วันเสาร์, กันยายน 28, 2024
spot_img
หน้าแรกNEWS‘นายกฯ’ บอก เตรียมรับข่าวดี ไทยอาจได้เป็นสนามแข่ง F1 เร็วสุดปี 2027
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘นายกฯ’ บอก เตรียมรับข่าวดี ไทยอาจได้เป็นสนามแข่ง F1 เร็วสุดปี 2027

‘นายกฯ’ บอก เตรียมรับข่าวดี ไทยอาจได้เป็นสนามแข่ง F1 เร็วสุดปี 2027 เชื่อสร้างรายได้มหาศาล เล็งใช้พื้นที่ใกล้อู่ตะเภาเป็นสนามแข่ง

วันที่ 20 พ.ค.67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังจากเดินทางไปเยี่ยมชม สนามแข่งรถ Autodromo Enzo e Dino Ferrari (ออโตโดรโม่ เอ็นโซ่ อีดีโน่ เฟอร์รารี่) ที่เมืองโบโลญญา และพบกับผู้บริหารสนาม ซึ่งเป็นสนามที่เป็นประวัติศาสตร์ โดยรัฐบาลไทยต้องการสนับสนุนด้านการท่องเที่ยวให้มีการแข่งขันกีฬาระดับโลก ซึ่งฟอร์มูลาวัน (F1) ใน 1 ปี จะมีการแข่งขันกว่า 20 สนาม ตามเมืองต่างๆ ทั่วโลก แต่ไม่เคยจัดขึ้นที่เมืองไทย ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องการที่จะให้มีการจัดการแข่งขันขึ้นที่ประเทศไทย

นายเศรษฐา กล่าวว่า วันนี้ได้เชิญนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธานกรรมการบริหารบริษัทปตท.จำกัด (มหาชน) และ นายกวิณ กาจนพาสน์ กรรมการและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ปโฮลดิ้ง จำกัด ที่เป็นผู้ได้สัมปทานสนามบินอู่ตะเภา ซึ่งมีที่ดินอยู่บริเวณดังกล่าวจำนวนมาก หากได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในสนามแข่งขัน ก็จะใช้ที่ดินบริเวณอู่ตะเภา

“รัฐบาลจึงให้ความมั่นใจว่า ไทยมีความพร้อมในการสร้างสนามแข่งขันอย่างเร็วที่สุด ในปี 2027 หรืออย่างช้าที่สุดปี 2028 โดยมีผู้สนับสนุนรายใหญ่ คือ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) อย่างเช่น เมื่อครั้งที่ประเทศมาเลเซียเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขัน ก็มีบริษัทปีโตนาส เป็นผู้สนับสนุน เชื่อว่าทั้งผู้จัดและเราก็มีความต้องการให้จัดการแข่งขัน มั่นใจว่าภายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้จะมีข่าวดี” นายเศรษฐา กล่าว

โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มั่นใจว่าจะมีการจัดการแข่งขันขึ้นที่ประเทศไทยอย่างแน่นอน เพราะได้รับการตอบรับจากผู้จัดเป็นอย่างดี และมีทีม RedBull และนักแข่งที่เป็นคนไทย ก็อยากจะเห็นสนามการแข่งขันในประเทศไทย

นอกจากจะมีการแข่งขันF1 แล้ว ก็จะได้มีการจัดการแข่งขัน F2 ซึ่งเป็นลีกรองลงมาอีกด้วย ซึ่งมีการจัดการแข่งขัน 3 วันเช่นเดียวกัน รวมถึงนักแข่งประเภทเยาวชนด้วย ขณะเดียวกันยังไม่ได้ประเมินว่าหากมีการแข่งขันแล้วจะมีรายได้เข้าประเทศมากน้อยเพียงไหน ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ แต่จากที่สังเกตเห็นในสนามตั๋วเข้าชมระดับวีไอพี ต่อคนราคาประมาณ 5,000-8,000 เหรียญสหรัฐ และยังมีรายได้จากช่องทางอื่น ทั้งผู้สนับสนุนหรือการเปิดบูธขายอาหาร

และในมุมของเศรษฐกิจ ยังมีเรื่องของนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศ ทำให้เกิดการใช้จ่าย ทั้งค่าที่พัก ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ซึ่งรัฐบาลสามารถจัดกิจกรรมเสริมในช่วงเวลานั้นได้อีก รวมถึงการเดินทางไปท่องเที่ยวได้หลายจังหวัด และเชื่อว่าจะสร้างผลกระทบเชิงบวกในทางเศรษฐกิจได้อย่างมหาศาล แต่ขณะนี้ยังมีรายละเอียดเชิงลึกที่จะต้องหารือกันอีก

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img