เริ่มแล้ว!!! เทศกาล “บอลยูโร 2024” ที่บรรดาแฟนบอลทั่วโลกต่างตั้งตารอทุก 4 ปี ซึ่งในปีนี้แฟนบอลชาวไทย ก็ไม่ผิดหวังที่จะได้รับชมแบบไม่ต้องเสียสตางค์
ด้วยเพราะรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของไทย “จัดให้” แบบไม่ให้คนไทยต้องเสียความรู้สึก โดยความใจดีของ “โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ” เสี่ยแอโร่ซอฟท์ นำทีมพันธมิตรเฉือนเนื้อ “สร้างความสุข” ให้คนไทยทั้งประเทศ
พิธีเปิดการแข่งขันเริ่มต้นตั้งแต่เวลา 01.00 น. ของวันที่ 15 มิ.ย.นี้ ต่อด้วยคู่เปิดสนามเรียกความสนุกความมันส์ ระหว่างเจ้าภาพอย่างเยอรมนีพบกับสกอตแลนด์ ในช่วงเวลา 02.00 น.
ความสนุกสนานของเทศกาลบอลยูโรจะมีต่อเนื่องไป 1 เดือน จนถึงวันที่ 14 ก.ค.67 นี้ ส่วนใครจะครองแชมป์… ครองถ้วยรางวัล ก็รอลุ้นกันติดขอบจอไปตลอด 30 วัน
อย่างที่รู้กันว่า…นอกจากความสนุกสนามในการรับชมการแข่งขันแล้วตามปกติแล้ว การพนันขันต่อ ย่อมต้องเกิดขึ้นตามมาแน่นอน ตามสไตล์ความชื่นชอบของคนไทย
การแข่งขันในปีนี้ มีการคาดการณ์กันว่าจะมีเงินพนันมากกว่า 67,044 ล้านบาท กันทีเดียว แถมยังเป็นวงเงินที่สูงอย่างน่าตกใจ โดยเพิ่มขึ้นถึง 17.10%
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่า จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 1,249 ราย เมื่อวันที่ 4-7 มิ.ย.ที่ผ่านมา พบว่า เงินพนันที่คาดว่าจะเกิดขึ้นครั้งนี้ ถือว่าสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์กันทีเดียว หรือ รอบ 16 ปี นับตั้งแต่เริ่มสำรวจการใช้จ่ายฟุตบอลยูโร เมื่อปี 2008
เหตุนี้…ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องจัดตั้งศูนย์ป้องกันและปราบปรามการลักลอบเล่นการพนันทายผลฟุตบอลยูโร 2024 ทั่วประเทศ ขึ้นทันที
ไม่เพียงเท่านี้ ยังจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งในและนอกเครื่องแบบ คอยตรวจตราอย่างเข้มข้นในทุกพื้นที่ เพื่อไม่ให้มีการเล่นพนันเกิดขึ้น
แต่เชื่อเถอะ!! ต่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้มงวดกวดขันกันอย่างขะมักเขม้นแค่ไหน? สุดท้าย ก็ปราบไม่หมดแน่นอน เพราะเรื่องของการพนันก็ถือเป็นเรื่องปกติของคนไทยอยู่แล้ว
แม้การพนันขันต่อจะเกิดขึ้น แต่อีกทาง… ก็ถือว่าในช่วง 1 เดือนนี้ การแข่งขันฟุตบอลยูโร ก็ทำให้เศรษฐกิจไทยคึกคักไม่น้อยเช่นกัน!!
ผลสำรวจของศูนย์พยากรณ์ฯยังพบด้วยว่า การใช้จ่ายเงินในช่วงเทศกาลฟุตบอลยูโรปีนี้ คาดว่าจะมีสูงถึง 87,620 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่มีเงินสะพัด 76,831 ล้านบาท และฟุตบอลยูโร 2020 ที่มีเงินสะพัด 62,440 ล้านบาท
จำนวนเงินสะพัดกว่า 87,620 ล้านบาท นอกจากจะเป็นการใช้จ่ายเงินพนันกว่า 67,044 ล้านบาท แล้ว ยังเป็นการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจกว่า 20,575 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.1% เมื่อเทียบฟุตบอลยูโร 2022 สูงสุดในรอบ 8 ปี
โดยการใช้จ่ายในระบบเศรษฐกิจ ส่วนใหญ่แล้ว จะมาจากการซื้ออาหารและเครื่องดื่ม การซื้อสินค้า ของที่ระลึกของทีมบอล การซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค สังสรรค์การซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์รับสัญญาณ การส่งเอสเอ็มเอส ชิงรางวัล หรือแม้แต่…การซื้อตั๋วเครื่องบินไปชมการแข่งขันแบบใกล้ชิด ติดขอบสนาม
ขณะที่เงินพนันกว่า 67,044 ล้านบาท นั้น ส่วนใหญ่ 51.8% จะมาจากเงินเดือนหรือรายได้ปกติ มาจากผู้ปกครอง 4.7% มาจากโบนัสหรือรายได้พิเศษ 4.4%
แต่ที่น่าตกใจ!! มีอีกถึง 38.7% ที่ผลสำรวจบอกว่า มีการนำเงินออมออกมาเล่นพนัน และอีก 0.4% ที่ไปกู้ยืมหนี้ยืมสินมาเล่นพนัน ทั้งหลายทั้งปวง ก็…เพื่อหวังรางวัล ความสนุก เพื่อนชวน และเป็นแฟชั่น
นอกจากนี้ยังพบว่า การใช้เงินเล่นพนันนั้นจะเแลี่ยสูงถึงนัดละ 2,000 บาท รวมตลอดการแข่งขันก็เป็นเงินกว่า 23,574 บาท
เช่นเดียวกับ…คนเล่นพนัน!! ที่ในปีนี้ เพิ่มขึ้นถึง 51% เมื่อเทียบกับช่วงฟุตบอลยูโร 2020 และเพิ่มขึ้น 46.4% เมื่อเทียบฟุตบอลในลีกต่าง ๆ อีกต่างหาก
เหนืออื่นใด!! แม้เกิดเงินสะพัดจำนวนมาก แม้เศรษฐกิจจะคึกคักในช่วง 1 เดือนจากนี้ แต่ปัญหาหนี้เสียก็จะตามมา เพราะมีการเล่นพนัน มีการติดการพนันมากขึ้น และปัญหาสังคมอีกสารพัด
เมื่อความสุข ความสนุก…จบลงนี่แหล่ะ… ปัญหาใหญ่ที่รัฐบาลของนายเศรษฐา ต้องหันมาเหลียวแล!!
…………………….
คอลัมน์ : EC Focus by Virgo
