ปัจจัยความเชื่อมั่นทางการเมืองเป็นมรสุมลูกใหญ่ที่ถาโถมถล่ม “รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน” แม้ 314 เสียงสส.ค้ำบัลลังก์อำนาจ ก็ไม่สามารถช่วยต้านทานได้
ความอ่อนไหวของตลาดหุ้นเป็นตัวชี้วัดได้อย่างดี ดิ่งเหวร่วงไป 227 จุด นับตั้งแต่รัฐบาลที่ขึ้นชื่อว่า มีฝือมือกอบกู้เศรษฐกิจเข้ามาโชว์ฝีมือบริหาร ต่างชาติเทขาย 1.5 แสนล้านบาท ความมั่งคั่งตลาดหลักทรัพย์หายแว๊บไป 2.6 ล้านล้านบาท
ปัญหาทั้งหมดเกิดจากฝีมือรัฐบาล อาทิ ดึงร่างพ.ร.บ.งบประมาณร่ายจ่ายปี 67 มาทำใหม่ ตั้งธงเกลี่ยงบฯ มาขับเคลื่อนโยบายเรือธงดิจิทัลวอลเล็ต ความล่าช้าประกาศใช้งบแผ่นดินสุดท้ายเงินในระบบแห้งเหือด ขาดเม็ดเงินจากงบประมาณแผ่นดินอัดฉีดเข้าระบบ
นโยบายเรือธงเร่งด่วนติดหล่ม จนถึงวันนี้ยังไม่นิ่ง แม้ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกฯ ย้ำกลางที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 68 วงเงิน 3.75 ล้านล้านบาท เน้นให้เห็นภาพใหญ่เศรษฐกิจเติบโตเต็มศักยภาพ
“ดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ถึงมือคนไทย 50 ล้านคน ปลายปี 67 เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจ กระตุ้นเศรษฐกิจทั่วถึง”
ยังขัดแย้งมุมมอง “แบงก์ชาติ” หรือ ธนาคารแห่งประเทศไทย โดย “เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ ระบุผ่านสำนักข่าวบลูมเบิร์กก่อนที่นายกฯ แถลงต่อที่ประชุมสภาฯแค่วันเดียวว่า “ขอยึดมั่นจุดยืนเดิมคัดค้านแผนแจกเงิน 5 แสนล้านบาท ควรคิดให้รอบคอบ มุ่งเน้นแจกเฉพาะผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 15 ล้านคน”
ยิ่งเห็นข้อมูลอีกชุดแล้วเสียวไส้แทนรัฐบาล ดิจิทัลวอลเล็ตห้อยต่องแต่งเหมือนไม่มีอนาคต โดย “จุรินทร์ ลักษณ์วิศิษฏ์” แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ดักคอรัฐบาล “นโยบายเรือธง” ที่กลายเป็น “นโยบายเรือเกลือ” ถึงที่มาของงบประมาณ 5 แสนล้าน จาก 3 แหล่งจากงบฯ ปี 68 ยอด 152,700 ล้านบาท, งบปี 67 ยอด 175,000 ล้านบาท, เตรียมกู้หรือยืมธ.ก.ส. ยอด 172,300 ล้านบาท รวม 5 แสนล้านบาท แต่ทุกฝ่ายข้องใจว่า วันนี้รัฐบาลยังไม่มีเงินสำหรับเคลื่อนนโยบายเรือธงสักบาท
เพราะงบฯปี 68 ยังรอให้ผ่านสภาฯ, งบปี 67 กำลังออกเป็นพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมเข้าสภาเดือนก.ค.67 ขอมาแค่ 122,000 ล้านบาท ยังขาดอีก 53,000 บาท ถึงได้ยอด 175,000 ล้านบาท
และเงินจากธ.ก.ส.ยังลูกผีลูกคน รอคณะกรรมการกฤษฎีกาชี้ยืมเงินธกส.ได้หรือไม่ สุ่มเสี่ยงขัดต่อการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ตามพ.ร.บ.ธ.ก.ส.
ว่ากันว่า สุดท้ายรัฐบาลตั้งแท่นโยกเงินฉุกเฉินปี 67 ที่ตั้งไว้ 99,500 ล้านบาท โดยมีพิรุธเบิกจ่ายงบฉุกเฉินต่ำเตี้ยเรี่ยดิน แค่หลักพันล้าน ข้อสมมติฐานนี้เป็นจริงเท่ากับรัฐบาลเดิมพันประเทศ โดยพยายามไม่ใช้งบปี 67 กดจีดีพี 67 ให้เติบโตต่ำกว่าเดิม เพื่อแลกกับเอางบประมาณไปสนองความต้อง การของพรรคเพื่อไทย
ฉะนั้นงานนี้ต่อให้ “เศรษฐา” รอดพ้นจากการถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งนายกฯ แต่ปัจจัย “ความเชื่อมั่นทางการเมือง” ยังเป็นมรสุมลูกใหญ่ที่ถาโถมถล่มรัฐบาล จนกว่าจะกล้าตัดสินใจฉีดยาแรงปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ การเมือง และผลิตนวัตกรรมโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล
……………………………
คอลัมน์ : ไขกุญแจ-ไขแหลก
โดย #ราษฎรเต็มขั้น
