“สมศักดิ์” ส่งประกาศแก้ยาบ้า 1 เม็ดเข้าครม.แล้ว หลังผลรับฟังความเห็นประชาชนกว่า 90% หนุนปรับลด มอบกรมสุขภาพจิตเป็นเซ็นเตอร์ดูแลผู้ติดยา พร้อมรับมอบ 1 แสนชื่อหนุนคืนกัญชาเป็นยาเสพติด ลั่นใช้เวลาเคลียร์ให้จบ ยึดทางสายกลางคุมกัญชาให้ขัดแย้งน้อยสุด
เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.ที่กระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข เป็นประธานการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข ครั้งที่ 4/2567 โดยมี นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วม โดยภายหลังหารประชุมทางเครือข่ายเยาวชน YNAC จำนวนหนึ่ง เข้ามายื่นรายชื่อประชาชน 100,000 รายชื่อ ให้กับนายสมศักดิ์ เพื่อสนับสนุนการนำเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ให้รัฐบาลดำเนินนโยบายนี้อย่างราบรื่น เพราะเครือข่ายได้รับเสียงสะท้อนจากผู้ปกครองถึงผลกระทบของกัญชา แต่ไม่มีอะไรคุ้มครองกลุ่มเปราะบางได้เลย
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขได้แก้ไขร่างกฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษที่สันนิษฐานไว้ก่อนว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ ส่งไปสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพื่อเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว โดยในส่วนของยาบ้านั้นได้กำหนดปริมาณไว้ที่ 1 เม็ด ซึ่งที่จริงแล้ว ผลจากการรับฟังความคิดเห็นประชาชที่เพิ่งผ่านไปนั้น ต่างเห็นด้วย ในการลดปริมาณยาบ้า มากกว่า 90% บางส่วนมีการตั้งคำถามว่า ทำไมไม่เป็นศูนย์เม็ดไปเลย แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องของกฎหมาย คนที่จะได้รับสิทธิ หรือสมัครใจเข้ารับการบำบัด ต้องสอบสวนทวนความตามมาตรา 115 ของประมวลกฎหมายยาเสพติด ว่าเขาได้ยาบ้าเหล่านั้น หรือยาเสพติดเหล่านั้นมาจากที่ไหน จากใคร เป็นการซักไปถึงผู้ขายต่อไป
ทางพนักงานสอบสวนต้องมีการเข้มงวด แม้ว่าจะเป็นทรัพย์สินมากน้อยแค่ไหน จะเป็นรายย่อย รายกลาง มันก็จะไม่จบ ดังนั้นต้องมีการเพื่อขยายผลไปสู่การยึดทรัพย์ด้วย ทั้งนี้ ที่ประชุม ยังเห็นว่า ต้องมีการบูรณาการให้มีการบริหารงานเป็นกลุ่มเป็นก้อนเรียบร้อย โดยมอบหมายให้กรมสุขภาพจิตเป็นเซ็นเตอร์ในเรื่องนี้ ซึ่งแม้ว่าจะแก้ไขกฎหมายไม่ทัน แต่ก็ให้ใช้พระราชบัญญัติการบริหารงานราชการแผ่นดินมาบังคับใช้ นอกจากนี้ ยังมีการนำเอายาเม็ดฟู่ช่วยในการอดยาบ้า
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของกัญชานั้นนับว่า เป็นแนวทางของรัฐบาลที่คิดเห็นตรงกัน ซึ่งในการแก้ไขกฎหมาย แก้ไขประกาศ กฎกระทรวงรอบนี้นับว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ประชาชนให้ความสนใจอย่างมาก มีคนแสดงความเห็น สนับสนุนกว่า 1 แสนคน เรียกว่าค่อนข้างร้อนแรงมาก ทั้งนี้ตนจะทำให้ดีที่สุดสำหรับทุกกลุ่ม ไม่ให้เกิดความขัดข้องใจ โดยจะพยายามเดินสายกลาง เพื่อให้กัญชาถูกควบคุมด้านสันทนาการได้
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ ไม่ใช่แค่ตนคนเดียว แต่นายกรัฐมนตรี รัฐบาล ก็เห็นด้วยแต่ทำงานร่วมกับรัฐสภาที่มีผู้เกี่ยวข้องเยอะ ต้องพูดคุยถามไถ่กันให้เกิดความเรียบร้อย เพราะถ้าไม่เรียบร้อยแล้วยังมีการวิพากษ์วิจารณ์กันจะเสียเวลามาก ดังนั้นจึงต้องใช้เวลานิดหน่อย ก็จะจบง่าย เพราะหากเดินพรวดพราดแล้วยังไม่จบ จบเป็นแบบไม่สนิทใจ มันก็จะจบแค่วันนี้ แต่วันหน้าก็ไม่จบดังนั้น เราต้องเดินหน้าต่อให้มีข้อขัดแย้งน้อยที่สุด.
