“สหรัฐอเมริกา” เริ่มดำเนินมาตรการลงโทษ “เมียนมา” เนื่องจากมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการรัฐประหารของกองทัพเมียนมา โดยเริ่มจากธนาคารของเมียนมา 2 แห่ง และ บริษัทเมียนมา ออยล์ แอนด์ แก๊ส เอ็นเตอร์ไพรซ์ หรือ MOGE เพื่อปิดกั้นเงินรายได้ของกองทัพเมียนมา
จากมาตรการลงโทษดังกล่าว อาจส่งผลกระทบกับธุรกิจก๊าซของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เนื่องจากความเสี่ยงในการละเมิด มาตรการลงโทษ เพราะต้องชำระเงินในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่บริษัท 2 แห่งที่ได้ลงทุนในเมียนมา
จากนั้น “ปตท.” ได้ยื่นคำขอต่อ สำนักงานควบคุมทรัพย์สินในต่างประเทศ เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจและชำระเงินให้ MOGE ต่อมาได้ใบอนุญาต เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2566 และจะต้องมีการเจรจาทุก 6 เดือน โดยที่ผ่านมา สามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่น ไม่กระทบมาตรการคว่ำบาตร
อย่างไรก็ตาม ใบอนุญาตดังกล่าว ครบกำหนดในวันนี้ คือวันที่ 30 มิถุนายน สำหรับการดำเนินธุรกิจด้านการสำรวจและผลิต รวมถึงการชำระค่าก๊าซให้กับเมียนมา อย่างไม่มีข้อห้าม
โดยหลังจากนี้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ได้หารือที่ปรึกษาทางกฎหมาย และธนาคารกลางสหรัฐ (FED) เพื่อที่จะขอต่ออายุของหนังสือสัญญาดังกล่าวให้มีอายุการใช้งานมากขึ้น
จากเดิม ใบอนุญาตที่มีระยะเวลา 6 เดือน ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดเตรียมเอกสารและเจรจาหาข้อสรุป โดยอ้างอิงจากประวัติของการดำเนินธุรกิจ และความสัมพันธ์ในการดำเนินการกับทางสหรัฐอเมริกา ในข้อจำกัดต่างๆ ที่สหรัฐอเมริกาได้มีข้อกำหนดในเมียนมา
![](https://k7ua1a.n3cdn1.secureserver.net/wp-content/uploads/2023/05/25630427-Press-Release_ปตท.-มั่นใจในศักยภาพการบริหารจัดก.jpg)
ที่ผ่านมา บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ได้มีการปฏิบัติตามเงื่อนไขอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด แสดงให้เห็นว่า ไทยให้ความร่วมมือกับสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างดี
ดังนั้น คาดว่าสหรัฐอเมริกาจะพิจารณาจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ในอนาคต ที่ประเทศไทยคาดหวังจะขอขยายอายุการใช้ Letter of Comfort และ Specific License โดยคาดว่าจะสามารถขยายเวลาได้นานขึ้น
ในที่ประชุม กมธ.ต่างประเทศ วุฒิสภา มีการหารือเรื่องดังกล่าวด้วยว่า การที่ไทยชำระค่าก๊าซให้กับเมียนมาผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จะเป็นการให้การสนับสนุนทางการเงินบริษัท MOGE ของเมียนมาหรือไม่ และจะส่งผลกระทบต่อท่าทีของสหรัฐอเมริกาที่มีต่อไทยอย่างไร
“วรนล จันทร์ศิริ” ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ กระทรวงพลังงาน ได้ให้ข้อมูลว่า จากการที่สหรัฐอเมริกาประกาศคว่ำบาตรเมียนมา โดยกำหนดไม่ให้ใช้เงินดอลลาร์สหรัฐในการจ่ายให้บริษัท MOGE
![](https://k7ua1a.n3cdn1.secureserver.net/wp-content/uploads/2024/07/ioi.jpg)
ทางการไทยจึงได้มีการชำระเงินในรูปแบบเงินบาทแทน โดยขณะนี้ ยังไม่พบปัญหาอุปสรรคในการใช้เงินบาทจ่ายค่าก๊าซในเมียนมา โดยที่ผ่านมา กระทรวงพลังงาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กระทรวงการต่างประเทศ และสถานทูตสหรัฐอเมริกา
ทั้งหมด ได้ร่วมกันหารือกันว่ามีวิธีอื่นใดหรือไม่ ที่ไทยจะสามารถลงทุนในเมียนมาโดยไม่ติดมาตรการคว่ำบาตรและลงทุนได้อย่างเหมาะสม หนึ่งในนั้นมีการหยิบยกรูปแบบการจ่ายเงินผ่านเอสโครว์แอคเคานท์
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทพลังงาน MOGE ของทางการเมียนมา ต้องการที่จะมีการซื้อขายก๊าซธรรมชาติด้วยเงินบาท มากกว่าการซื้อขายผ่านเอสโครว์แอคเคานท์
ทั้งนี้ ตัวแทนกระทรวงพลังงานยืนยันว่า การซื้อขายก๊าซธรรมชาติด้วยเงินบาทในปัจจุบัน ไม่ได้ผิดมาตรการคว่ำบาตรเมียนมาของสหรัฐ แต่กระทรวงพลังงาน จะได้ติดตามสถานการณ์ในระยะยาวต่อไป ว่าสหรัฐอเมริกาจะดำเนินมาตรการคว่ำบาตรเมียนมามากขึ้นหรือไม่ อย่างไร
ปตท. ชะลอแผนลงทุน “เมียนมา” จากภาวะสงคราม
สำหรับ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ได้มีการลงทุนโครงการด้านพลังงานโดยเน้นความมั่นคงของประเทศเป็นหลัก โดยได้มีการลงทุนในเมียนมา 3 รูปแบบ ได้แก่
1.ธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้น (Upstream) จำนวน 4 บริษัท ได้แก่
-Yadana Project
-Yetagun Project
-Zawtika Project
-M3 Project
ในช่วงที่มีสถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมา ได้มีการถอนการลงทุนในบริษัท Yetagun Project รวมถึงการหยุดพัฒนา M3 Project
2.ธุรกิจด้านก๊าซธรรมชาติและพลังงาน (Gas & Power) จำนวน 3 บริษัท ได้แก่
-Gas to Power Project
-Industrial Zone Project
-Yangon Industrial Gas
จากสถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมา ทำให้ต้องมีการชะลอการดำเนินการทั้ง 3 บริษัท
3.ธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย (Downstream) จำนวน 2 บริษัท ได้แก่
-Plastic Plant
-Oil station & terminal
จากสถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมา ทำให้ Oil station & terminal ได้มีการชะลอการดำเนินการ
สำหรับประเทศเมียนมาส่งออกก๊าซธรรมชาติให้แก่ไทยในสัดส่วนร้อยละ 15 ของการบริโภคในไทย ดังนั้น จึงมีบทบาทด้านความมั่งคงทางพลังงานกับไทยสูง ในขณะที่เมียนมาพึ่งพาน้ำมันจากไทยเพียงร้อยละ 5 เท่านั้น
………..
รายงานพิเศษ : ฟ้าคำราม