิเศษ 180,000 บาท รายได้จากทรัพย์สิน ค่าเช่าบ้านเลขที่ 180,000 บาท รายได้จากการรับให้ ค่าอุปการะมารดาจากน้องชาย 240,000 บาท รวมรายได้ 2,760,000 บาท แต่น.ส.ศรีญาดา แจ้งเงินได้พึงประเมินตามประมวลรัษฎากร มาตรา 40 (1) –(8) จำนวน 1,514,000 บาท
นายเรืองไกร กล่าวว่า น.ส.ศรีญาดา แจ้งประวัติการทำงานย้อนหลัง 5 ปี ไว้สองรายการดังนี้ พ.ศ. 2561 – ปัจจุบัน ทันตแพทย์ พาร์ทไทม์ โรงพยาบาลพระราม 9 พ.ศ. 2561–2565 อาจารย์พิเศษภาควิชาทันตกรรมบูรณะ ม.ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต 3. จากข้อเท็จจริงเกี่ยวกับรายได้ที่น.ส.ศรีญาดา แจ้งต่อ ป.ป.ช. มีข้อสังเกตที่ควรขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบต่อไปดังนี้ทำไม น.ส.ศรีญาดา จึงไม่ได้แจ้งเงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มของตำแหน่ง สส. ตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค. 2566 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2566 การแจ้งรายได้รวม 2,760,000 บาท เมื่อหักรายได้จากการรับให้ ค่าอุปการะมารดาจากน้องชาย 240,000 บาท จะเหลือเป็นรายได้ที่ควรนำไปเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 2,520,000 บาท และต้องนำรายได้เงินประจำตำแหน่งและเงินเพิ่มของตำแหน่ง สส. ตั้งแต่วันที่ 11 ต.ค. 2566 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2566 มารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาภายในเดือนมี.ค.ของปีถัดไปด้วย แต่น.ส.ศรีญาดา แจ้งเงินได้พึงประเมินตามประมวลรัษฎากร มาตรา 40 (1) –(8) จำนวน 1,514,000 บาท ซึ่งมีผลต่างจากยอดรายได้ที่แจ้งไว้พอสมควร กรณีจึงมีเหตุอันควรควรตรวจสอบว่า น.ส.ศรีญาดา ได้นำเงินได้พึงประเมินไปเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยถูกต้อง ครบถ้วน หรือไม่
เนื่องจากน.ส.ศรีญาดา แจ้งว่ามีรายได้ค่าเช่าบ้านเลขที่ 180,000 บาท ไว้ด้วย กรณีจึงควรตรวจสอบว่า รายได้ค่าเช่าบ้าน มีมาตั้งแต่ปีภาษีใด และในแต่ละปีภาษี น.ส.ศรีญาดาได้นำเงินได้พึงประเมินไปเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ด้วยหรือไม่
นายเรืองไกร 4. ทั้งนี้ขอให้ ป.ป.ช. นำรายได้ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินของนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ กรณีเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2566 ซึ่งแจ้งว่ามีรายได้รวม 16,011,155.88 บาท และแจ้งว่า มีเงินได้พึงประเมินตามประมวลรัษฎากร 2,794,649.37 บาท มาตรวจสอบเปรียบเทียบด้วย
“ผมได้ส่งหนังสือเพื่อขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบการแจ้งรายได้ในบัญชีทรัพย์สินของน.ส.ศรีญาดา ว่าแจ้งรายได้ครบถ้วน หรือไม่ และมีการนำรายได้ไปเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ครบถ้วน หรือไม่ ทั้งนี้ขอให้ตรวจสอบเปรียบเทียบกับกรณีของนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ และขอให้แจ้งข้อมูลให้กรมสรรพากร ตรวจสอบอีกทางหนึ่งด้วย”นายเรืองไกร กล่าว
