นายกฯเผยครม.ไฟเขียวลดค่าครองชีพปชช.ตรีงดีเซล-ก๊าซหุงต้ม-ลดค่าไฟบ้าน จ่อใช้งบกลางตรึงราคาน้ำมันหากเงินในกองทุนไม่พอ ชม “รมว.แรงงาน” ผลักดันนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท พร้อมสั่งจัดการยาเสพติดภายใน 90 วัน
เมื่อวันที่ 7 พ.ค.67 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงการดูแลกองทุนน้ำมันอย่างไร รัฐบาลจะยังคงตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 33 บาทต่อลิตรว่า ตนจะให้ใช้กองทุนน้ำมันไปก่อน หากไม่พอก็จะให้นำงบกลางออกมาใช้ โดยกระทรวงพลังงานจะมีการแถลงผลการดำเนินการต่อไป
ส่วนกรณีหอการค้าทั่วประเทศ และสมาคมการค้าที่ใช้แรงงานเข้มข้น แถลงคัดค้านการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท พร้อมกันทั่วประเทศในช่วงเดือน ต.ค.ที่จะถึงนี้ นายกฯ กล่าวว่า เรื่องค่าแรงตนชัดเจนอยู่แล้ว และตนมองว่าความเป็นอยู่ รากฐานของพี่น้องประชาชนและฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ถือเป็นสิ่งสำคัญ แล้วอยู่บอกไปว่าเมื่อ 10 ปี ที่แล้วค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ 300 บาท และในวันนี้ขึ้นมาที่ 340-350 บาทนั้น ระยะเวลาอยู่ที่ 10 ปีขึ้นมา 10% แต่ค่าครองชีพขึ้นมาเท่าไหร่ ซึ่งตนต้องขอชื่นชมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานที่มุ่งมั่นและผลักดันในเรื่องนี้
นายเศรษฐา กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่ประทรวงพลังงานเสนอ ดำเนินการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานแก่ประชาชน ที่จะสิ้นสุดลง เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยจะมีสามมาตรการหลัก คือตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 33 บาทต่อลิตร สองราคาขายปลีกของแอลพีจี หรือก๊าซหุงต้ม ที่ระดับ 423 บาทต่อถังขนาด 15 กิโลกรัม ส่วนการลดค่าไฟ กำหนดให้อยู่ที่ 19.05 สตางค์ต่อหน่วย แก้ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านที่อยู่อาศัยไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน
นายกฯ กล่าวว่า และเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว ตนได้สั่งการให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เร่งวางแผนการท่องเที่ยวในไตรมาส 4 ของปีนี้อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการให้บริการ สถานที่ ความปลอดภัย ซึ่งจะเน้นดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เกิดความประทับใจ อีกทั้งคณะรัฐมนตรียังมีมติขยายเวลาการยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวให้แก้ผู้ถือหนังสือเดินทางทางประเทศอินเดียและไต้หวันเป็นกรณีพิเศษเป็นการชั่วคราวออกไปอีก 6 เดือน ถึงวันที่ 11พ.ย.นี้ เพราะประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจและการต่างประเทศ ถือเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยว
นายเศรษฐา ยังกล่าว่า ได้ขอความร่วมมือหน่วยงานด้านความมั่นคง ทั้งกระทรวงกลาโหม ทหารราบพัฒนา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ในการช่วยเหลือประชาชนช่วงที่มีพายุฤดูร้อน ภัยแล้ง รวมถึงการจัดหากำลังพลในการเร่งขุดลอกคูคลอง เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการทำเกษตรกรรม และได้จัดสรรพื้นที่ของหน่วยทหารที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ให้กับประชาชน ซึ่งถือเป็นเรื่องต่อเนื่องที่รัฐบาลได้ทำมาตั้งแต่เริ่มเข้ามา เพื่อให้ประชาชนนำมาใช้ประกอบอาชีพ ตลอดจนการหาพื้นที่สำหรับบำบัดผู้ติดยาเสพติด เพราะเท่าที่ตนลงพื้นที่พบคนที่มีอาการทางจิต ที่ต้องการบำบัดและช่วยเหลือ และขอให้นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม มารายงานความคืบหน้าในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งหน้า
อย่างไรก็ตาม จากการลงพื้นที่ก็ได้สั่งการให้มีการปราบปรามยาเสพติดให้เด็ดขาด และตนก็ได้เน้นย้ำในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ให้ผู้ว่าราชการและตำรวจร่วมมือกันจัดการเรื่องนี้อย่างเด็ดขาดให้มีผลจับกุมอย่างชัดเจนใน 90 วัน โดยเฉพาะพื้นที่เป้าหมายที่ ป.ป.ส. กำหนดเป็นพื้นที่สีแดงที่มีปัญหารุนแรงจำนวน 25 จังหวัด
นายกฯ กล่าวว่า ยังได้เร่งรัดให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)เร่งพิจารณาข้อเสนอของสมัชชาเด็กและเยาวชนแห่งชาติประจำปี 66 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการเฝ้าระวังป้องกันและช่วยเหลือเด็กและเยาวชน ที่ถูกใช้ความรุนแรงในสถาบันครอบครัว ซึ่งจากที่ตนได้พูดคุยกับเด็กก็ต้องยอมรับว่าปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นจริง และเราต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างชัดเจน รวมถึงปัญหาการคุกคามเด็กในสถานศึกษา โดยขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติช่วยบังคับกฎหมายอย่างเด็ดขาดป้องกันไม่ให้มีปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นอีก
นอกจากนี้ ได้สั่งการให้กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งดำเนินการแก้ปัญหาเรื่องใบอนุญาตโรงงานหรือ รง.4 ที่มีความล่าช้าและค้างอยู่ในระบบจำนวนมากให้แล้วเสร็จใน 30 วัน เพื่อให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วในการประกอบธุรกิจของภาคเอกชน เท่าที่ทราบมีใบอนุญาตค้างอยู่ประมาณ 200 กว่าใบ และมีการตีกลับไปที่จังหวัดเป็นร้อย เราไม่ต้องการให้เหตุการณ์อย่างนี้ เราต้องการให้มีการอนุมัติและทำงานอย่างรวดเร็วเพื่อที่เอกชนจะได้ไปสร้างโรงงาน สร้างงาน สร้างอาชีพ ทำให้เศรษฐกิจเจริญเติบโตได้เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญ