สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ระลอกที่ 3 อย่างนี้การทำงานที่บ้าน หรือ เวิร์ก ฟรอม โฮม (Work From Home) น่าจะยังเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการ ลดความเสี่ยงจากติดเชื้อและแพร่ระบาด
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น หลายกลุ่มวัยหลายอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ทำงาน สถานประกอบการ ซึ่งสถานที่เหล่านี้จะมีกลุ่มวัยทำงานที่อาจนำพาความเสี่ยงโรคโควิด-19 ไปสู่การติดเชื้อของสมาชิกภายในครอบครัว หรือในชุมชน รัฐบาลจึงได้ประกาศให้มีมาตรการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง หรือที่บ้าน เพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ทั้งนี้ นพ.สุวรรณชัยกล่าวว่า เพื่อให้การเวิร์ก ฟรอม โฮม ป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ กรมอนามัยมีข้อแนะนำ หลักปฏิบัติสำหรับกลุ่มวัยทำงาน ดังนี้
1.หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับบุคคลอื่นไม่คลุกคลีกับเด็กเล็กและผู้สูงอายุ เว้นระยะห่างต่อกัน หมั่นล้างมือ และถ้าจำเป็นต้องใกล้ชิดกับผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยโรคเรื้อรังควรสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา
2.สังเกตอาการตัวเอง และวัดไข้ทุกวัน หากมีไข้สูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ร่วมกับมีอาการทางเดินหายใจ ตาแดง ผื่นแดง ถ่ายเหลว ให้รีบปรึกษาแพทย์หรือไปพบแพทย์ทันที
3.ประเมินตนเองด้วยโปรแกรม หรือแอพพลิเคชั่นที่ทางราชการกำหนด หรือเลือกใช้แอพพ์ “ไทยเซฟไทย”
4.ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกัน เช่น แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า
5.โต๊ะทำงานที่บ้านควรอยู่ในบริเวณที่โปร่ง โล่ง ไม่อยู่ใกล้กับผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ควรเปิดประตูหน้าต่างเพื่อให้มีการระบายอากาศสู่ภายนอกเป็นระยะ
6.หมั่นทำความสะอาดบ้าน ที่พักอาศัย อุปกรณ์ และบริเวณที่มีผู้สัมผัสร่วมกัน เช่น ราวบันได ลูกบิดประตู ห้องน้ำ ด้วยน้ำผสมผงซักฟอกหรือน้ำผสมน้ำยาฟอกขาว หรือน้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของโซเดียมไฮโปคลอไรท์ 0.5% หรือแอลกอฮอล์ 70% รวมถึงของใช้ส่วนตัว เช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ และควรแยกทิ้งหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้ว มัดถุงให้เรียบร้อย รวมทั้งซักทำความสะอาดหน้ากากผ้าทุกวันและตากแดดให้แห้งก่อนใช้งานทุกครั้ง
เมื่อนั่งทำงานเป็นระยะเวลานาน ควรลุกขึ้นยืดเหยียดกล้ามเนื้อทุกๆ 1 ชั่วโมง และออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที โดยเปิดคลิปออกกำลังกายที่บ้าน โยคะ หรือการทำงานบ้าน เช่น กวาดบ้าน ถูบ้าน รวมทั้งกินอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ ปรุงสุก ร้อน ใช้ช้อนกลางส่วนตัว ลดหวาน มัน เค็ม และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงการกินอาหารร่วมกัน งดการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ภายในบ้าน และควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 7-9 ชั่วโมง
นอกจากนั้นต้องประเมินความเครียดของตัวเองด้วย ซึ่งหากพบว่ารู้สึกเครียดทั้งในเรื่องการทำงาน หรือความวิตกกังวลจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก็สามารถจัดการความเครียดได้ง่ายๆ ด้วยการทำกิจกรรมทางกาย ฟังเพลง ดูทีวี หรือนั่งสมาธิ ก็จะช่วยให้ผ่อนคลาย และที่สำคัญในระหว่างเวิร์ก ฟรอม โฮม ควรงดออกจากบ้านหรือที่พักอาศัยหากไม่มีความจำเป็น เพื่อลดความเสี่ยงในการสัมผัสเชื้อได้อีกทางหนึ่งด้วย” อธิบดีกรมอนามัยกล่าว
