“ประธานกกต.” เผยภาพรวมเลือกสว.ระดับจังหวัด เรียบร้อย ยังไม่มีรายงานอุปสรรค ส่วนขอร้องเรื่องโพย ต้องยึดตามหลักฐาน ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย เชื่อประกาศรายชื่อตามกำหนด 2 ก.ค. ตามกำหนดเดิม ยันหากศาลวินิจฉัย พ.ร.ป.ที่มาสว. ขัด รธน. มีมาตรการรองรับแล้ว
วันที่16 มิ.ย.67 เวลา 12.00 น. ที่โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ แจ้งวัฒนะ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมการจัดการเลือกสว. ระดับจังหวัด ที่โรงแรมเซ็นทราไลฟ์ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ พร้อมทั้งเปิดเผยภาพรวมการจัดการเลือกสว. ในหลายพื้นที่ ทั่วประเทศ ว่า ภาพรวมหน้าพึงพอใจ การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ และความพร้อมของผู้สมัคร โดยเฉพาะที่จังหวัด ราชบุรีและจังหวัดนครปฐม ที่ได้ลงพื้นที่ไปตรวจเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งจังหวัดราชบุรีมีผู้ผ่านเข้ารอบนี้ทั้งหมด 458 คน ไม่มารายงานตัว 4 คน ซึ่งตนเดินทางไปในช่วงที่เปิดให้รายงานตัว ประมาณ 08.30 น.การจัดสถานที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้สมัครเป็นไปด้วยดีไม่มีปัญหา และยังได้เห็นภาพการมีส่วนร่วมของประชาชน และภาคส่วนต่างๆที่เข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้ง ซึ่งถือเป็นการตรวจสอบการเลือกในครั้งนี้ด้วย ในขณะที่จังหวัดนครปฐมก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อยเช่นเดียวกัน มีผู้สมัครมารายงานตัวครบ 210 คน ได้เห็นความพร้อมของเจ้าหน้าที่และความตั้งใจของผู้สมัคร ที่จะปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย
นายอิทธิพร กล่าวต่อว่า ได้รับรายงานจากผู้อำนวยการกกต. กทม. ว่า จากผู้สมัครทั้งหมด 1,634 คน มีผู้ไม่มารายงานตัว 17 คน ส่วนอีก 1 คนมารายงานตัวแต่ไม่สามารถเข้ารับการเลือกในรอบนี้ได้เนื่องจากเอกสารไม่ครบ ซึ่งการคัดเลือกวันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยยังไม่ได้รับรายงานถึงปัญหาและอุปสรรคใดๆ
เมื่อถามว่ามีผู้สมัครที่ตกรอบบางราย ออกมาเปิดเผยว่า มีการส่งโพยรายชื่อผู้สมัคร ประธานกกต. กล่าวว่า ผู้สมัครสามารถส่งเรื่องโดยตรงมาที่กกต. หรือยื่นต่อศาลฎีกาได้ภายใน 3 วัน ซึ่งจะต้องดูพยานหลักฐานว่าเป็นหลักฐานที่แท้จริงหรือไม่ หากเป็นของจริงก็จะเข้าสู่กระบวนการสอบสวนเพื่อนำสู่การวินิจฉัยโดยเร็ว ทั้งนี้การตรวจสอบทั้งหมดขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน หากพยานหลักฐานมีไม่ถึงแต่ยังเข้าสู่กระบวนการต่อไปก็จะไม่เป็นธรรมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นอยากให้ทุกคนส่งพยานหลักฐานมาให้กับกกต. เพื่อป้องกันและปราบปรามการทุจริต ซึ่งตอนนี้มีคำร้องเกี่ยวกับการเลือกสว. ในระดับอำเภอมีทั้งหมด 78 คำร้อง เป็นคำร้องเกี่ยวกับกระบวนการคัดเลือก 11 คำร้อง ที่จะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จก่อนการเลือกในระดับจังหวัด ซึ่งกกต.ก็พิจารณาเสร็จแล้ว ส่วนอีก 67 คำร้องเป็นการร้องเกี่ยวกับการกระทำการให้ประโยชน์ หรือเงินเพื่อให้มาสมัคร ส่วนในระดับจังหวัดมีแล้ว 2 คำร้อง คือที่จังหวัดพะเยาและมหาสารคาม
เมื่อถามว่ามีผู้สมัครร้องเรียนเรื่องการนับคะแนน นายอิทธิพร กล่าวว่า การคัดค้านเรื่องการนับคะแนนจะต้องกระทำในระหว่างที่มีการนับคะแนนเกิดขึ้นแล้วจะต้องมีการกรอกคำร้อง เพื่อดำเนินการแก้ไขในขณะนั้นเลย แต่ถ้าผู้ปฏิบัติเห็นว่าดำเนินการถูกต้องแล้ว ผู้ร้องก็สามารถยื่นให้กกต. พิจารณาโดยเร็ว หากเห็นว่ามีข้อผิดพลาดก็สามารถนับคะแนนใหม่ได้ แต่ถ้าเห็นว่าดำเนินการถูกต้องแล้วก็จะยกคำร้อง โดยจะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จ ก่อนที่จะมีการเลือกในระดับประเทศ
“เชื่อว่าการประกาศผลจะเกิดขึ้น ภายในวันที่ 2 กรกฎาคม ตามกำหนดเดิม ไม่น่าจะมีปัจจัยอะไรที่ทำให้กระทบต้องเลื่อนการประกาศผล เพราะหากเกิดขึ้นจากกระบวนการก็สามารถสั่งได้อย่างรวดเร็ว ส่วนคำร้องเรื่อง การกระทำผิดของรายบุคคลเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา เข้าสู่ กระบวนการสืบสวนไต่สวนให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งหากมีการประกาศรายชื่อผู้ที่ผ่านการเลือกไปแล้วและมาพบว่าขาดคุณสมบัติทีหลังก็สามารถเลื่อนรายชื่อสำรองขึ้นมาแทนได้” นายอิทธิพร กล่าว
เมื่อถามว่าหากศาลรัฐธรรมนูญได้นัดอ่านคำวินิจฉัย ว่า พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสว. มาตรา 36 40 41 และ 42 ขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 107 หรือไม่จะกระทบ ต่อการเลือกสว. หรือไม่นั้น ประธานกกต. กล่าวว่า ศาลจะมีคำวินิจฉัยในอีก 2 วันข้างหน้า ซึ่งเลขากกต.ได้ให้ข่าวไปแล้ว ว่า ได้มีการเตรียมความพร้อมไว้แล้วหากมีคำวินิจฉัยเป็นอย่างอื่น แต่เนื่องจากเรื่องนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลจึงไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดในตอนนี้