“นอร์ทกรุงเทพ”เผยผลสำรวจ ชี้คนไทย 67.8 เปอร์เซ็นต์ชอบนโยบาย “หวยเกษียณ”เหตุมีประโยชน์ในการออมในการใช้เงินหลังเกษียณได้
เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.67 ผศ.ดร.สานิต ศิริวิศิษฐ์กุล หัวหน้าแผนกวิจัย สำนักวิจัย มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ เปิดเผยว่า จากที่พรรคเพื่อไทยได้ออกนโยบาย “สลากเกษียณ หรือหวยเกษียณ” เพื่อต้องการส่งเสริมการออมทรัพย์ และเป็นการรองรับการเกษียณแก่ประชากร สอดคล้องกับสถานการณ์ผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งนี้หวยเกษียณนั้น เป็นสลากสะสมทรัพย์เพื่อเงินออมยามเกษียณ ที่กระทรวงการคลังเปิดตัวเพื่อส่งเสริมการออมสำหรับผู้สูงอายุ โดยจะมีการออกรางวัลทุกสัปดาห์ และมีรางวัลสูงสุด 1 ล้านบาท สำหรับผู้ที่ซื้อสลากใบละ 50 บาท ขณะที่จุดเด่นของหวยเกษียณ คือ หากไม่ถูกรางวัล เงินที่ซื้อสลากจะไม่หายไป แต่จะถูกเก็บสะสมเป็นเงินออม และสามารถถอนเงินออกมาได้เต็มจำนวนเมื่ออายุครบ 60 ปี ทำให้หวยเกษียณเป็นทางเลือกการออมที่น่าสนใจและได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก
ผศ.ดร.สานิต กล่าวว่า พร้อมกันนี้หวยเกษียณ จะเป็นการขายให้กับสมาชิก กอช. หรือผู้ประกันตนมาตรา 40 และแรงงานนอกระบบ (อาจมีกลุ่มเป้าหมายจะเพิ่มเติมภายหลัง) โดยมีเงื่อนไขดังนี้ 1.ผู้มีสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 15-60 ปี 2. เกษตรกร ค้าขาย รับจ้างทั่วไป 3. ผู้ประกันตน ม.40 ทางเลือก 1 (ผู้ประกันตนจ่ายเองเดือนละ 70 บาท) 4. ผู้ที่ไม่เป็นสมาชิกกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) 5. ผู้ที่ไม่เป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยตัวอย่างอาชีพที่สมัคร กอช.ได้ เช่น เกษตรกร ค้าขาย แม่บ้าน เจ้าของร้าน ฟรีแลนซ์ ขับรถรับจ้าง แท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง เป็นต้น โดยข้าราชการ ผู้ประกัน ม.33, และ 39 ไม่สามารถสมัครได้
ผศ.ดร.สานิต กล่าวว่า ส่วนเงื่อนไขในการซื้อหวยเกษียณนั้น กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ออกสลากขูดแบบดิจิทัล ใบละ 50 บาท และผู้ซื้อจะต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยสลากที่ซื้อจะต้องถูกเก็บไว้จนกว่าจะอายุครบ 60 ปี รวมถึงซื้อได้ไม่เกิน 3,000 บาทต่อเดือนและซื้อสลากได้ทุกวัน พร้อมกันนี้หวยเกษียณ เปิดให้ซื้อผ่าน แอปพลิเคชั่น กอช. เบื้องต้นนโยบายดังกล่าวอยู่ระหว่างการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย คาดใช้ระยะเวลาประมาณ 6เดือน – 1ปี เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน
ผศ.ดร.สานิต กล่าวว่า ดังนั้นจากที่ประชาชนให้ความสนใจสูง ทาง สำนักวิจัย มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ จึงได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ระหว่าง วันที่ 6-8 มิ.ย.67 จำนวน 1,500 ราย พบว่าประชาชนส่วนใหญ่มองว่าเห็นด้วยกับนโยบายที่จัดทำขึ้น และเห็นด้วยว่ามีประโยชน์ โดยเฉพาะเรื่องการออมเงินไว้ใช้ยามหลังเกษียณ
โดยการสำรวจได้ถามถึงเห็นด้วยหรือไม่กับนโยบาย พบว่า ประชาชน เห็นด้วย ร้อยละ 67.8 ไม่แน่ใจ ร้อยละ 34 และไม่เห็นด้วย ร้อยละ 8.2 พร้อมสอบถามผู้สำรวจต่อว่า หวยเกษียณมีจะประโยชน์ต่อการออมเงินไว้ใช้ยามหลังเกษียณได้ มากน้อยเพียงใด พบว่า ช่วยได้มาก ร้อยละ 70.2 ช่วยได้น้อย ร้อยละ 24.07 และช่วยไม่ได้เลย ร้อยละ 5.1
สำหรับความเข้าใจต่อนโยบายนั้น พบว่า ผู้ให้การสำรวจมีความเข้าใจ ร้อยละ 40.7 ขณะที่ค่อนข้างเข้าใจ ร้อยละ 43.7 และไม่เข้าใจเลย ร้อยละ 15.6